เท็ตทรา จับมืออาชีวศึกษา พัฒนาแพลตฟอร์มหางานฟรีแลนซ์ ปั้นเศรษฐกิจกิ๊ก

เท็ตทรา จับมืออาชีวศึกษา พัฒนาแพลตฟอร์มหางานฟรีแลนซ์ ปั้นเศรษฐกิจกิ๊ก

 

เท็ตทรา

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับ เท็ตทรา คอร์ปอเรชั่น จำกัด เดินหน้าพัฒนาโครงสร้างตลาดแรงงานฟรีแลนซ์ผ่านแพลตฟอร์ม THEZCAPE (เดอะเอสเคป) ช่วยจับคู่ผู้ว่างจ้างและผู้หางานฟรีแลนซ์ผ่านระบบปัญญาประดิษฐ์ พร้อมระบบการชำระเงินที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ สามารถร้องเรียนและประเมินผลได้ทั้งผู้ว่าจ้างและผู้ถูกจ้าง รองรับความต้องการการทำงานนอกเวลาเพื่อหารายได้พิเศษหรือการทำงานแบบอิสระ ตอบโจทย์นวัตกรรมแรงงานแห่งอนาคต ยกระดับระบบเศรษฐกิจแบบกิ๊ก (GIG Economy) ให้เกิดความยั่งยืน ลั่นเตรียมพัฒนาแพลตฟอร์มฝึกทักษะจำเป็นต่อการทำงานควบคู่แพลตฟอร์มหางานในอนาคต

ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า นับเป็นมิติใหม่ของความร่วมมือเพื่อการสนับสนุนให้ผู้เรียนอาชีวศึกษาจบแล้วมีงานทำ ซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้าย ไม่ว่าจะเข้าไปทำงานในหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรือการเป็นผู้ประกอบการเอง ซึ่งสอดคล้องกับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนของเราที่แบ่งการเรียนออกเป็น 3ระดับ ปวช ปวส และ ปริญญาตรี ซึ่งผู้เรียนสามารถเรียนยาวต่อเนื่องได้เลยหรือจะเรียนแล้วพักทำงานหาเงินแล้วกลับมาเรียนใหม่ก็สามารถเลือกได้อย่างสะดวก

วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไป รูปแบบการทำงานเปลี่ยนไป ซึ่งการทำงานในหลากหลายช่วงอายุก็ยังมีตำแหน่งงานรองรับอีกมากมาย แม้ว่าส่วนใหญ่จะอยู่ในระดับเจน Zและเจน Y เป็นหลัก ซึ่งก็เข้าใจว่ากลุ่มเจนเอ็กซ์ส่วนใหญ่จะเติบโตเป็นผู้ประกอบการไปบ้างแล้ว ความร่วมมือกับเท็ตทรา ในครั้งนี้จึงเป็นมิติใหม่ของเราในการค้นหาตลาดแรงงานใหม่รองรับการทำงาน แบบอิสระมากขึ้น และยังสามารถเข้าไปค้นหาตำแหน่งงานและมองหาคนทำงานผ่านแพลตฟอร์ม THEZCAPE ได้อย่างสะดวก ความร่วมมือในครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกของการขยายความร่วมมือไปสู่ปลายน้ำ ซึ่งวันนี้เรามีเด็กในระบบล้านกว่าคน เด็กอาชีวะทุกคนสามารถดาวน์โหลดไปใช้ประโยชน์กันได้ทุกคน

เท็ตทรา
นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง THEZCAPE บริษัท เท็ตทรา คอร์ปอเรชั่น จำกัด

ด้านนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ประธานกรรมการและผู้ก่อตั้ง THEZCAPE บริษัท เท็ตทรา คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า โอกาสของตลาดแรงงาน GIG หรือตลาดแรงงานระยะสั้นในประเทศไทย จะสามารถรองรับความต้องการแรงงานและความต้องการทำงานแบบระยะสั้นให้ได้กับทุกคนทุกอาชีพ ทั้งในและนอกระบบในระยะเวลาสั้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภาพรวมได้อย่างดีเยี่ยม

โดยแนวโน้มตลาดการทำงานแบบGIG หรือการทำงานระยะสั้น จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวให้กับทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ในการว่าจ้างงานโครงการหรืองานเล็กที่ไม่ได้ต้องใช้เวลาในการทำงานมากนัก ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเข้าทำงานและการว่างจ้าง ด้วยการเป็นตัวกลางช่วยจัดการของแพลตฟอร์ม ที่มาพร้อมระบบการชำระเงินได้ทันทีหลังจากที่ผู้ทำงานส่งงานแล้วผู้ว่าจ้างยืนยันการรับงานแล้ว

ความร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐระดับประเทศที่ผลิตกำลังออกสู่ตลาดงานปีละกว่า 4 – 5 แสนคน เห็นถึงความสำคัญในการนำเอาเทคโนโลยีแพลตฟอร์มแห่งนวัตกรรมแรงงานและศูนย์กลางตลาดแรงงานวางแนวทางนำร่องร่วมกัน โดยภาคการศึกษาจะเป็นส่วนช่วยผนึกตลาดงานกับนักเรียน นักศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมที่จะก้าวสู่ตลาดงานด้วยทักษะและประสบการณ์ ปั้นศูนย์กลางตลาดงานระยะสั้น แก้ปัญหาตลาดแรงงานของประเทศ

พร้อมวางแผนในอนาคตหลังจากแนวทางการทำงานหลังโควิด ที่ปรับเปลี่ยนไปจากเดิม พร้อมซ่อมแซมฐานรากของประเทศ เพื่อสร้างฟื้นฟูสู่การพัฒนาของเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะแผนการดำเนินงานขั้นแรก คือ วางทิศทางของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่เรียกว่า Gig Economy เศรษฐกิจอันเกิดจากงานระยะสั้นที่กำลังเติบโตขึ้นในประเทศไทย และอีกหลากหลายประเทศทั่วโลก จากผลสำรวจจากตลาดแรงงานระดับโลก พบว่า แรงงานระยะสั้น (Gig Worker) มักอยู่ในประเทศที่พัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ทันกับความต้องการและการเปลี่ยนแปลง และในประเทศไทยกำลังเติบโตเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา

ปัจจุบันการเติบโตของแรงงานระยะสั้นมีโอกาสสูงมากกว่า 80% ของกำลังแรงงานจากจำนวนประชากรทั้งประเทศ ทั้งนี้ ตลาดแรงงานระยะสั้น Gig Worker เป็นการมองมุมใหม่ในพ.. นี้ ตลาด Gig จะกว้างขึ้นกว่าที่เป็นมาเพราะควบรวมทั้งแรงงานในระบบและนอกระบบ ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุ เพศ การศึกษา และสถานที่ทำงาน สามารถทำงานที่ไหน เวลาใดก็ได้ หากมีทักษะ ความรู้ ประสบการณ์ตรงกับตำแหน่งงานที่เปิดรับ ไม่ว่าจะคุณทำงานประจำ งานอิสระ ผู้ประกอบการ และงานระยะสั้นต่างๆ คุณก็สามารถทำงานได้ และทำได้หลายงานในเวลาเดียวกัน และนี่ก็จะเป็นโอกาสสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ อุตสาหกรรม สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็วต่อไป

ตลอดระยะเวลา 30 เดือนที่คนไทยใช้ชีวิตร่วมกับสถานการณ์โควิด ตั้งแต่ New Normal จนถึง Next Normal เราผ่านยุคของการปรับตัวและกำลังก้าวสู่การฟื้นฟูเพื่อพัฒนาทั้งตนเอง สังคม เศรษฐกิจและประเทศให้เติบโตต่อไป สถานการณ์โควิดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นแรงผลักดันที่รุนแรงและรวดเร็ว ตั้งแต่ การใช้ชีวิต พฤติกรรม กรอบความคิด และทักษะจนถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างกว้างขวางในระดับธุรกิจและอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกและเพื่อความปลอดภัยในสังคมอนาคต

ซึ่งทำให้เกิดเทรนด์โลกการทำงานหลังโควิดที่เราต้องทำความเข้าใจ ตั้งรับ และปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

  1. DIGITAL TRANSFORMATION TO DIGITALIZATION เป็นการนำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ได้หลากหลายองศาของการใช้ชีวิตและการทำงาน ทั้งการเชื่อมโยงธุรกิจ ข้อมูล ทั้งในองค์กรและนอกองค์กร

  2. THE HYBRID PHENOMENON IS SIGNIFICANT ปรากฏการณ์ผสมผสานถือเป็นสิ่งสำคัญ ในหลากหลายมิติของการทำงาน ทั้งสถานที่ทำงาน เวลาทำงาน บทบาทในการทำงาน และการเรียนรู้

  3. WORKING ANYWHERE, ANY TIME การทำงานที่ไหน เวลาใดก็ได้ คนมีอิสระในการทำงานด้วยการใช้เทคโนโลยีเข้ามาทำให้สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา การทำงานระยะไกลผสานระบบออนไลน์ ทำให้ข้อจำกัดในการเดินทางและระยะทางหมดไป

  4. RESULT ORIENTED WORKING การทำงานแบบเน้นผลลัพธ์ การทำงานมุ่งเน้นประสิทธิภาพเป็นหลัก แม้รูปแบบการทำงานจะปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้เหมาะสมตามสถานการณ์

  5. ONE LIFE BALANCE ใช้ชีวิตทั้งงานและครอบครัวจนเป็นชีวิตเดียวอย่างสมดุล เมื่อไลฟ์สไตล์และการทำงาน รวมถึงการใช้ชีวิต ถูกบูรณาการจนเป็นเรื่องเดียวกัน การออกแบบการชีวิต เพื่อให้สมดุลในแต่ละบทบาท หน้าที่และกิจกรรมจะเป็นสิ่งที่ได้รับการออกแบบ ให้เหมาะสมกับแต่ละปัจเจกบุคคลต่อไป

  6. THE JOB MARKET LANDSCAPE HAS SHIFTED TO FOCUS ON ON-DEMAND ภูมิทัศน์ของตลาดงานเปลี่ยนเป็นแบบตามต้องการ องค์กรเน้นการแข่งขันด้วยต้นทุนที่ต่ำลง เน้นความยืดหยุ่นสูง ทำให้การจ้างงานระยะสั้นประเภทต่างๆ รวมถึงการจ้างองค์กรภายนอก (Outsource) เป็นที่นิยม รองรับการเปลี่ยนแปลงองค์กรและการขับเคลื่อนอย่างรวดเร็วและคล่องตัว

  7. THE SKILL COMPETITION INTENSIFIED การแข่งขันด้านทักษะทวีความรุนแรง หากคุณมีทักษะจะทำให้คุณมีงาน หากคุณมีทักษะเชี่ยวชาญ จะทำให้คุณมีงาน และรักษาความมั่นคงในงานที่คุณทำ หากคุณมีทักษะหลายด้าน จะทำให้คุณมีโอกาสมีงานหลายงาน และมีรายได้ที่มากขึ้น

  8. PARADIGM SHIFT OF CAREER PLANNING การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ การวางแผนอาชีพ การวางแผนอาชีพถูกปรับเปลี่ยนรูปแบบไปทั้งการเติบโตทางสายอาชีพ (Vertical Move) และข้ามเส้นอาชีพ (Horizontal Move)

** คาดการณ์ในอีก 2 ปีข้างหน้า เราจะเห็น คน 1 คน รับงาน 4 งาน ทั้งการรับงานแบบงานประจำและรับงานอิสระ

  1. CREATING A HOLISTIC EXPERIENCE DELIVERS EFFICIENCY & VALUE การสร้างประสบการณ์แบบองค์รวมส่งมอบประสิทธิภาพและคุณค่า ไม่ว่าจะเป็น Virtual Experience (เสมือนจริง) หรือ Real Experience (ประสบการณ์) ล้วนสร้างคุณค่าและส่งมอบผลลัพธ์ที่แตกต่าง บางประสบการณ์ก็ไม่สามารถทดแทนด้วยประสบการณ์เสมือนจริงได้ การบูรณาการและสร้างประสบการณ์แบบองค์รวมเพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานจะทำให้ได้ทั้งผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและคุณค่าทางจิตใจของลูกค้าทั้งในองค์กรและนอกองค์กร

  2. WORKING TO CREATE THE EQUATION OF STABILITY การทำงานสร้างสมการของความมั่นคง การทำงานเป็นการนำทักษะมาใช้เพื่อสร้างประสบการณ์และรายได้ หากทำงานได้มากขึ้น รายได้ก็จะมากขึ้น ครอบครัวก็จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น คุณภาพชีวิตที่ดีก็จะตามมา

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงมากมายตามบริบทที่เปลี่ยนไป 3R MODEL (REVIEW  REFORMATION  REVOLUTION) จะเข้ามาช่วยรับมือโลกการทำงานในอนาคต ท่ามกลางการปรับเพื่อเปลี่ยน ซ่อมเพื่อสร้าง ฟื้นฟูสู่การพัฒนา ได้เป็นอย่างดี ถึงเวลาที่เราจะได้ทบทวน – Review แล้วปฏิรูป – Reformation ในเรื่องที่ต้องแก้ไข ปรับปรุง และหากเป็นเรื่องใหญ่ สำคัญ เร่งด่วน ก็ต้องปฏิวัติ – Revolution วิธีการทำงานเพื่อให้ประสบความสำเร็จ

นางสาวสุธิดา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอบคุณ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาที่ให้โอกาสในการทำงานร่วมกันครั้งนี้ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาด้านตลาดแรงงานนักเรียนจบใหม่ แนวคิด พฤติกรรม ทัศนคติที่ต้องเปิดกว้าง ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ในประเทศ โดยเฉพาะ งานฟรีแลนซ์, งาน Part Time, งานชั่วคราว, งานสัญญาจ้าง, งานโปรเจคท์ และงาน Outsource แพลตฟอร์มระหว่างนายจ้างและคนทำงานด้วยฟีเจอร์ที่ทำให้เรื่องการหางานเป็นเรื่องง่ายๆ แบบ On Demand ที่เข้าถึงกลุ่มคนยุคใหม่ โดยระบบจะทำงานคัดกรองที่มีประสิทธิภาพด้วย ระบบการค้นหาแบบ Intelligent Search ลดระยะเวลา เพิ่มประสิทธิภาพ กับการประมวลผลที่เรียกว่า ”อับดุล” ตรวจจับการค้นหาและประมวลผลด้วยระยะเวลาอันรวดเร็ว, รองรับความหลากหลายด้วยสายงานที่รองรับกว่า 20 สายงาน, ระบบการค้นหาตำแหน่งงานผ่าน Map เพื่อรองรับการหางานตามพื้นที่ที่ต้องการทำงาน และรองรับการรับงานด่วนด้วยการจับพิกัดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ Location Based Service, ระบบการจัดการพนักงานตามประเภทงาน

ไม่เพียงเท่านั้น งานชั่วคราว งานสัญญาจ้าง (รายชั่วโมง รายวัน รายเดือน รายปี) ทำงานด้วยระบบ Time Attendance ผ่านการ Check In/Out ของพนักงาน พร้อมอำนวยความสะดวกให้พนักงานด้วยการเข้าสู่ระบบครั้งเดียวแบบ Single Sign-On ที่สามารถเข้าถึงงานที่ตนเองทำงานอยู่ และเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมการบริหารบุคคลตามสาขาด้วยระบบ Admin Branch Control เพื่อควบคุมการทำงานของคนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และส่วนที่ 2 งานโครงการและ Outsource ผ่านระบบ Management & Monitoring Schedule อนุมัติงานตามเฟสเมื่อมีการส่งมอบงาน เพื่อควบคุมการทำงานของทั้ง 2 ฝ่ายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รองรับการพูดคุยผ่านระบบ Personal Chat ถือเป็นเครื่องมือการสื่อสารแบบ Private Message เพื่อสื่อสารข้อความส่วนตัวระหว่างผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม, ระบบ Real Time Bidding ที่ช่วยให้นายจ้างสามารถเห็นใบเสนอราคาจากคนทำงานในทุกๆ การนำเสนอราคาที่ส่งเข้ามาผ่านแพลตฟอร์มได้โดยตรง, ระบบ 2-Way Review ที่อนุญาตให้พนักงานและนายจ้าง สามารถประเมินความพอใจในการทำงานได้ทั้งสองฝ่าย, ระบบ Real Time Payment เมื่อคนทำงานทำงานเสร็จและนายจ้างอนุมัติการทำงานแล้ว ระบบจะทำการชำระเงินให้แก่คนทำงานได้ทันที และการทำงานของคนทำงานและนายจ้างที่เกิดขึ้น ภายใต้แพลตฟอร์มนี้ ระบบมีการสร้างข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Dashboard) ที่เก็บรวบรวมสถิติการทำงานอีกด้วย

ทั้งนี้ THEZCAPE แพลตฟอร์มแห่งนวัตกรรมแรงงานและศูนย์กลางตลาดแรงงานระยะสั้นในประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท เท็ตทรา คอร์ปอเรชั่น จำกัด จะสามารถเชื่อมโยงระหว่างนายจ้างและคนทำงานส่งเสริมการมีงานทำเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบงานฟรีแลนซ์, งาน Part Time, งานชั่วคราว, งานสัญญาจ้าง, งานโปรเจคท์ และงาน Outsource มุ่งธุรกิจและอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ อาทิ กลุ่มการค้าและการพาณิชย์, กลุ่มบริการลูกค้า, กลุ่มไอทีและเทคโนโลยี, กลุ่มการผลิต และกลุ่มการขนส่งและโลจิสติกส์ ครอบคลุมหลากหลายกว่า 20 สายงาน และแพลตฟอร์มยังสามารถรองรับทุกการเข้าถึงที่ง่าย สะดวก รวดเร็ว ด้วยเว็บไซต์ แอปพลิเคชันและโซเชียลมีเดียต่างๆ พร้อมกระบวนการบริหารจัดการด้านกำลังคนแบบครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยคุณภาพ ความรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลา ตอบโจทย์ตลาดงานที่ต้องการความยืดหยุ่นได้อย่างแท้จริง

Related Posts