อินเตอร์ลิ้งค์ เร่งยกระดับฝีมือช่างสายสัญญาณ

อินเตอร์ลิ้งค์ เร่งยกระดับฝีมือช่างสายสัญญาณ
อินเตอร์ลิ้งค์
นายณัฐวุฒิ ปิ่นทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน)

อินเตอร์ลิ้งค์ จัดการแข่งขันเข้ม สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 พร้อมยกระดับช่างฝีมือสายสัญญาณพร้อมรองรับการเติบโตของการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน พร้อมโอดราคาสายถูกลงกว่าเท่าตัว แม้ปริมาณการใช้งานจะเพิ่มขึ้นจากเทคโนโลยีเน็ตเวิร์กในปัจจุบัน

นายณัฐวุฒิ ปิ่นทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดมีมูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท ในขณะที่ทั้งปีของ 2020 มีประมาณการเติบโตที่ถดถอย โดยตลาดโตขึ้นราว 2-3% แม้ว่าจะมีการใช้เทคโนโลยีไฟเบอร์เพิ่มมากขึ้น แต่กระนั้นราคาของสายสัญญาณก็มีมูลค่าที่ต่ำลงกว่าเท่าตัว

ขณะที่สาย FTTH มีราคาต้นทุนอยู่ที่ราว เมตรละ 1-3 บาทเท่านั้น ทำให้แม้จะมีปริมาณการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น แต่ระดับราคาที่ต่ำลงจากเดิมที่เมื่อ 20 ปีที่ผ่านมาราคาต่อเมตรอยู่ที่หลักร้อยบาทเลยทีเดียว ซึ่งปัจจุบันราคาของตลาดก็จะอยู่ที่ราวเมตรละ 5-6 บาทเท่านั้น

โดยกลุ่มลูกค้าหลักของอินเตอร์ลิงค์ ยังเป็น 3 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มค้าปลีกซึ่งมีสัดส่วนอยู่ราว 40% ขณะที่กลุ่มผู้วางระบบ (Sysytem Integate) จะมีสัดส่วนราว 30% และส่วนของผู้รับเหมาจะมีสัดส่วนอยู่ราว 30% เช่นกัน

และในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อินเตอร์ลิ้งค์ได้รับผลกระทบในระดับกลางๆ โดยมียอดในส่วนของค้าปลีกที่ลูกค้าต้องปิดร้านค้า ทำให้บางส่วนเริ่มปรับไปสู่การตลาดออนไลน์มากขึ้น ซึ่งเราก็ได้เข้าไปช่วยส่งเสริมการขายออนไลน์ ในส่วนของรีเทลเพื่อช่วยกันสร้างลูกค้าให้รีเทล เช่นการสนับสนุนเครื่องมือในการทำตลาดออนไลน์ ช่วยทำเทรนนิ่ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันให้ร้านค้าปลีกอยู่รอดได้

ขณะที่ ทั้งในส่วนของกลุ่ม SI และผู้รับเหมา ยังเป็นตัวช่วยให้เติบโตที่สำคัญอยู่ ซึ่งหน่วยงานรัฐก็ยังพอมีโครงการเพิ่มขึ้นอยู่ แต่กระนั้นก็ลดขนาดงานลงเพื่อประหยัดเงินลงทุน เนื่องจากหน่วยงานรัฐมีงบประมาณที่จำกัด

แนวทางการแก้ไขสถานการณ์โควิด-19 เราทำการปรับลดต้นทุนการจัดการขององค์กรที่สูญเปล่า ซึ่งก็ช่วยลดต้นทุนในการจัดการได้ราว 6% อีกทั้งยังเร่งหาโครงการเพิ่ม แต่ก็ไม่ใช่เพื่อเป็นการแข่งขันกับผู้รับเหมาหรือผู้ให้บริการติดตั้งระบบซึ่งเป็นลูกค้าของเรา แต่เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขายในส่วนของสายสัญญาณให้มีปริมาณการใช้งานที่เพิ่มขึ้น

กระนั้นการค้นหาและพัฒนาช่างสายสัญญาณก็ยังต้องพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดโครงการ สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ ปี8 (Cabling Contest Final Round 2020) ซึ่งเราจัดมาต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 เพื่อยกระดับความสามารถของการติดตั้งสายสัญญาณของประเทศไทย เพื่อรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มมากขึ้น

โดยเริ่มจากการพัฒนาทักษะนักเรียน นักศึกษา ที่เราทำต่อเนื่องมากว่า 20 และยกระดับขึ้นมาเป็นการแข่งขันทักษะการเข้าสายสัญญาณ เพื่อยกระดับการพัฒนาทักษะของนักศึกษาของประเทศไทยในการที่จะต่อยอดเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี และระดับอาชีวะศึกษา ทั่วประเทศได้เรียนรู้เทคโนโลยีสายสัญญาณที่ดีที่สุดในยุคปัจจุบัน

ผ่านกิจกรรมการอบรมและแข่งขัน โดยคัดเลือกตัวแทนจากทุกภาค เพื่อเข้าไปแข่งขันรอบสุดท้าย ชิงถ้วยรางวัลพระราชทาน พร้อมเงินรางวัลมูลค่ากว่า 400,000 บาท และมีโอกาสเป็นตัวแทนของประเทศไทยในเวทีทักษะฝีมือแรงงานระดับโลก World Skills ASEAN

ซึ่งรูปแบบการแข่งขันในปีนี้ ยังคงแบ่งเป็นภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเช่นเดิม ซึ่งภาคปฏิบัติเป็นการแข่งขันเข้าหัวต่อกับสายสัญญาณ LAN และการแข่งขันเข้าหัวต่อกับสาย COAXIAL โดยจะจัดรอบคัดเลือกทั่วทุกภูมิภาคคือ ภาคกลางและกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2563, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2563, ภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563, ภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2563, ภาคเหนือที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ทั้งนี้ผู้ผ่านการคัดเลือก 55 คนจากทั่วประเทศ จะได้รับสิทธิ์เข้าไปแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ในระหว่างวันที่ 26-28 พฤศจิกายน 2563 ณ ชลพฤกษ์ รีสอร์ท จ. นครนายก

โดยงานนี้ได้รับเกียรติจาก คุณธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นประธานกล่าวเปิดงาน คุณอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก คุณสุรัตน์ ปาละนันทน์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนามาตรฐานและทดสอบฝีมือ คุณอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก คุณสมบัติ อนันตรัมพร ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ร่วมแสดงความยินดี เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2563 ณ ชลพฤกษ์ รีสอร์ท จังหวัดนครนายก

การแข่งขันผู้ชนะเลิศจะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพร้อมเงินรางวัลมูลค่า 100,000 บาท พร้อมเป็นตัวแทนของประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน Asean Skills และ World Skills

รองชนะเลิศอันดับ 1 จะได้รับถ้วยเกียรติยศจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมเงินรางวัล 50,000 บาท

รองชนะเลิศอันดับ 2 จะได้รับถ้วยเกียรติยศจากรัฐมนตรีว่ากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมเงินรางวัล 20,000 บาท

ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารตัวแทนประเทศไทยในการแข่งขันระดับโลก และการแข่งขันโครงการ “สุดยอดฝีมือสายสัญญาณ (Cabling Contest)” ในปีถัดไปได้ที่ www.cablingcontest.com

Related Posts