ยูพีเอส อาจเป็นที่รู้จักกันดีในแบบ พนักงานขับรถในชุดเครื่องแบบและพาหนะนำส่งพัสดุสีน้ำตาล แต่เนื้อแท้บริษัทนั้นถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้พนักงานให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปี 2018 ก็เป็นปีแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมของยูพีเอสจริงๆ
UPS ก่อตั้งขึ้นในปีพ. ศ. 2450 ในฐานะผู้ให้บริการส่งสารด้วยโทรศัพท์สองเครื่องที่สื่อสารระหว่างกัน และปัจจุบันเมื่อเข้าสู่ยุคปฏิวัติเทคโนโลยี UPS ก็ได้พัฒนาเทคโนโลยีที่มุ่งเน้นการบริการ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อินเทอร์เน็ตในอุตสาหกรรมสิ่ง (IIoT)
และการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง จากผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และวิศวกรของบริษัท ซึ่งทำงานร่วมกับช่างเทคนิคนักคณิตศาสตร์และนักวิเคราะห์ข้อมูลทั่วโลก เพื่อลดความซับซ้อนของปัญหาการจัดส่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก
Juan Perez หัวหน้าฝ่ายข้อมูลและฝ่ายวิศวกรรมของ ยูพีเอส กล่าวว่า “ UPS มีชื่อเสียงในด้านวัฒนธรรมการให้บริการ และเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการสร้างอาชีพ ซึ่งเราประสบความสำเร็จอย่างมากในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยเสริมประสบการณ์ลูกค้าให้ดีขึ้น และทำให้ธุรกิจของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
“ตัวอย่างเช่นระบบ GPSแบบดั้งเดิมเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาระบบ UPSNav ซึ่งจะช่วยควบคุมทิศทางให้เราไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น หรือเทคโนโลยี ORION อัลกอริทึมของการจัดการเส้นทางที่ซับซ้อนซึ่งพัฒนาโดย UPS สามารถปรับเส้นทางการส่งมอบพัสดุให้มีประสิทธิภาพกว่า 30,000 เส้นทางในทุกนาที
หรือผู้ช่วยเสมือนของ UPS.com ซึ่งเมื่อปีที่แล้วมีบทบาทสำคัญในการให้คำตอบกับลูกค้าของเรา ช่วยประหยัดเวลาและความพยายามของทีมงานเป็นอย่างมาก เทคโนโลยีอยู่ใน DNA ของเราและเราก็ใช้มันเพื่อเปลี่ยนวิธีที่เราช่วยเหลือลูกค้าของเราทุกวัน”
การปรับใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นนำในอุตสาหกรรมได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกดิจิทัลของ UPS โดยในการจัดอันดับในปี 2561 ของสถาบัน Drucker ซึ่งจัดอันดับ บริษัท มหาชนสหรัฐที่มีขนาดใหญ่ เพื่อประสิทธิภาพขององค์กร จัดให้ UPS อยู่ในอันดับที่ 20 จากจำนวนกว่า 750 บริษัท นอกจากนี้ยังติดหนึ่งในรายชื่อ JUST 100 ที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมโลก
และติดดัชนีความยั่งยืนโลกของตลาดหุ้น Dow Jones และดัชนีความเชื่อมั่นของแฮร์ริสโพล (ลำดับที่ 7) และบริการลูกค้าที่ดีที่สุดของ Newsweek (อันดับ 1 ในบริการจัดส่งและจัดส่ง) อีกทั้งยูพีเอสยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ทรงคุณค่าที่สุดของฟอร์จูน (อันดับ 1 ด้านการขนส่งและอันดับที่ 44 โดยรวม) และแบรนด์ยอดนิยมของ Business.org ในแปดรัฐซึ่งมากกว่า บริษัท อื่น ๆ
ความสำเร็จของ UPS ซึ่งเปิดตัวในปีที่ผ่านมานั้น ได้มีการใช้งานในสาขาต่างๆทั่วโลก รวมถึงฮับระดับภูมิภาคที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งในแอตแลนตาและ Salt Lake City ซึ่งมีทั้ง:
- UPSNav เป็นความก้าวหน้าที่สำคัญสำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการนำทางแบบรวม ภายใต้เทคโนโลยี On-Road Integrated Optimization and Navigation (ORION) UPSNav ที่มอบความแม่นยำของการจัดการเส้นทางภายในระยะเวลาเสี้ยววินาทีให้กับพนักงานขนส่ง UPS ซึ่งไม่มีใน GPS ทั่วไป ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นกับลูกค้า
- Network Planning Tools (NPT) เครื่องมือการวางแผนเครือข่าย ที่ได้รวมการวิเคราะห์ขั้นสูงของปัญญาประดิษฐ์และการวิจัยการดำเนินงานในการประสานงานจราจรทางอากาศและทางรถไฟระหว่างฮับได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการเรียงลำดับการจัดส่งพัสดุได้อย่างดีเยี่ยม พลังงานของ NPTช่วยทำให้ ยูพีเอส สามารถให้บริการที่เชื่อถือได้มากขึ้นแก่ลูกค้า
- Harmonized Enterprise Analytics Tool (HEAT) เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ความสอดคล้องให้กับองค์กร ช่วยให้ฮับสามารถคาดการณ์ปริมาณพัสดุที่จะต้องดำเนินการได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นภายในศูนย์บริการ โดย HEAT ยังสร้างประสิทธิภาพเครือข่ายและช่วยให้ UPS สามารถให้บริการลูกค้าได้ดีขึ้น ซึ่งบทบาทของโวลูชั่นนี้พัฒนาได้ดีขึ้นอีกในปี 2019
- Mobile tools อุปกรณ์มือถือ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสถานะการณ์จริง และแอปพลิเคชั่นตัวช่วยในการจัดส่งใหม่ ยังช่วยเพิ่มความเร็วในการฝึกอบรมสำหรับพนักงานจัดส่งตามฤดูกาลมากกว่า 50,000 คน ซึ่งเครื่องมือนี้ยังช่วยให้การบริการลูกค้าได้ดีขึ้นอีกด้วย
- Dynamic Sort Instruction (DSI) เทคโนโลยีนี้ช่วยแปลงกระบวนการเรียงลำดับการจัดส่งที่ซับซ้อน ให้การสแกนพัสดุเป็นเรื่องง่ายได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้ DSI สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและลดระยะเวลาการฝึกอบรมสำหรับพนักงานขนส่งใหม่ และพนักงานปกติที่ทำงานอยู่ภายในบริษัท
การมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มดิจิทัลตลอดปี 2018
- การปรับปรุงการจัดส่งทางอินเทอร์เน็ตของ UPS เช่นการผสานรวมกับ 18 eMarketplaces เพื่อรองรับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ
- การปรับปรุงการติดตาม / การจัดการของ UPS รวมถึงความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของวันที่และเวลาในการจัดส่งโดยประมาณ
- การแจ้งเตือนการนำเข้าออนไลน์ที่ง่ายขึ้น
- UPS My Choice ถูกขยายไปยังประเทศอื่น ๆ มากขึ้น ช่วยให้ผู้บริโภคเพลิดเพลินกับความยืดหยุ่นที่ UPS My Choice ขยายการส่งมอบภาคพื้นดินของวันเสาร์ ทำให้ลูกค้าสามารถเร่งการส่งมอบในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ก่อนหน้าได้มากขึ้น
- เปิดตัวแพลตฟอร์มบรรจุภัณฑ์ Cold Chain ที่ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพแก่ลูกค้าด้านการขนส่งที่ไวต่ออุณหภูมิมากขึ้น
- UPS Return Manager ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคคืนแพคเกจได้ง่ายขึ้นและง่ายขึ้นสำหรับผู้จัดส่งเพื่อกำหนดและจัดการนโยบายการส่งคืน
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีบางอย่างได้ถูกนำไปใช้ เพื่อปรับปรุงการจัดส่งของยูพีเอสทั่วโลกให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ในยานพาหนะมากกว่า 125,000 คัน นอกจากนี้ UPS กำลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อรองรับเครื่องยนต์ไฟฟ้าและก๊าซธรรมชาติอัด (CNG)อีกด้วย
กลุ่มบริษัทที่นำโดย UPS ในลอนดอนได้ปรับใช้เทคโนโลยีการชาร์จแบบใหม่ที่สามารถเอาชนะความท้าทายในการชาร์จยานพาหนะไฟฟ้า (EV) ทั้งหมดพร้อมกันได้แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องอัพเกรดไปสู่เครือข่ายไฟฟ้าแบบกริดอันแสนแพง
UPS ยังได้ติดตั้งระบบไฟฟ้าเข้ากับรถสามล้อบรรทุกสินค้า ในเมืองที่มีการจราจรหนาแน่นสูงกว่า 30 แห่งทั่วโลก เพื่อช่วยลดความแออัดของการจราจรและการปล่อยมลพิษ และปัจจุบัน UPS กำลังทำการทดสอบจักรยานคาร์โก้รุ่นหนึ่ง ซึ่งมีกล่องบรรจุภัณฑ์แบบถอดได้ ช่วยให้พนักงานสามารถยกสินค้าขึ้น-ลง ได้เร็วขึ้นตลอดทั้งวัน
“สิ่งหนึ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดของการทำงานกับยูพีเอส นั่นคือการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ให้พนักงานของเรา สามารถใช้กับสภาพแวดล้อมในโลกแห่งความเป็นจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ” Perez กล่าว
“เรากำลังเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมากขึ้น รับโอกาสมากขึ้นและให้โลกได้เห็นว่า ยูพีเอส จะมีหน้าตาเป็นอย่างไรในอีกหลายปีข้างหน้า ในขณะที่เรายังคงสร้างเครือข่ายโลจิสติกส์อัจฉริยะระดับโลกของเราต่อไป”
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
