อีตั้น ปรับทัพการสื่อสารใหม่ เปิดตัวสู่ระบบแมสมากยิ่งขึ้น เล็งนำเสนอนวัตกรรมการจัดการพลังงานไฟฟ้าอัตโนมัติสู่หลากหลายอุตาสาหกรรม รองรับการจัดการดาต้าเซ็นเตอร์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมเตรียมนำเข้าตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง DC และ AC เข้าไทย ยกระดับการจัดการไฟฟ้าสอดคล้องเทรนด์โลกด้านพลังงาน
นายปริญญา พงษ์รัตนกูล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อีตั้น อิเล็คทริค (ประเทศไทย) จำกัด (EATON) หนึ่งในบริษัทผู้นำนวัตกรรมด้านไฟฟ้าและบริการทางด้านการจัดการพลังงานไฟฟ้าระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ในปี 2564 และมองถึงปี 2565 เรายังโฟกัสกลุ่มธุรกิจหลัก ๆ 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบไปด้วย 1 โครงสร้างพื้นฐานด้านระบบสาธารณูปโภค 2 กลุ่มอุตสาหกรรมดาต้าเซ็นเตอร์ 3 กลุ่มธุรกิจสุขภาพ 4 กลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตอิเลคทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์
โดยเชื่อว่าระบบพลังงานไฟฟ้าของไทยในกลุ่มเหล่านี้ยังคงเติบโตต่ออย่างเนื่อง เพื่อมุ่งสู่การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แนวคิด Smart Grid Smart Solutions ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุนในระบบซอฟท์แวร์เพื่อการบริหารจัดการพลังงานหลักและพลังงานทางเลือกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดต้นทุน และสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับภาครัฐและเอกชน
นอกจากนี้ธุรกิจการขนส่งและโครงสร้างสาธารณูปโภคของทางรัฐและเอกชนมีการเติบโตอย่างคงที่ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการลงทุนของภาครัฐเกี่ยวกับการสร้างรถไฟฟ้าในหลายเส้นทางที่กำลังอยู่ในแผนการดำเนินงาน การขยายท่าเรือ รวมถึงสนามบินในเมืองใหญ่ ๆ การลงทุนของระบบการเก็บข้อมูลแบบคลาวด์ และห้องศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับระบบ5G อีกทั้งการที่รัฐบาลกำลังผลักดันให้เมืองไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านสุขภาพในภูมิภาคนี้
ซึ่งระบบสำรองไฟสำหรับในอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่าง ๆ ในโรงพยาบาลก็มีความจำเป็นมากเช่นกัน ซึ่งทาง Eaton สามารถที่จะเข้าไปช่วยสนับสนุนในกลุ่มธุรกิจประเภทเหล่านี้ในด้านโซลูชั่นของไฟฟ้าได้อย่างครบวงจร รวมไปถึงการบริการหลังการขายด้วยทีมงานมืออาชีพ
และที่สำคัญอีตั้นยังขอแนะนำนวัตกรรมเพื่อช่วยสนับสนุน Next Normal ให้กับบริษัทขนาดกลางและเล็กในการจัดเก็บข้อมูลของตัวเองใน cloud ให้เพียงพอขึ้นและมีความปลอดภัยอย่าง Micro Data Center 2.0 ที่เป็นอุปกรณ์ที่รวมเอาอุปกรณ์ที่จำเป็นในห้อง Data center มา integrate ไว้ในตู้เพียงตู้เดียวเพื่อลดต้นทุนการสร้างห้องดาต้าเซ็นเตอร์ของบริษัท สามารถประกอบและใช้งานได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงติดตามข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ได้
และอีกหนึ่งนวัตกรรมล่าสุด EnergyAware® UPS ที่ อีตั้นได้คิดค้นมาเพื่อเพิ่มมูลค่าของดาต้าเซ็นเตอร์จากคุณสมบัติของอุปกรณ์สำรองไฟ ที่นอกจากจะมีหน้าที่ในการสำรองไฟฟ้าแล้ว ยังทำหน้าที่ควบคุมคุณภาพของไฟฟ้าที่ส่งไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบขายกลับไปยังการไฟฟ้าได้ในอนาคต ช่วยให้สามารถควบคุมการจ่ายไฟฟ้าเป็นไปตามความต้องการของผู้ใช้ รวมทั้งการประหยัดค่าไฟฟ้าผ่านฟีเจอร์ power management เช่นการหลีกเลี่ยงการใช้ไฟฟ้าช่วง On peak แทน เป็นต้น
เรามองไปถึงอนาคตของการใช้งานแบตเตอรี่ที่กำลังเปลี่ยนจากแบตเตอรี่ชนิดตะกั่วกรดมาเป็นแบตเตอรี่ลิเธียมแทน ด้วยราคาของแบตเตอรี่ลิเทียมที่ถูกลงและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ทำให้ทางอีตั้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ยูพีเอสให้รองรับแบตเตอรี่ลิเทียมในทุกๆขนาดใช้งาน
ด้วยคุณสมบัติที่กล่าวมาทำให้การลงทุนในระบบดาต้าเซ็นเตอร์ด้วย EnergyAware UPS ช่วยเพิ่มมูลค่าของดาต้าเซ็นเตอร์ให้มีคุณสมบัติเฉกเช่นเดียวกับ Energy Storage ที่สามารถจ่ายไฟที่เหลือจากการใช้งานคืนไปยัง Grid ของการไฟฟ้า
มากไปกว่านั้น ด้วยการใช้งานร่วมกับ Eaton Intelligent Platform ที่พัฒนาโดยอีตั้น สามารถช่วยให้การบริหารจัดการดาต้าเซ็นเตอร์มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจะถือเป็นโซลูชั่นใหม่ที่จะตอบสนองความต้องการให้ลูกค้าและเข้ามาช่วยในการทำงานของผู้ใช้งานให้มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากขึ้น
ขณะที่ในปีหน้า อีตั้น มีแผนที่จะเปิดตัวเครื่องชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยขนาดที่เหมาะทั้งแบบโฮมชาร์จและแบบธุรกิจ โดยจะนำเข้ามาจำหน่าย 2 รุ่น ทั้งแบบ DC และ แบบ AC ตอบรับเทรนด์การใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
บริษัทมีความพร้อมที่จะสนับสนุนลูกค้าด้วยโซลูชั่นทางไฟฟ้าให้รับกับ Next normal พร้อมเปิดนวัตกรรมทางด้านไฟฟ้าเพื่อรับกับเทรนด์ของโลก รวมถึงการบริการแบบ One-stop service ที่สามารถเริ่มตั้งแต่รับคำปรึกษา นำเสนอโซลูชั่น ติดตั้งระบบไปจนถึงการบริการหลังการขาย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“สำหรับการเติบโตของธุรกิจในปีหน้า เรามองว่าในเชิงบวกและน่าจะเติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญจากปีนี้โดยประมาณการณ์มากกว่า 10% และยังมีการเพิ่มกำลังคนในทีมฝ่ายขายและฝ่ายบริการเพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายอีกด้วย” นายปริญญา กล่าว