นักวิเคราะห์ Opensignal ได้เผยการสำรวจประสบการณ์การเชื่อมต่อ 5G ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนบนเครือข่ายมือถือของผู้ให้บริการต่าง ๆ ของประเทศไทย ในเดือนธันวาคม 2565 และเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนและหลัง การสิ้นสุดกระบวนการการควบรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TrueMove H โดยพบว่า ผู้ใช้เครือข่าย AIS ยังคงได้รับประสบการณ์การเชื่อมต่อ 5G ด้วยความเร็วเฉลี่ยสูงสุดของการรวมคลื่นย่านความถี่ n28 (700MHz) และย่านความถี่ n41 (2.6 GHz) ด้วยจำนวนคลื่นสัญญาณ 42.7 MHz จึงเป็นเครือข่ายที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ยสูงสุดที่ราว 150.7 Mbps
- – ซิสโก้ชี้ อินเทอร์เน็ต ที่รวดเร็วและเชื่อถือได้สำคัญอย่างมาก
- – นักวิจัย มจธ. เปิดผลสำรวจภัยคุกคาม “นาก” ในพื้นที่ชุ่มน้ำ
ขณะที่ข้อมูลจาก Opensignal ล่าสุด ยังแสดงให้เห็นว่าผู้ใช้งาน DTAC ได้สัมผัสกับความเร็ว 5G ที่สูงขึ้น พร้อมได้รับประสบการณ์วิดีโอ 5G ที่ดียิ่งขึ้นเมื่อเชื่อมต่อ 5G ผ่านย่านความถี่ n41 (2.6GHz) และมีผู้ใช้ย่านความถี่นี้กันมากขึ้น ซึ่งเป็นความถี่ที่เกิดจากการควบรวมกิจการของDTAC และ TrueMove H ในช่วงมีนาคมที่ผ่านมา
แม้ว่าก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2565 ผู้ใช้เครือข่าย DTAC จะได้พบกับความเร็ว 5G ในระดับต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ให้บริการเครือข่ายอีกสองรายในประเทศไทย เนื่องจากไม่มีย่านความถี่ n41 (2.6GHz) ให้บริการ 5G ทว่าช่วงเวลาของการควบรวมกิจการในเดือนมีนาคม 2566 Opensignal ก็ได้สังเกตเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงด้านความเร็วอย่างมีนัยยะในประสบการณ์ต่าง ๆ ของ DTAC และ TrueMove H เมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อผ่านย่านความถี่ 2.6GHz
โดย Opensignal สังเกตเห็นว่าผู้ใช้ 5G บนเครือข่าย DTAC ในย่านความถี่ 2.6 GHz ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ TrueMove H ในเวลานี้ได้รับประสบการณ์ความเร็วในการดาวน์โหลด 5G เพิ่มขึ้นเป็น 105.7 Mbps ซึ่งมีความเร็วสูงกว่าย่านความถี่ 700 MHz ถึง 3 เท่า ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ในเดือนมีนาคม 2566 ค่าเฉลี่ยโดยรวมในการดาวน์โหลด 5G ของ DTAC เพิ่มขึ้นสูงถึง 2.8 เท่า หากเทียบกับในเดือนธันวาคม 2565 นับว่ามีความเร็วเพิ่มขึ้นจาก 29.6Mbps เป็น 82.1Mbps เลยทีเดียว
แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ความเร็วในการดาวน์โหลด 5G ของ TrueMove H บนความถี่ 2.6GHz นั้นลดลงจากในเดือนธันวาคม 2565 ที่ 102.5Mbps เหลือเพียง 83.9Mbps ในเดือนมีนาคม 2566ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการถูกแบ่งใช้ย่านความถี่ 2.6GHz ร่วมกันของทั้งสองบริษัทนั่นเอง
ขณะที่เอไอเอส ยังมีความเร็วเฉลี่ยของการใช้บริการ 5G ในย่านความถี่ 2.6 GHz ใกล้เคียงกัน เมื่อเปรียบเทียบระหว่างเดือนธันวาคม 2565 ที่ความเร็ว 164.6Mbps และ 161.9Mbps ในเดือนมีนาคม 2566
ทั้งนี้ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทย มีการใช้ย่านความถี่ 5G อยู่ 2 ประเภทคือย่านความถี่ n28 (700MHz) และย่านความถี่ n41 (2.6 GHz) โดยย่านความถี่แบบแรกจะให้ความถี่ครอบคลุมในช่วงกว้างกว่าและแบบที่สองจะให้ความจุข้อมูลสูงกว่า สิ่งนี้เองที่ทำให้มีปริมาณข้อมูลและความเร็วที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้ใช้มือถือ 5G บนย่านความถี่ n41 (2.6 GHz) ซึ่งส่งผลให้มีความแตกต่างอย่างมีนัยยะสำคัญของการถือครองคลื่นความถี่ของผู้ให้บริการเครือข่ายทั้งสามรายในประเทศไทย
ขณะที่ AIS และ TrueMove H ซึ่งเป็นผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ความถี่ 2.6GHz จำนวน 100 MHz และ 90 MHz ตามลำดับ แต่ DTAC กลับไม่ได้ถือครองกรรมสิทธิ์ในคลื่นความถี่ย่านนี้ จากการประมูลคลื่นความถี่ประจำปี 2563 จึงเป็นผลทำให้ถูกจำกัดความสามารถในการกระจายสัญญาณ 5G ในย่านความถี่ 700 MHz ได้เท่านั้น โดยข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่ Opensignalสังเกตมาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 และในรายงานประสบการณ์เครือข่ายมือถือประจำประเทศไทย(ประจำเดือนพฤศจิกายน 2565)ครั้งล่าสุดนี้ พบว่าผู้ใช้เครือข่าย DTAC ก็ยังคงได้พบกับค่าเฉลี่ยความเร็วในการดาวน์โหลด 5G ในระดับต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการเชื่อมต่อบน AIS และ TrueMove H ประมาณ 30Mbps เท่านั้น ซึ่งจากค่าย AIS และ TrueMove H ที่มีความเร็วในการดาวน์โหลดเฉลี่ยที่ 156.4Mbps และ 100.4Mbps ตามลำดับ
นอกจากนี้ Opensignal ได้พิจารณาพัฒนาการด้านแบนด์วิธคลื่นความถี่โดยเฉลี่ยของการเชื่อมต่อ 5G บนเครือข่ายของผู้ให้บริการในประเทศไทยระหว่างเดือนธันวาคม 2565 และเดือนมีนาคม 2566 พบว่าแบนด์วิธคลื่นความถี่ 5G โดยเฉลี่ยของเครือข่าย DTAC เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจาก 19.5MHz ในเดือนธันวาคม 2565 เป็น 22.9MHz ในเดือนมีนาคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 3.4MHz (17.1%) นับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา สำหรับผู้ใช้ที่เชื่อมต่อ 5G บนเครือข่าย AIS และ TrueMove H นั้นยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงทางสถิติของค่าเฉลี่ยแบนด์วิธคลื่นความถี่ใด ๆ ในช่วงเดือนดังกล่าว
เมื่อพิจารณาสัดส่วนของการเปลี่ยนแปลงของ 5G ต่อย่านความถี่ในเดือนธันวาคม 2565 และเดือนมีนาคม 2566 ของผู้ให้บริการเครือข่ายต่าง ๆ แล้ว พบว่าผู้ใช้งานบนเครือข่าย DTAC มีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก โดยเปลี่ยนจากความถี่ 700MHz (n28) เป็น 2.6 GHz (n41) ขณะที่ในเดือนธันวาคม 2565 นั้น DTAC ยังคงใช้คลื่นความถี่ 700MHz ให้บริการ 5G แต่ในเดือนมีนาคม 2566 ในการอ่านค่า 5G ของเครือข่าย DTAC พบว่ามีการให้บริการบนคลื่นความถี่ 2.6GHz เพิ่มขึ้นเกือบ 80% ซึ่ง Opensignal ยังไม่พบการเปลี่ยนแปลงลักษณะนี้กับเครือข่าย AIS และ TrueMove H โดยสัดส่วนของ 5G ในคลื่นความถี่ 700MHz ยังคงเป็นไปอย่างปรกติ ทั้งในเดือนธันวาคม 2565 และเดือนมีนาคม 2566 ซึ่งอยู่ในช่วง 8.6% และ 15.2% ตามลำดับ
ทั้งนี้จำนวนแบนด์วิธของความถี่ที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่ทำให้ความเร็วในการดาวน์โหลด 5G สูงขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพการบริการมือถือในด้านอื่น ๆ อีกด้วย โดย Opensignal ได้วิเคราะห์คะแนนด้านประสบการณ์วิดีโอ 5G ตามคลื่นความถี่ 5G ที่ผู้ให้บริการเครือข่ายในประเทศไทยใช้เป็นหลัก พบว่าการเชื่อมต่อ 5G บนย่านความถี่ 2.6MHz ทำให้ผู้ใช้ 5G ชาวไทยได้รับประสบการณ์วิดีโอที่ดีกว่าการเชื่อมต่อบนย่านความถี่ 700MHz ด้วยค่าคะแนนที่แตกต่างกันในเดือนมีนาคม 2566 ในช่วงคะแนน 2.9 และ 3.2 สำหรับ DTAC และ TrueMove H ตามลำดับและ 6 คะแนนสำหรับ AIS