___noise___ 1000

ไอบีเอ็ม ผนึก NTT Data จับมือสถาบันการศึกษา ปั้นคน ‘เอไอ-ดาต้าไซน์ส-ไฮบริดคลาวด์’ พร้อมใช้

ไอบีเอ็ม

ไอบีเอ็ม

ไอบีเอ็ม (NYSE: IBM) ประกาศความร่วมมือกับ เอ็นทีที เดต้า ส่งมอบหลักสูตรเต็มภาคเรียนด้านอไอดาต้าไซน์สไฮบริดคลาวด์ให้กับสถานศึกษา นำร่อง 4 มหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีก่อนกระจายสู่สถาบันการศึกษาอื่นทั่วประเทศ เร่งพัฒนาบุคลากรด้านไอทีแบบพร้อมใช้ หลังสำนักงานใหญ่ไอบีเอ็ม เอเชียแปซิฟิค ไฟเขียวนำผู้เชี่ยวชาญไอทีธุรกิจร่วมถ่ายทอดความรู้

นางสาวแอ็กเนส เฮฟท์เบอร์เกอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของไอบีเอ็ม อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลี (ASEANZK) กล่าวว่า ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน กลาเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีความสำคัญสูงสุดต่อการเติบโตของจีดีพีในประเทศต่างๆ ขณะที่ความก้าวล้ำด้านปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ยังเมีส่วนสำคัญที่ทำให้พรมแดนของการปฏิวัติดิจิทัลยิ่งขยายไปอีก ซึ่งข้อมูลจากไอดีซีคาดการณ์ว่าภายในปีนี้ 65% ของจีดีพีโลกจะมาจากมุมที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล ในช่วงระหว่างปี 2563-2566 มีการคาดการณ์ว่าการลงทุนด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันจะเพิ่มขึ้นในอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (CAGR) ที่ 15.5% และคาดว่าจะเติบโตแตะมูลค่า 6.8 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศผู้นำในเอเชียแปซิฟิค ที่เราได้เห็นการเดินหน้าผลักดันโครงการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอย่างต่อเนื่อง และมีการนำเทคโนโลยีก้าวล้ำอย่างเอไอ ดาต้าไซน์ส และไฮบริดคลาวด์เข้ามาใช้ในโลกธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ผู้บริโภคไทยในวงกว้างก็เปิดรับและปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ๆ ดังเห็นได้จากปริมาณการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 230% ในช่วงสองปีที่ผ่านมา

ซึ่งเศรษฐกิจไทยมีการขยายตัวราว1.6% ปรับตัวขึ้นจากการลดลง 6.2% ในปี 2563 โดยมีจีดีพีอยู่ที่ 16.2 ล้านล้านบาท แต่ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกในปีนี้จะยิ่งทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมีความท้าทายขึ้นอีกมาก

ไอบีเอ็ม
นางสาวแอ็กเนส เฮฟท์เบอร์เกอร์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ของไอบีเอ็ม อาเซียน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และเกาหลี (ASEANZK)

ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลกปัจจุบัน เราได้เห็นองค์กรธุรกิจที่พยายามคว้าโอกาสที่เกิดขึ้นมากมาย บางองค์กรประสบความสำเร็จ บางองค์กรกลายเป็นกลุ่มที่อยู่ล้าหลัง โดยหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่เป็นทั้งตัวสนับสนุนและเป็นอุปสรรคของการก้าวสู่ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันในวันนี้คือเรื่องของทักษะของบุคลากร

วันนี้เรื่องการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะเป็นปัญหาสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและทั่วโลก และจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการสร้างบุคลากรด้านเอไอ ดาต้าไซน์ส ออโตเมชัน ไฮบริดคลาวด์ และซิเคียวริตี้ ที่มีทักษะพร้อมทำงานจริงๆ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะนำพาสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ โดยไอบีเอ็มตระหนักถึงปัญหานี้และพร้อมที่จะดึงทรัพยากร ผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงอีโคซิสเต็มของคู่ค้าธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่มีประสบการณ์ เข้าร่วมแก้ปัญหาเร่งด่วนนี้ เพื่อช่วยประเทศไทยในการสร้างคนทำงานที่มีทักษะและความพร้อมอย่างแท้จริง

ไอบีเอ็มและพันธมิตรทางธุรกิจอยู่ในจุดที่มีความพร้อมรอบด้าน ทั้งในมุมองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเชิงลึกจากไอบีเอ็ม และความเชี่ยวชาญเชิงอุตสาหกรรมและธุรกิจจากไอบีเอ็ม รวมถึงได้มีการพัฒนาหลักสูตรเต็มภาคเรียนที่พร้อมนำเข้ามาสนับสนุนมหาวิทยาลัยต่างๆ และไอบีเอ็มมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้จับมือกับมหาวิทยาลัยต่างๆ และพันธมิตรทางธุรกิจของเราในวันนี้

โดยไอบีเอ็มจะมอบหลักสูตรเต็มภาคเรียนด้านเอไอ ดาต้าไซน์ส ไฮบริดคลาวด์ นวัตกรรมบนระบบเมนเฟรม และการคิดเชิงออกแบบ (Design Thinking) ที่พัฒนาขึ้นจากความเชี่ยวชาญและความเข้าใจเชิงลึกด้านเทคโนโลยีและธุรกิจของไอบีเอ็ม ร่วมด้วยการถ่ายทอดความรู้ในมุมอุตสาหกรรมและบริบทจริงของธุรกิจจากอีโคซิสเต็มของคู่ค้า แก่สถาบันการศึกษาที่เน้นตอบโจทย์ความต้องการของตลาดงาน เบื้องต้นประกอบด้วย มหาวิทยาลัยบูรพา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ สถาบันเทคโนโลยีไทยญี่ปุ่น และจะมีมหาวิทยาลัยอื่นๆ เพิ่มเติมภายในปีนี้ โดยมีบริษัท เอ็นทีที เดต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นพันธมิตรที่ร่วมนำร่อง ก่อนจะขยายความร่วมมือสู่พันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นๆ ต่อไป

ไอบีเอ็ม
นายสวัสดิ์ อัศดารณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย และ Managing Partner กลุ่มธุรกิจไอบีเอ็ม คอนซัลติง

ด้านนายสวัสดิ์ อัศดารณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไอบีเอ็ม ประเทศไทย และ Managing Partner กลุ่มธุรกิจไอบีเอ็ม คอนซัลติง กล่าวว่า ความเร่งด่วนในวันนี้ ไม่ใช่แค่การพยายามสร้างคนจำนวนมากเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมั่นใจด้วยว่าคนที่จบออกมาจะมีทักษะที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคธุรกิจและพร้อมทำงานจริงๆ ไอบีเอ็มรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความร่วมมือจากทุกมหาวิทยาลัยในวันนี้ รวมถึงเอ็นทีที เดต้า ที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ร่วมนำร่อง โดยเราพร้อมขยายความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงบริษัทไอทีอื่นๆ ในการร่วมผลักดันแก้ปัญหาสำคัญของประเทศในวงกว้างต่อไป

การรับมือกับปัญหาทักษะและความพร้อมของคนทำงานในแนวทางที่ยั่งยืน ย่อมไม่สามารถทำได้สำเร็จหากขาดความร่วมมือจากพันธมิตรที่มีประสบการณ์ในเชิงลึกทั้งจากภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม รวมถึงการร่วมผลักดันจากภาคการศึกษา ดังการสนับสนุนที่ได้รับจากกลุ่มมหาวิทยาลัยชั้นนำที่เริ่มนำร่องแล้วในวันนี้

ทั้งนี้ข้อมูลจากธนาคารโลกระบุว่าไทยเป็นประเทศที่มีความพร้อมกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคในแง่การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ โดยเฉพาะในธุรกิจอีคอมเมิร์ซและฟินเทค โดยเทคโนโลยีดิจิทัลจะสามารถสร้างเงินทุนหมุนเวียนให้ประเทศไทยได้กว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ขณะที่ World Economic Forum (WEF) คาดการณ์ว่าการปิดช่องว่างด้านทักษะทั่วโลก จะสามารถเพิ่ม GDP โลกได้ 11.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2571 โดยภาครัฐและเอกชนต้องร่วมมือกันในด้านการศึกษาและฝึกอบรม เพื่อให้ก้าวทันความต้องการของตลาด ความเปลี่ยนแปลงทางประชากร และความก้าวล้ำของเทคโนโลยีที่เดินหน้าไม่หยุดยั้ง

นอกจากการมอบหลักสูตรการเรียนการสอนตลอดภาคเรียน ที่ผ่านการคัดกรองให้ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจไทยแล้ว ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ ไอบีเอ็มและพันธมิตรยังจะจัดอบรมให้ความรู้พร้อมแลกเปลี่ยนมุมมองกับคณาจารย์ รวมถึงมอบเครดิตการใช้คลาวด์ฟรีเพื่อให้นักศึกษาสามารถเข้าไปทดลองและฝึกใช้งานเทคโนโลยีเอไอ ดาต้าไซน์ส ไฮบริดคลาวด์ หรือแม้แต่ระบบเมนเฟรม ในแบบเดียวกับที่ใช้จริงในโลกธุรกิจ

banner Sample

Related Posts