AIS อนุมัติ AWN ทุ่มกว่า 3 หมื่นล้าน ประกาศจะซื้อ 3BB และลงทุนใน JASIF

AIS อนุมัติ AWN ทุ่มกว่า 3 หมื่นล้าน ประกาศจะซื้อ 3BB และลงทุนใน JASIF

AWN

เอไอเอส ร่อนหนังสือถึง กลต. ประกาศจะเข้าซื้อกิจการ 3BB จาก JAS พร้อมหน่วยลงทุน JASIF 19% ในนาม AWN รวมเป็นมูลค่ากว่า 32,420 ล้านบาท ตอกย้ำทิศทางบริษัทมุ่งสู่การพัฒนาโครงข่ายบรอดแบนด์ให้ครอบคลุมทั่วถึงคนไทย และตอบโจทย์การขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ประกาศซื้อหุ้นบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ หรือ 3BB และเงินลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน JASIF เพื่อขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตด้วยเทคโนโลยีไฟเบอร์ให้เข้าถึงคนไทยอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม คาดว่าธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ของปี 2566 ถ้าได้รับการอนุมัติจาก กสทช.

โดย AWN ได้ลงนามใน บันทึกข้อตกลงกับ ACU และ JAS ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 เพื่อซื้อขายหุ้น TTTBB และหน่วยลงทุนใน JASIF (Undertaking Agreement) (“บันทึกข้อตกลง”) โดย AWN จะยื่นเรื่องขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งภายหลังจากการได้รับอนุญาตแล้ว จึงจะลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุน โดยบริษัทฯ คาดว่าธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ของปี 2566 ถ้าได้รับการอนุมัติจาก กสทช.

นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอไอเอส กล่าวว่า การลงทุนขยายธุรกิจในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญตามเป้าหมายกลยุทธ์ของบริษัทฯ เพื่อขยายการเติบโตในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และมุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ ทำให้บริษัทฯ มีขีดความสามารถในการให้บริการอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ผ่านสายไฟเบอร์ที่ครอบคลุมลูกค้าที่กว้างขวางมากขึ้น สามารถขยายการลงทุนไปยังพื้นที่ใหม่เพื่อให้คนไทยสามารถได้รับบริการอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดและรอบนอกตัวเมือง รวมถึงช่วยให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากบริการที่รวดเร็วและมีคุณภาพที่ดี อีกทั้ง จะช่วยให้การพัฒนาโครงข่ายไฟเบอร์ในประเทศไทยโดยรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดทอนความซ้ำซ้อนของการลากสายไฟเบอร์โดยไม่จำเป็นซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

โดยรวมแล้วการลงทุนนี้จะส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มของธุรกิจและผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นในระยะยาว นอกจากนี้ การที่บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักและผู้เช่าของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน  จะส่งเสริมให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงขึ้น รวมถึงจะมีการปรับเงื่อนไขให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว พร้อมทั้งสร้างโอกาสแก่กองทุนในการลงทุนทรัพย์สินโทรคมนาคมของบริษัทฯ เพิ่มเติมในอนาคต

โดยเนื้อหาของเอกสารที่ส่งให้กับ กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุว่า

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอแจ้งให้ทราบว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2565 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (“AWN”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99 และ/หรือ บุคคลที่ AWN กำหนด (รวมเรียกว่า “ผู้ซื้อ ”) ดำเนินการดังต่อไปนี้

1) เข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (“TTTBB”) จำนวน 7,529,242,385 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 99.87ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ TTTBB จากบริษัท อคิวเมนท์ จำกัด (“ACU”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (“JAS”) ซึ่งรวมถึงการได้มาซึ่งบริษัทย่อย ของ TTTBB อีกสองบริษัท คือ บริษัท ทริปเปิลที อินเทอร์เน็ต จำกัด และบริษัท อิน คลาวด์ จำกัด และการได้มา ซึ่ง บริษัท ทรี บีบี จำกัด ตามเงื่อนไขบังคับก่อน คิดเป็นมูลค่ารวม 19,500 ล้านบาท

2) เข้าซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน (“JASIF”)จาก JAS จำนวน 1,520,000,000 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 19.00ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมดของ JASIF ในราคาหน่วย ละ 8.5 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 12,920 ล้านบาท

ทั้งนี้รวมเรียกทั้งสองธุรกรรมว่า ”ธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุน” มีมูลค่ารวม 32,420 ล้านบาท

โดย AWN ได้ลงนามใน บันทึกข้อตกลงกับ ACU และ JAS ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2565เพื่อซื้อขายหุ้น TTTBB และหน่วยลงทุนใน JASIF (Undertaking Agreement) (“บันทึกข้อตกลง”) โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อนที่สำคัญ คือ ที่ประชุม ผู้ถือหุ้นของผู้ขายได้อนุมัติการขายหุ้น TTTBB และหน่วยลงทุน JASIF ตามเงื่อนไขที่ตกลงกัน, ที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุน ของ JASIF อนุมัติการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในสัญญาต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง, และบรรลุเงื่อนไขบังคับก่อนอื่น ๆ ภายใต้ บันทึกข้อตกลงสำเร็จครบถ้วน

ทั้งนี้ AWN จะทำการขออนุญาตในการเข้าทำธุรกรรมจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก่อนจึงจะลงนามในสัญญาซื้อ ขายหุ้นและหน่วยลงทุน โดยบริษัทฯ คาดว่าธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 1 ของปี 2566

การลงทุนในครั้งนี้จะทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากบริการอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว และมีคุณภาพที่ดีครอบคลุมพื้นที่กว้างขึ้น ส่งเสริมการลงทุนไปยังพื้นที่ใหม่เพื่อให้คนไทยสามารถได้รับบริการอินเทอร์เน็ตอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดและรอบนอกตัวเมือง รวมถึงเป็นไปตามเป้าหมายกลยุทธ์ของบริษัทฯ เพื่อขยายการเติบโต ในธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน และพัฒนาโครงข่ายไฟเบอร์ในประเทศไทยโดยรวมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดทอนความซ้ำซ้อนของการลากสายไฟเบอร์โดยไม่จำเป็นซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

โดยรวมแล้วการลงทุนนี้จะส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มของธุรกิจและประโยชน์ที่ยั่งยืนต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งลูกค้า สังคมและผู้ถือหุ้นในระยะยาว นอกจากนี้ การที่
บริษัทฯ มีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและได้เข้ามาเป็นผู้สนับสนุนหลักและผู้เช่าของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน จะส่งเสริมให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่มั่นคงขึ้น รวมถึงจะมีการปรับเงื่อนไขให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้แก่กองทุนในการลงทุนทรัพย์สินโทรคมนาคมของบริษัทฯ เพิ่มเติมในอนาคต

ทั้งนี้ ด้วยบริษัทฯ ยังมีความสามารถในการกู้ยืมเพิ่มเติม จึงมีแผนที่จะใช้เงินกู้ยืมสำหรับธุรกรรมในครั้งนี้รวมถึง ยังคงนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของกำไรสุทธิ ธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อหน่วยลงทุนข้างต้น มีมูลค่ารวม 32,420 ล้านบาท เป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการเท่ากับร้อยละ 38.7 ตามเกณฑ์มูลค่าสินทรัพย์ที่มีตัวตน สุทธิตามงบการเงินรวมของ AIS งวดล่าสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ให้ผลลัพธ์สูงสุด และเมื่อรวม
รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมาจะมีมูลค่าขนาดรายการรวมมากกว่าร้อยละ 15 แต่ไม่เกินร้อยละ 50

บริษัทฯ จึงมีหน้าที่รายงานสารสนเทศตามรายละเอียดแนบท้าย และจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นภายใน 21 วันนับแต่วันที่ เปิดเผยรายการ ทั้งนี้ รายละเอียดเกี่ยวกับธุรกรรมซื้อหุ้นและซื้อ หน่วยลงทุน ปรากฏตามสารสนเทศรายการได้มาซึ่ง สินทรัพย์ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จ ากัด (มหาชน)

Related Posts