iRobot เปิดตัวหุ่นยนต์ทำความสะอาดรุ่นใหม่ iRobot Roomba i7+ รองรับการสั่งการด้วยเสียง พร้อมความสามารถ Imprint ช่วยวางแผนการทำความสะอาดล่วงหน้า และยังมาพร้อมแท่นชาร์จที่รองรับการถ่ายโอนฝุ่นออกจากตัวหุ่นยนต์โดยอัตโนมัติ
นายฮาจิเมะ ฮิกิโน่ รองประธานและผู้จัดการทั่วไป ไอโรบอท คอร์ปอเรชั่น เอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า เราต้องการสร้างหุ่นยนต์ iRobot เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ใช้งานได้ใช้เวลาอันมีค่ากับครอบครัว ได้ใช้้วลากับความสุขที่ตนเองต้องการ
เรามีการลงทุนด้านการวิจัยกว่า 140 ล้านเหรียญในปี 2018ซึ่งคิดเป็น 13%ของรายได้ทั้งหมด
โดยผลิตภัณฑ์ของเรามีหลากลายมาก ทั้งหุ่นยนต์ถูพื้น และหุ่นยนต์ดูดฝุ่น ซึ่งมีการใช้งานใน 25 ล้านครัวเรือนในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
ภายใต้คอนเซ็ปต์ของการออกแบบ ที่ต้องการให้เกิดความง่ายในการใช้งาน อัตโนมัติในการควบคุม และสอดคล้องกับความเป็นส่วนตัวของบ้านอย่างไม่ขัดแย้ง
ด้านนายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีเอชโรโบติก จำกัด ผู้จัดจำหน่ายไอโรบอทในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เปิดเผยว่า เราเริ่มต้นจากการเป็นผู้ใช้งานแล้วประทับใจ จึงอยากจะนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย
เราเชื่อว่า การเปิดตัวครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตที่มากขึ้นให้กับผู้บริโภค ด้วยแนวคิดของการนำเสนอสิ่งดีๆให้กับลูกค้าของเรา ซึ่งเรายืนยันได้จากการใช้เองมาอย่างยาวนาน จากรุ่นแรกที่ผมใช้วันนี้ก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ด้านนายนที สามัคคียกุล ผู้อำนวยการธุรกิจ บริษัท ทีเอชโรโบติก จำกัด เปิดเผยว่า ไอโรบอท Roomba i7+ มาพร้อมนวัตกรรมการทำความสะอาดแบบแปรงปัดคู่ พร้อมความแรงของการดูดเพิ่มขึ้น 10 เท่า
จุดเด่นของ Roomba i7+ อยู่ที่แท่นชาร์จ ที่รองรับการโอนถ่ายฝุ่นจากตัวเครื่องแบบอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่นในตัวเครื่องจะเต็ม
และยังมีเทคโนโลยี Imprint ด้วยรูปแบบบันทึกผังการเดินแต่ละห้องแบบอัตโนมัติ ช่วยสร้างรูปแบบเฉพาะของแผนที่การดูดฝุ่นแต่ละห้อง ที่พร้อมให้สั่งการแยกทำงานแต่ละห้องได้อย่างอิสระ
นอกจากนั้นยังรองรับระบบการสั่งการด้วยเสียง ผ่านอุปกรณ์ Alexa หรือ Google Assitant ช่วยเพิ่มความสะดวกในการสั่งการของผู้ใช้งานมากขึ้น
โดย ไอโรบอท Roomba i7+ เปิดตัวในราคา 53,900 บาท และพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อภายในงาน “iRobot The All New Roomba – Change the Way You Clean Forever” จะจำหน่ายในราคาเพียง 43,990 บาทเท่านั้น
โดยงานจะจัดตั้งแต่วันที่ 23 -26 พฤษภาคม นี้ ณ ลานแฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน