วีซ่า ผนึก LINE Pay ผุดอีวอลเลทเชื่อม 54ล้านร้านค้าทั่วโลก

วีซ่า ผนึก LINE Pay ผุดอีวอลเลทเชื่อม 54ล้านร้านค้าทั่วโลก

วีซ่า ผู้นำด้านระบบการชำระเงินระดับโลก ร่วมกับ ไลน์ คอร์เปอเรชั่น ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นส่งข้อความ ซึ่งผันตัวเข้าสู่บริการด้านฟินเทค และดิจิทัลวอลเลท บนแอปพลิเคชั่น LINE Pay ประกาศความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ด้านบริการทางการเงินบนแอปพลิเคชั่นให้แก่ผู้บริโภคและร้านค้านับล้านทั่วโลก

คริส คลาร์ก ประธานบริหาร วีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า โปรแกรมที่ทำร่วมกันเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าในไต้หวันกว่า 2.3 ล้านรายในปัจจุบัน ถือเป็นหนึ่งในโปรแกรมที่เติบโตเร็วที่สุดระดับโลก และเรายินดีที่ได้ขยายโซลูชั่นนี้ไปยังตลาดอื่น ๆ ทั่วโลก

นอกจากนั้น เรายังประทับใจในขีดความสามารถและความนิยมของ LINE และยินดีที่ได้ร่วมมือเพื่อผลักดันการเติบโตของระบบการชำระเงินแบบเปิดทั่วโลก โดยเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างประโยชน์ต่อทุกภาคส่วนในเครือข่ายของเรา ไม่ว่าจะเป็น ผู้บริโภค ร้านค้า และ ธนาคารผู้ออกบัตร และรับบัตร เป็นต้น”

บริการใหม่ที่จะเปิดขึ้นจากความร่วมมือครั้งนี้

ชำระเงินได้ทั่วโลก: สำหรับผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่น LINE กว่า 187 ล้านรายทั่วโลก จะสามารถสมัครบัตรวีซ่าในรูปแบบดิจิทัลได้ผ่านแอปฯโดยตรง ซึ่งในอนาคตจะสามารถเพิ่มบัตรวีซ่าที่ถืออยู่ เข้าไปยังดิจิทัลวอลเลท เพื่อสร้างประสบการณ์ด้านการชำระเงินแบบไร้รอยต่อบนสมาร์ทโฟนได้สะดวกมากขึ้น

นอกจากนั้นทั้งสองบริษัทจะร่วมกันต่อยอดโครงการเสริมสร้างความสัมพันธ์ (Loyalty Program) ต่าง ๆ สำหรับลูกค้า สิทธิประโยชน์ และโซลูชั่นการชำระเงินสำหรับการเดินทางในต่างประเทศ

โซลูชั่นสำหรับร้านค้า: ผู้ใช้บริการ LINE Pay จะสามารถใช้บริการชำระเงินในเครือข่ายร้านค้าของวีซ่า ที่มีอยู่กว่า 54 ล้านร้านค้าทั่วโลก ไปพร้อมกับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ และบริการและจาก ไลน์เพย์ อีกด้วย ผู้บริโภคสามารถตรวจการทำธุรกรรมได้ผ่านดิจิทัลวอลเลทของ ไลน์เพย์ ถึงแม้ว่าในบางสถานที่จะไม่รับบริการชำระผ่าน ไลน์เพย์ โดยตรงก็ตาม

นอกจากนี้ วีซ่า และ LINE Pay ยังจะร่วมมือเพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้ร้านค้า ให้สามารถรองรับการชำระเงินผ่าน ไลน์เพย์ และ ดิจิทัลวอลเลทของ ไลน์เพย์ เพื่อขยายเครือข่ายการชำระเงินระหว่างกันทั่วโลก

อีกทั้ง ไลน์เพย์ และ วีซ่า จะร่วมพัฒนาประสบการณ์รูปแบบใหม่บนบล็อกเชน (Blockchain) เพื่อรองรับการชำระเงินระหว่างหน่วยงานธุรกิจ (B2B) การชำระเงินแบบข้ามพรมแดน และการทำธุรกรรมการเงินทางเลือก ภายใต้โหมดการบริการฟินเทค

ขณะที่ด้านการตลาดนั้น ทั้ง วีซ่า และ ไลน์เพย์ จะร่วมผลักดันแคมเปญทางการตลาด และโปรโมชั่นต่าง ๆ ทั้งในช่วงก่อน และหลังการจัดงานโอลิมปิกที่จะถึงนี้ เพื่อช่วยผลักดันให้ประเทศญี่ปุ่นเป็นสังคมไร้เงินสด

ด้านยงซู โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไลน์เพย์ และ LINE Fintech Company กล่าวว่า “ไลน์เพย์ เป็นมากกว่ารูปแบบการชำระเงิน ในขณะที่เราก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ไลน์เพย์ จะเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้ใช้งาน LINE ทั่วโลก นอกจากนั้น ผู้ใช้ ไลน์เพย์ จะสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและเครือข่ายระดับโลกของวีซ่าได้อีกด้วย”

สำหรับความร่วมมือกันในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่าง วีซ่า และ LINE Pay ซึ่งรวมถึงความร่วมมือในการออกบัตร ไลน์เพย์ วีซ่าในประเทศไต้หวัน และในช่วงปลายปี 2019 ในประเทศญี่ปุ่น

ทั้งนี้ แอปพลิเคชั่นส่งข้อความ (Messaging Applications) มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดดิจิทัลคอมเมิร์ซ เนื่องจากผู้บริโภคใช้เวลาส่วนใหญ่กับแอปพลิเคชั่นเหล่านี้ ซึ่งการผนวกบริการการชำระเงินเข้ากับแอปพลิเคชั่น จะช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ประสงค์จะใช้งานเพียงแอปพลิเคชั่นเดียวในการทำธุรกรรมต่าง ๆ

ไม่ว่าจะเป็น การโอนเงิน การซื้อสินค้าออนไลน์ การจ่ายบิล การจองที่พัก หรือแม้กระทั่งการสั่งอาหาร ดังนั้นความร่วมมือกันระหว่าง LINE และ วีซ่า จะตอบโจทย์และสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อสำหรับผู้ใช้งานหลายล้านราย ทั้งยังช่วยผลักดันให้เกิดการขยายตัวของการชำระเงินแบบเปิด และการทำงานระหว่างหน่วยงานในระดับโลก

ในขณะที่รูปแบบการชำระเงินขยายตัวจากบัตรพลาสติกแบบดั้งเดิม เข้าสู่การชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟน อุปกรณ์เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต และการชำระเงินรูปแบบดิจิทัลอื่น ๆ วีซ่าได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรทั่วโลกเพื่อเพิ่มประสบการณ์การชำระเงินใหม่ให้แก่ผู้บริโภคผ่านบัตรในรูปแบบดิจิทัล และขยายเครือข่ายสร้างพันธมิตรกับผู้เล่นใหม่ๆ

ซึ่งรวมไปถึงโปรแกรม วีซ่า ฟินเทค ฟาสแทรค (Visa Fintech Fast-track programme) ที่เปิดโอกาสให้พันธมิตรเข้าร่วมพัฒนาบริการใหม่ ๆ บนเครือข่ายการชำระเงินของวีซ่า

ลิงค์ที่เกี่ยวข้อง

วีซ่า ประเทศไทย

Related Posts