ท่ามกลาง Tech War ที่กำลังเกิดขึ้นอย่างดุเดือดในแวดวงสมาร์ทโฟน แบรนด์ที่กำลังพลิกตัวและน่าจับตามองอีกแบรนด์ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือ ‘โนเกีย’ นั่นเอง วันนี้เราเริ่มเห็นการทำตลาดแบบเงียบๆของแบรนด์ที่เคยยิ่งใหญ่ การมีโอกาสได้พูดคุยกับ “พี่ปาล์มมี่” ธนเดช ช่วงแก้ววิเศษ จากเอชเอ็มดี โกลบอล ทำให้ TheReporter.Asia เห็นความคืบหน้าบางอย่างที่น่าจับตามมอง ภายใต้แนวคิด “สมาร์ทโฟนยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวัน”
Android One รังสรรค์ให้โนเกียเป็น ‘เพียว แอนดรอยด์’ ทุกรุ่น
การจับคู่กันระหว่าง โครงการสร้างระบบปฏิบัติการของกูเกิลอย่าง แอนดรอยด์วัน และโนเกีย เป็นความท้าทายอย่างหนึ่งที่จะต้องปรองดองกันไปตลอดแต่ก็แลกมาด้วยการเป็นพาร์ทเนอร์ที่แน่นแฟ้นกับกูเกิล ซึ่งทำให้เครื่องสมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายในประเทศไทย นับตั้งแต่รุ่นปี 2017 สามารถอัปเกรดเป็นแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 8 (Oreo)ได้ทั้งหมด
ความพิเศษสำหรับการเข้าโครงการแอนดรอยด์วัน นอกจากสมาร์ทโฟนนั้นจะถูกเรียกว่า “เพียว แอนดรอยด์ (Pure Android)” ซึ่งหมายถึงการเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการยกชุดจากแอนดรอยด์ โดยไม่มีการปรุงแต่งแอปพลิเคชั่นหรือหน้าตา UX/UI ใหม่แต่อย่างใด ทำให้สามารถรองรับการอัปเกรดระบบปฏิบัติการได้ยาวนานตลอด 2 ปี(ราว 2 เวอร์ชั่น) และอัปเดตระบบความปลอดภัยของกูเกิลได้ตลอด 3 ปี
ทั้งนี้การอัปเดตความปลอดภัยของแอนดรอยด์ผ่าน Google Play Protects เป็นความพิเศษเฉพาะเครื่อง Pure Android เท่านั้นจะได้รับ ซึ่งจะช่วยสแกนการใช้งานแอปพลิเคชั่นภายในเครื่องด้วยฐานข้อมูลกว่า 5 พันล้านแอปพลิเคชั่น โดยมาตรฐานของผู้ร่วมโครงการแอนดรอยด์วัน จะต้องทำการอัปเดตฐานข้อมูลในระบบภายในระยะเวลา 90 วัน แต่เครื่องโนเกียยืนยันว่าจะมีการอัปเดตทุก 30 วันหรือเดือนละครั้งตลอดทั้งปี
ขณะที่โนเกีย น่าจะเป็นสมาร์ทโฟนเพียงแบรนด์เดียวในโลก ที่พัฒนาสมาร์ทโฟนทุกรุ่นในการใช้ระบบปฏิบัติการ ‘เพียว แอนดรอยด์’ และความร่วมมือกันพัฒนาอย่างใกล้ชิดก็ทำให้เครื่องสมาร์ทโฟนแทบทั้งหมด มีมาตรฐานระดับองค์กรอย่าง Android Enterprise Recommended ติดตัวเครื่องมาด้วย
ตราสัญลักษณ์ Android Enterprise Recommended ไม่ได้มีไว้เล่นๆ แต่เป็นการยืนยันของกูเกิลว่าเครื่องดังกล่าว รองรับการเข้ารหัสสำหรับการใช้งานในระดับองค์กร โดยจะฝังชิปการเข้ารหัสทั้งเข้าและออกของข้อมูลไว้ภายในเครื่อง เพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับเครือข่ายองค์กร ตลอดจนการสั่งการระยะไกลจากผู้ดูแลระบบนั้น เสมือนหนึ่งเครื่อง Enterprise Grade ในราคาผู้บริโภคนั่นเอง
สมาร์ทโฟนโนเกีย 8 รุ่น ได้รับการอัปเกรดสู่ Android 9 Pie
ทำให้ผู้บริโภคสามารถใช้เครื่องสมาร์ทโฟนโนเกียเดิม ได้ต่อไปอย่างน้อย 2 ปี ภายใต้เทคโนโลยีของระบบปฏิบัติการใหม่ได้อย่างสบาย ซึ่งวันนี้ เอชเอ็มดี ประกาศชัดเจนว่า สมาร์ทโฟนโนเกีย 8 รุ่นได้รับการอัปเกรดไปสู่ ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ไปแล้ว โดยจะมีรุ่น Nokia 8, Nokia 8 Sirocco, Nokia 5, Nokia 5.1 Plus, Nokia 7.1, Nokia 6.1 Plus, Nokia 6.1 และ Nokia 3.1 Plus
และรุ่นใหญ่ในไทยอย่างโนเกีย 8.1 ที่ทดลองขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์อย่างช้อปปี้เมื่อช่วงเมษายนที่ผ่านมา ก็สร้างสถิติใหม่โดยวางจำหน่ายเพียงวันเดียวเครื่องก็หมดเกลี้ยง แถมเตรียมการที่จะอัปเกรดไปสู่ระบบปฏิบัติการใหม่ Android Q ที่เพิ่งเผยให้ได้รับทราบฟีเจอร์เด็ดๆผ่านงาน Google I/O 2019 ที่ผ่านมา ซึ่งเอชเอ็มดีเองก็ตั้งเป้าที่จะให้ลูกค้าได้อัปเกรดระบบใหม่ได้ก่อนแบรนด์ใดๆ เช่นเดิม
ขณะที่ความพิเศษของแอนดรอยด์ 9 ยังมาพร้อมความสามารถของเอไอ ที่เพิ่มรายละเอียดให้เครื่องจดจำและวิเคราะห์แนวโน้มสอดรับพฤติกรรมได้มากขึ้น ทำให้เมื่อยิ่งใช้ เครื่องก็ยิ่งเรียนรู้และแนะนำการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้น โดยรวมความสามารถของ Google Assistant ที่ปัจจุบันสามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
อีกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อแอปพลิเคชั่นภายในเครื่องได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น ทั้งการนำทาง อีเมล์ การสื่อสาร ความบันเทิง หรือแม้กระทั่งการเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาได้บ้างเป็นบางเวลา ภายใต้การร้องเรียก “โอเค กูเกิล”
ปุ่มพิเศษ เฉพาะโนเกียรุ่น Nokia 4.2 และ Nokia 3.2
โนเกีย Nokia 4.2 และ Nokia 3.2 ได้รับการออกแบบให้สามารถใช้งาน Google Assistant ได้เป็นพิเศษมากกว่ารุ่นไหน โดยจะมีปุ่มด้านข้างเพื่อเรียกใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งมีเคล็ดลับในการกดถึง 3 ระดับที่แตกต่างกัน
กดหนึ่งครั้ง เพื่อให้ Google Assistant ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะของคุณในทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูลการเดินทาง สั่งการโทรออก ฟังเพลง หรือไขข้อสงสัยในชีวิตประจำวันของคุณได้อย่างง่ายดาย
กดปุ่ม Google Assistant สองครั้งเพื่อเรียกดูประวัติการใช้งาน พร้อมระบบแนะนำอัจฉริยะที่เปลี่ยนแปลงไปตามการใช้งานจริง ข้อมูลการเดินทาง และคำเตือนที่ตั้งไว้ในปฏิทินที่จะช่วยเตือนความจำ ไม่ให้คุณพลาดนัดสำคัญอีกต่อไป หรือกดปุ่ม Google Assistant ค้างไว้ ให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยและถามคำถามยาว ๆ กับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความตั้งใจของเอชเอ็มดี ในการที่จะนำพาโนเกียกลับมาผงาดอีกครั้งในช่วง 2- 3 ปีข้างหน้า สะท้อนได้จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบการจัดจำหน่ายในประเทศไทย ผ่านตัวแทนจำหน่ายที่มีคุณภาพ ครอบคลุมทั่วประเทศ และเริ่มให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย ที่มีระยะเวลาโดยเฉลี่ยของการส่งซ่อมจนถึงส่งคืนให้ลูกค้าได้ภายใน 1 สัปดาห์
ขณะที่ความคุ้มค่าของเครื่องโนเกีย คือการที่เปิดโอกาสให้ฮาร์ดแวร์ ในที่นี้คือ “ตัวเครื่องสมาร์ทโฟน” สามารถอัปเกรดไปสู่ระบบปฏิบัติการใหม่ อย่างน้อยก็ 2 เวอร์ชั่น ตลอดระยะเวลา 2 ปี เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ผู้บริโภคได้ประหยัดเงินไม่ต้องซื้อเครื่องใหม่ เพราะเครื่องเก่าของโนเกียยังสามารถอัปเกรดใช้ซอร์ฟแวร์ใหม่ล่าสุดได้อยู่ ตามแนวคิด “สมาร์ทโฟนยิ่งใช้ ยิ่งดีขึ้นทุกวัน”
ฟีเจอร์หลักของ Android 9 Pie ได้แก่
- App Actions ความสามารถในการคาดการณ์ว่าคุณจะใช้งานแอพอะไรต่อไปและเตรียมปุ่มกดไว้ให้คุณใช้งานง่ายขึ้น
- Slices ระบุส่วนต่างๆ ของแอพที่คุณโปรดปราน และใช้งานเป็นประจำเพื่อจัดการให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น
- Adaptive Battery ใช้เทคโนโลยี Deep Learning ในการทำความเข้าใจรูปแบบการใช้งานของคุณและช่วยจัดสรรการใช้งานให้กับแอพที่สำคัญก่อน
- Adaptive Brightness ปรับค่าความสว่างหน้าจออัตโนมัติ โดยเรียนรู้จากการตั้งค่าและปรับเปลี่ยนจากการใช้งานจริงของคุณในทุก ๆ วัน
- New System Navigation มาพร้อมปุ่ม Home เดี่ยวๆ ที่สามารถคาดการณ์และแนะนำทางลัดเข้าแอพที่ใช้งานบ่อย (ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเปิดปิดได้เอง)
ฟีเจอร์ด้าน Digital Wellbeing ได้แก่
- Dashboard ไฮไลต์ข้อมูลการใช้งานโทรศัพท์และหน้าจอ รวมถึงบอกจำนวนครั้งที่มีการปลดล็อกเพื่อใช้งานและจำนวนการแจ้งเตือนที่ได้รับ
- App Timers สำหรับกำหนดระยะเวลาการใช้งานแต่ละแอพ
- Wind Down and Do Not Disturb ตั้งเวลาพักการทำงานของโทรศัพท์ในแต่ละวัน พร้อมลดความสว่างของหน้าจอลงโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดโหมด Do Not Disturb ซึ่งจะปิดการแจ้งเตือนต่างๆ เพื่อให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยสามารถเปิดใช้งานเมื่อไรก็ได้ที่คุณต้องการหยุดการเชื่อมต่อ
ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง
