เบนคิวเสริมทัพกลุ่ม Home Cinema ด้วยโปรเจคเตอร์ใหม่ รุ่น CinePrime W5700 นำเสนอการแสดงค่าสีครอบคลุมมาตรฐาน DCI-P3 ถึง 100% เทียบเท่ากับมาตรฐานโรงภาพยนตร์ พร้อมรองรับระบบ 4K HDR-PRO™ รองรับกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบโฮมเธียเตอร์ หรือโรงภาพยนต์ขนาดเล็ก
ให้สัมผัสกับประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์อย่างแท้จริง หวังขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคกว้างขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดโปรเจคเตอร์ 4K จากเดิม 39% ในปีที่ผ่านมาเป็น 45% ในปีนี้
โดยก่อนหน้านี้เบนคิวได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่ม CinePrime Series รุ่น W2700 โปรเจคเตอร์ DLP ระดับ 4K รองรับ HDR-PRO™ ที่ออกแบบการฉายภาพในระยะสั้นให้เหมาะสำหรับโฮมเธียเตอร์ ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี
ด้วยจุดเด่นที่สามารถแสดงค่าสีได้ครอบคลุมมาตรฐาน DCI-P 3 ถึง 95% ส่งผลให้เบ็นคิวได้รับส่วนแบ่งทางการตลาดถึง 41.27% ขึ้นอันดับ1 ต่อเนื่องในกลุ่มผลิตภัณฑ์โปรเจคเตอร์ 4K และยอดขายทั่วโลกของเบ็นคิว ยังครองตำแหน่งแบรนด์โปรเจคเตอร์ DLP อันดับหนึ่งติดต่อกัน 11 ปีซ้อน
นายวัชรพงษ์ วงษ์มา ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ บริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เบนคิวนำเสนอเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้การเติบโตในไตรมาสแรกของปี 2562 รับส่วนแบ่งการตลาด 41.27% ครองแชมป์อันดับ 1 อีกครั้ง
ซึ่งในไตรมาสสองนี้ เบนคิวได้นำเสนอ CinePrime W5700 True 4K HDR-PRO™ มารองรับกลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบโฮมเธียเตอร์ หรือโรงภาพยนต์ขนาดเล็ก และโรงภาพยนต์ดิจิตอล ให้สัมผัสกับประสบการณ์ในการชมภาพยนตร์อย่างแท้จริง
ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินไปกับเทคโนโลยี CinematicColor™ พื้นที่การแสดงค่าสีครอบคลุมมาตรฐาน DCI-P3 ที่กว้างเป็นพิเศษ ถึง 100% เทียบเท่ากับวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ พร้อมประสิทธิภาพจาก Delta E<3 ที่ลดหลั่นของน้ำหนักสี
ให้การแสดงค่าสีถูกต้องแม่นยำ ถ่ายทอดเฉดสีออกมาได้เป็นธรรมชาติสมจริง โดยได้รับการการันตีและรับรองคุณภาพจากโรงงาน ตอบโจทย์พื้นที่ในห้องนั่งเล่น หรือจะเป็นโรงภาพยนตร์ดิจิตตอลขนาดเล็ก อีกทั้งยังสามารถให้ภาพที่มีความละเอียดได้มากถึงสี่เท่าตัว
โปรเจคเตอร์ W5700 ให้ความคมชัดระดับ 4K UHD 3840×2160 เรโซลูชัน พร้อมความสามารถในการแสดงผลที่ 8.3 ล้านพิกเซลต่อเฟรมภาพ อัตราส่วนความคมชัด (Contrast Ratio) 100,000:1 โปรเจคเตอร์ W5700 มาพร้อมการประยุกต์ใช้ Single – DMD DLP ขนาด 0.47 นิ้ว
และประกอบด้วยการจัดเรียงเลนส์แก้วชนิด 4K-optimized Lens Array จำนวน 11 ชิ้น 6 กลุ่ม ลงในกรอบโลหะ ซึ่งช่วยเพิ่มความแม่นยำ พร้อมให้แสงสามารถส่งผ่านได้ดี ส่งผลให้ภาพมีความคมชัดและแสดงค่าสีได้เทียบเท่ากับมาตรฐานโรงภาพยนตร์ มีวางจำหน่ายแล้วในราคา 69,900 บาท
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง