KFC ประกาศความสำเร็จในการขยายสาขาได้ครบ 1,000 สาขา กลายเป็น 1 ใน 10 อันดับของแบรนด์ KFC โลก และเป็นแบรนด์ QSR รายแรกในไทยที่ขยายครบ 1,000 สาขา ลั่นพัฒนาความสุขให้ทั้งลูกค้าและพนักงานอย่างมั่นคง ประเดิมต้ปีให้ทุนการศึกษาพนักงาน 1,000 ทุนมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
นายเศกชัย ชูหมื่นไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยัม เรสเทอรองตส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า KFC ภูมิใจในการเป็นแบรนด์ QSR รายแรกในไทยที่ขยายครบ 1,000 สาขาทั่วประเทศ เราอยู่ในประเทศไทยมาแล้วกว่า 38 ปี จากการทำงานร่วมกัน ความร่วมมือที่เกิดขึ้นทำให้เราสามารถเดินทางถึงจุดนี้ได้อย่างสำเร็จ
เคล็ดลับที่เราให้ความสำคัญคือคุณภาพของไก่ และการบริการที่ยอดเยี่ยม กว่าจะได้ไก่เรามีการทำงานกว่า 100 ขั้นตอนกว่าจะได้ไก่ทอดมา 1 ชิ้น นอกจากนี้เรายังมีการทำงานกับพาร์ทเนอร์อย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรามีวันนี้ได้ แต่ที่สำคัญที่สุดคือพนักงงานของเรา ที่ทำให้เราสามารถมีสาขาได้กว่า 1,000 สาขา
จุดแข็งของแบรนด์เรา คือความที่เราเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นมาตลอด ทั้งความกรอบ ความใหม่ ความสด ความนุ่ม ตลอด 38 ปีที่ผ่านมา เรายังคงคุณภาพเช่นเดิม และยังมีการพัฒนากระบวนการของการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งช่วง 1 ปีที่ผ่านมา เรามีการขยับแบรนด์เพื่อรับกับนิวเจนมากขึ้น ทั้งแคมเปญสนุก ๆ และร้านแนวใหม่ที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม
สิ่งที่เราให้ความสำคัญกับทุก ๆ ด้าน จะเห็นได้ว่าเราให้ความสำคัญเคียงข้างกันคือเรื่องคุณภาพอาหาร และคน เพราะไก่ทอดทุกชิ้นเราทำด้วยมือ เมื่อคนมีความสุขในการทำงาน ก็สามารถส่งต่อความสุขให้กับลูกค้า ซึ่ง “คน” เป็นเรื่องที่เราให้ความสำคัญมาก โดยเราจะเริ่มการให้ทุนการศึกษา 1,000ทุน ให้กับพนักงานของเรา ทั่วทั้งประเทศไทย เราต้อการให้ทีมงานของเรามีความมั่นคงมากขึ้น สามารถช่วยที่บ้านได้อย่างไม่ลำบาก
ช่วง 2 ปีผ่านมา เราได้ปรับโครงสร้างธุรกิจ มีการเปิดเดลิเวอรี่ที่มากขึ้น ซึ่งเติบโตจาก 10% ขึ้นมามากถึง 2-3 เท่า ยกตัวอย่างเช่นวันแม่ที่ผ่านมา เรามีการทำพวงมาลัยไก่ป็อบเพื่อมอบให้กับคุณแม่ เราจะมีการปรับแบรนด์ปรับกลยุทธ์ เพื่อให้เข้ากับลูกค้าของเราในทุก ๆ ปี
ปีนี้เป็นปีที่เราภูมิใน เราได้ทำงานกับพาร์ทเนอร์ และมีเป้าหมายเดียวกัน ซึ่งก็ทำให้เราสามารถมียอดขายเติบโตได้กว่า 24% จากปีที่แล้ว โดยเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างไก่ทอด มีการสั่งซื้อมากกว่า 25 ล้านชิ้น ซึ่งรวมทั้งปีเรามีออเดอร์ทั้งหมดกว่า 100ล้านคำสั่งซื้อ
เราให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง เรามีมาตรการเพื่อทำให้พนักงานของเราทำงานด้วยความปลอดภัย หากเทียบก่อนการมีคิดเข้ามา เราได้มีโอกาสในการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ด้านเดลิเวอรี่ เพื่อช่วยให้คนไทยได้ทานกันแบสด ใหม่ ร้อน ได้ทานกันทั่วประเทศ
เป้าหมายของแบรนด์เราจะให้ความสำคัญกับการบริการ การเปิดร้านที่สามารถเข้าใช้บริการได้สะดวก การอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งปี 2566 เราจะเริ่มให้ความสำคัญกับคนมากขึ้น เริ่มจากการให้ทุน 1,000 ทุน รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท และหลังจากนั้นจะได้มีการให้การพัฒนาคนที่นอกเหนือจากพนักงานอีกต่อไปในอนาคต
ในประเทศไทย เรามี 3 พาร์ทเนอร์ แบ่งเป็น เซ็นทรัล เรสเตอรองส์ (CRG) มี 320 สาขา เรสเทอรองส์ ดีเวลลอปเม้นท์ (RD) มี 250 สาขา และ เดอะคิวเอสอาร์ ออฟ เอเชีย(QSA) มี 430 สาขา รวมทั้งหมดแล้วเรามีครบ 1000 สาขา ซึ่งเฉพาะปีนี้เปิดมากถึง 80 สาขา และทุกร้านก็ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม ซึ่งคาดว่าในปีหน้าน่าจะเปิดได้ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ทั้งนี้เคเอฟซี ประเทศไทย เป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีจำนวนสาขาที่มากที่สุดของ KFC โลก หากไม่นับรวม
เราอยากให้สาขาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น สามารถตอบโจทย์ลูกค้าเจนใหม่และพฤติกรรมใหม่ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าให้เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการทำดิจิทัลเพื่อช่วยให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายมากขึ้นในการเข้าใช้บริการ ทั้งการสั่งซื้อล่วงหน้าแล้วเข้าไปรับที่สาขา หรือการสั่งซื้อออนไลน์
ทั้งนี้ไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ภาพรวมของธุรกิจอาหารมีการเติบโตราว 12-13% ซึ่งเป็นแนวโน้มที่ดีที่เราเริ่มเห็นเศรษฐกิจดีขึ้น เริ่มเห็นนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น เริ่มเห็นการเฉลิมฉลองมากขึ้น ซึ่งจะเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจอาหารทั้งในปีนี้และปีหน้าที่กำลังจะเกิดขึ้น