Garmin Venu SQ ในเวอร์ชั่น Music Edition นั้นต้องบอกเลยว่า นอกจากการออกแบบที่เรียบหรูแล้ว ยังมาพร้อมความสามารถของการดาวน์โหลดเพลงเก็บไว้ภายในเครื่องได้มากถึงถึง 500 เพลง จึงเหมาะสำหรับคนที่รัก ดนตรี รักในเสียงเพลงระหว่างออกกำลังกายเป็นอย่างมาก และด้วยฟีเจอร์ของการใช้งานที่ครบครัน ซึ่งมาพร้อมอุปกรณ์เสริมที่สามารถปรับแต่งให้ตรงสไตล์การใช้งานได้อีกด้วย นับได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าคบหาในราคาไม่แรงจนเกินไปของ การ์มินเป็นอย่างมาก อย่ารอช้า ตามมาดูเลยดีกว่าว่า Garmin Venu SQ นี้มีดีอย่างไร
การออกแบบ
Garmin Venu SQ มองแว๊บแรก นึกว่าเป็นเครื่องสมาร์ทวอชท์ฟิตบิต ด้วยรูปร่างแบบสีเหลี่ยมทรงเกือบสมมาตร ที่มีการให้สีระหว่างตัวกรอบและหน้าจอที่แตกต่างกัน ทำให้ขอบกระจกที่ทำด้วย Gorilla Glass 3 ดูเด่นและนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด สอดรับกับตัวสายที่เข้ากันได้อย่างลงตัว ด้วยขนาดของสายที่ไม่เล็กและใหญ่จนเกินไปราว 20 มม.
ตัวเครื่องนับได้ว่ามีการเลือกใช้วัสดุที่ดูดี มีความทนทานเป็นอย่างมาก ด้วยคุณลักษณะเฉพาะของโพลิเมอร์ผสมเส้นใยสังเคราะห์ ขณะที่ตัวกรอบที่มาครอบด้านข้างนั้น ก็เป็นโลหะชนิดอลูมิเนียมที่ให้ความหรูหรา แต่การใช้ไปนานนานอาจจะมีผลต่อเรื่องของสีที่เคลือบก็เป็นได้ เรื่องนี้คงต้องลองดูยาวๆ
ส่วนหน้าจอนั้นมีขนาด 1.3 นิ้ว ความละเอียดของการแสดงผล 240 x 240 พิกเซล ซึ่งถือว่ามีความละเอียดที่ปานกลางในยุคสมัยนี้ แต่นั่นก็เป็นข้อดีของการที่ช่วยประหยัดพลังงานได้เป็นอย่างดี ทำให้เครื่อง Garmin Venu SQ สามารถใช้งานได้นานถึง 6 วัน ต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว
นอกจากนี้ด้านข้างฝั่งขวา ยังมีปุ่มกด 2 ปุ่มที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยให้กดถนัดมือขึ้น แต่ก็ต้องแลกมาด้วยมิติของการนูนที่เพิ่มขึ้นมาจากตัวเรือน
ด้านหลังของตัวเรือน มีการวางตำแหน่งของเซ็นเซอร์ไว้ตรงกลาง ในรูปแบบวงกลมนูนขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยให้สัมผัสผิวหนังได้มากขึ้นระหว่างสวมใส่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการวัดค่าที่แม่นยำยิ่งขึ้น และยังมีจุดชาร์แม่เหล็กทางด้านบนซึ่งยอมรับว่าการชาร์จแบบแม่เหล็กที่รับเข้ากับหัวเสียบแนวตั้งนั้นมันไม่คล่องตัวเท่าไหร่ นอกจากนั้นทางด้านข้างวงกลมเซ็นเซอร์ก็ยังมีแถบหมายเลขเครื่องที่ดูโดดเด่นชัดเจน
ตัวสายของเครื่องนั้น การเชื่อมต่อกับตัวเรือน มีระยะห่างที่กำลังพอดีช่วยให้สายสามารถสวิงได้อย่างอิสระอย่างที่ควรจะเป็น และยังสามารถปลดล็อคเพื่อเปลี่ยนสายได้อย่างง่ายดาย จากปุ่มกดสายด้านข้างของแต่ละสายจากด้านใน
วัสดุของสายนั้นเป็นซิลิโคนที่มีความอ่อนตัวพอสมควร การออกแบบสายด้านในเป็นแบบเรียบ แต่ด้านนอกเป็นแบบรอยผ้า ให้ความรู้สึกสปอร์ตอย่างมาก ขณะที่ช่วงของรูเข็มขัดก็มีระยะที่สามารถรองรับคนข้อมือทั้งล็กและใหญ่ได้โดยที่ไม่มีขนาดของสายเข้ามาเกี่ยวข้อง
สเปก Garmin Venu SQ Music Sport Watch
- สมาร์ทวอทช์หน้าจอเหลี่ยมจาก Garmin
- ขนาดหน้าจอ 1.3 นิ้ว
- ความละเอียด 240 x 240 พิกเซล
- ขนาดตัวเรือน 40.6 x 37.0 x 11.5 มม.
- วัสดุ Bazel ทำจากอลูมิเนียม
- สายทำจากวัสดุซิลิโคน
- น้ำหนัก 37.6 กรัม
- โหมดออกกำลังกายกว่า 20 รูปแบบ
- เซนเซอร์ตรวจจับสุขภาพที่หลากหลาย
- ฟีเจอร์ตรวจจับความเครียด
- แบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนาน 6 วัน
- รองรับแอปพลิเคชั่นเพลง
- จัดเก็บเพลงได้มากถึง 500 เพลง
- รองรับ Garmin Pay
- มาตรฐานกันน้ำ 5ATM
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth / ANT+/ Wi-Fi
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- 1x Garmin Venu SQ Music Sport Watch
- 1x แท่นชาร์จพร้อมสาย USB
- 1x คู่มือการใช้งานเบื้องต้น
ฟีเจอร์ที่สำคัญของ Garmin Venu SQ
ฟังเพลงแบบออฟไลน์ได้ 500 เพลง ด้วยความเป็นเวอร์ชั่น ดนตรี การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น Music Streaming จึงเป็นเรื่องธรรมดาไป การเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บเพลงให้ได้มากถึง 500 เพลง ให้ผู้ใช้งานสามารถ ฟีเจอร์ของการเชื่อมต่ออุปกรณ์หูฟัง และความสามารถในการเล่น Music Streaming แบบออฟไลน์ จึงนับว่าเป็นฟีเจอร์ที่โดดเด่นของสมาร์ทวอชท์เวอร์ชั่น มิวสิค เช่นนี้
วัด HR ได้ตลอดวัน ความสามารถในการตรวจวัดอัตราการเต้นหัวใจเป็นอีกหนึ่งความสามารถที่จำเป็นในปัจจุบัน เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้คนต้องหันมาใส่ใจเรื่องของสุขภาพมากขึ้น แน่นอนว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่วัดค่าแล้วทำให้เราเกิดคำถามตลอดว่าวัดแล้วยังไงต่อ ซึ่งระบบของการ์มินยังช่วยแบ่งโซนเพื่อประเมินความเสี่ยง ช่วยบ่งบอกอาการและคุณลักษณะที่หัวใจทำงานอยู่ได้อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญระบบจะแจ้งเตือนเมื่อเราเข้าสู่โซนเสี่ยงมากเกินไปอีกด้วย
HR BROADCAST แต่ความสามารถของ Garmin Venu SQ นอกจากการวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ตลอดเวลาทั้งตอนตื่นและตอนนอนแล้ว ยังรองรับการถ่ายทอดข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่นๆที่ต้องการได้อีกด้วย อาทิเช่น ในกรณีที่เราปั่นจักรยานและต้องการเชื่อมต่ออัตราการเด้นหัวใจเข้าไปยังหน้าจอของอุปกรณ์นั้นๆ ให้ดูข้อมูลได้ง่ายจากหน้าจอเดียว แทนสายคาดหน้าอกที่วัดเฉพาะอัตราการเต้นหัวใจโดยเฉพาะ ก็สามารถเชื่อมต่อและบอร์ดแคสข้อมูลดังกล่าวไปยังอุปกรณ์นั้นได้ทันที
BODY BATTERY หรือฟีเจอร์ที่จะช่วยวัดพลังงานของคุณในแต่ละวัน ว่าควรจะทำกิจกรรมต่อหรือควรจะพักผ่อนได้แล้ว ด้วยฟีเจอร์นี้เราจะทราบได้ว่า ตอนนี้ร่างกายเรามีพลังงานที่เพียงพอหรือไม่ ซึ่งหากเราฝืน ร่างกายก็จะอ่อนล้าและอ่อนเพลียมากกว่าปกติ ซึ่งนั่นจะส่งผลต่อระยะยาวของร่างกายที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตนั่นเอง
Pulse Ox อีกหนึ่งฟีเจอร์ของการวัดความอิ่มตัวของอ็อกซิเจนในเลือด ที่ปกติแล้วจะอยู่ในรุ่นเรือธงอย่าง fēnix® 5X Plus ที่มีราคาสองหมื่นกว่าบาท ซึ่งใช้เซ็นเซอร์คุณภาพสูงช่วยให้ค่าที่เชื่อถือได้ ตอบรับการใช้งานในรูปแบบชีวิตประจำวันและกิจกรรมกลางแจ้งได้ หรือแม้กระทั่งการนอนหลับก็สามารถช่วยบอกเราได้ว่ามีภาวะขาดอ็อกซิเจนระหว่างนอนหลับเป็นเวลาเท่าใด สำหรับผู้ที่สวมใส่นั่นเอง และในช่วงโควิด ยังเป็นเครื่องมือที่จะช่วยบ่งบอกสถานะการทำงานของปอดเราได้อย่างคร่าวๆว่ายังทำงานได้ดีอยู่หรือไม่อีกด้วย แต่ก็ต้องบอกก่อนนะว่านี่ไม่ใช่เครื่องมือทางการแพทย์และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการวินิจฉัยหรือตรวจสอบสภาพทางการแพทย์ใด ๆ
ติดตามความเครียด เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่เหมาะสมกับยุคสมัยเป็นอย่างมาก โดยเมื่อ Garmin Venu SQ ตรวจวัดว่าผู้สวมใส่มีความเครียดเกิดขึ้น ระบบจะทำการแจ้งเตือนให้ผู้สวมใส่ ทำการปรับสมดุลใหม่ ด้วยการแจ้งให้ทำกิจกรรมฝึกการหายใจแบบสั้นๆ เมื่อผู้สวมใส่ทำตามก็จะช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของสมองลงได้บ้าง
ติดตามการหายใจ นับเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่จะช่วยเฝ้าระวังอัตราการหายใจของผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี ทั้งในระหว่างที่ทำกิจกรรมและระหว่างที่นอนหลับ ด้วยการเก็บสถิติเป็นจำนวนครั้งการหายใจต่อนาที ซึ่งหากมีความผิดปกติของการหายใจเกิดขึ้น จะมีการแจ้งเตือนเพื่อให้ผู้สวมใส่ได้รับรู้และแก้ไขการหายใจให้ถูกต้อง ผ่านโปรแกรมการฝึกหายใจที่มีอยู่ในแอปพลิเคชั่นต่อไปนั่นเอง
การติดตามรอบเดือน ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับคุณผู้หญิงที่จะใช้ร่วมกับแอปพลิเคชั่น Garmin Connect app เพื่อช่วยติดตามรอบประจำเดือน ตลอดจนบันทึกอาการทางร่างกายและอารมณ์ เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับการฝึกร่างกายและโภชนาการระหว่างแต่ละช่วงของรอบเดือนของคุณ ซึ่งจะช่วยวิเคราะห์อาการออกเป็น 4 ส่วนที่สำคัญในแต่ละวัน นั่นก็คือ การไหลเวียนของเลือด อาการที่เกิดขึ้น อารมณ์ และตกขาว ที่จะเกิดขึ้น
Smart Notifications สามารถแสดงการแจ้งเตือนของสมาร์ทโฟนเข้ามาที่สมาร์ทวอชท์ได้อย่างรวดเร็ว ทั้งเรื่องของสายโทรเข้า อีเมล์ ข้อความสั้น(SMS) การแจ้งเตือนของแอปพลิเคชั่นต่างๆ ที่สามารถเปิดเลือกใช้ได้อย่างง่ายดาย ผ่านแอปพลิเคชั่น Garmin Connect ทั้งระบบแอนดรอยด์และ IOS
LIVE Tracking ระบบติดตามความปลอดภัย โดยระหว่างที่นาฬิกาและโทรศัพท์ของคุณจับคู่กันอยู่ ตำแหน่งที่อยู่ของคุณจะสามารถส่งไปยังผู้ติดต่อของคุณได้ทั้งแบบส่งเอง หรือระหว่างทำกิจกรรมกลางแจ้งก็สามารถส่งอัตโนมัติได้ด้วยการตรวจจับเหตุฉุกเฉินจากความผิดปกติที่เครื่องตรวจจับได้ ซึ่งการประเมินความผิดปกตินั้นไม่ได้มีการเปิดเผยว่าวิเคราะห์จากปัจจัยอะไรบ้าง
Garmin Pay ระบบการชำระเงินแบบไร้สัมผัส ที่ต้องบอกเลยว่าเหมาะสมกับยุคสมัยโควิด19 เป็นอย่างมาก ด้วยการเก็บข้อมูลของชิพ eSe ที่มีความปลอดภัยและได้รับการเข้ารหัสข้อมูลทุกประเภทแบบ Tokenization ซึ่งเมื่อเราผูกบัตรไม่ว่าจะเป็นแบบ VISA หรือ Master Card เรียบร้อยแล้ว ก็เพียงแค่ยื่นแขนที่สวมใส่ Garmin Venu SQ เข้าไปใกล้ให้มากพอ เท่านี้เครื่องก็จะตัดเงินตามจำนวนที่ต้องการ (รองรับธนาคารกสิกรไทยและไทยพาณิชย์ สูงสุด 10 บัตรต่อ 1 เรือน)
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกาย เพื่อช่วยในการกระตุ้นให้เกิดการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น ฟีเจอร์ GARMIN COACH ฟีเจอร์การวางแผนการออกกำลังกาย โหมดกีฬา 20 โหมด และที่สำคัญหากลืมปรับโหมด Garmin Venu SQ ยังสามารถจับพฤติกรรมและเลือกปรับโหมดที่เหมาะสมให้อย่างอัตโนมัติอีกด้วย
การทดลองใช้งานจริง
หลังการทดลองใช้ Garmin Venu SQ Music Sport Watch เริ่มจากรูปลักษณ์จัดว่าสวยตามพิมพ์นิยม ดีไซน์แบบยูนิเซ็กส์ เรียบๆ ใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงดี ตัวสายซิลิโคนยืดหยุ่นใส่สบายดี ระบบสัมผัสหน้าจอลื่นไหลไม่สะดุด แต่เรื่องความละเอียดภาพหน้าจอ LCD ความสว่างและความสวยงามยังไม่เทียบเท่าจอ Amoled ส่วนระบบการแจ้งเตือนข้อความต่างๆ ดี และอ่านภาษาไทยได้
นอกจากนั้นยังสามารถช่วยลดการต้องอยู่ใกล้สมาร์ทโฟนตลอดเวลา แบบที่ไม่พลาดทุกการติดต่อ เนื่องจากระบบการแจ้งเตือนนั้นจะบอกเราว่ามีสายเข้ามาในทันที ทำให้เราสามารถลุกไปรับสายได้ทัน ระหว่างที่ทำกิจกรรมอยู่ห่างจากโทรศัพท์แต่ยังอยู่ในระยะเชื่อมต่อนั่นเอง
ทางด้านฟีเจอร์เกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย ถือว่าคุ้มค่า ถ้าเทียบกับราคาหลักพัน เพราะมีครบถ้วน และสามารถสร้างการออกกำลังกายรวมถึงค้นหากิจกรรมของผู้อื่นได้ผ่านการดาวน์โหลดบน Garmin Connect ซึ่งโดยส่วนตัวชอบโหมดวัดความเครียดที่เพิ่มเข้ามา เพราะดูเป็นรายละเอียดเล็กๆ แต่มีความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากจริงๆ
ถัดมาในเรื่องของการเชื่อมต่อตัวสมาร์ทโฟน กับตัวนาฬิกาทำได้ง่าย ด้วยมีทั้งระบบภาษาไทยและอังกฤษ จะมีขลุกขลักสำหรับมือใหม่อยู่บ้างก็ตรงการลงเพลง เพราะหากแอปพลิเคชั่น Spotify และ Joox ยังไม่เป็นแบบพรีเมียมจะไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งยังไม่ต่างจากสมาร์ทวอชรุ่นอื่นๆ ที่ผู้ใช้ยังต้องโหลดเพลงเองผ่านคอมพิวเตอร์ใส่เข้าเก็บในตัวเครื่อง
แต่โดยส่วนตัวผู้ใช้แอบคาดหวังนิดๆ ว่าในรุ่น Music ถ้าจะเรียกคะแนนพิเศษจากคอเพลงน่าจะมีโหมดเพลงฮิตที่ติดตัวเครื่องมาเลยจะสะดวกกับผู้ใช้มากกว่า ส่วนการเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆ เช่น หูฟัง ลำโพงไร้สาย ก็อาจมีการค้นหาจับคู่กันนานหน่อยในครั้งแรก ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับสัญญาณแวดล้อมด้วยว่ามีการเปิดใช้งานบลูทูธอยู่มากน้อยเพียงใด
