อินโฟบล็อกซ์ อิงค์ (Infoblox Inc.) องค์กรที่ให้บริการแพลตฟอร์มการเชื่อมโยงเครือข่ายและความปลอดภัย ประกาศถึงจุดยืนขององค์กร อินโฟบล็อกซ์เห็นความจำเป็นที่ทีมงานด้านเครือข่ายและทีมรักษาความปลอดภัยต้องผนึกกำลังกัน เพื่อต่อสู้กับอาชญากรไซเบอร์ ทั้งนี้ บริการด้านความปลอดภัยใหม่และเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่ปรับปรุงใหม่ของอินโฟบล็อกซ์ในครั้งนี้ได้สะท้อนถึงกลยุทธ์ ความเชื่อมั่น และการมุ่งเน้นธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถตรวจจับและตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างครอบคลุม ช่วยให้ธุรกิจขององค์กรเติบโตอย่างรวดเร็ว
นายสก็อต ฮาร์เรล ซีอีโอและประธานของอินโฟบล็อกซ์กล่าวว่า “อินโฟบล็อกซ์เป็นบริษัทเดียวที่สามารถให้ศักยภาพการมองเห็นได้แบบเรียลไทม์และควบคุมได้ถึงผู้ใช้งานและอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านเครือข่ายประเภทต่างๆ และสภาพแวดล้อมแบบมัลติคลาวด์ทั้งหมายได้เพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและยืดหยุ่นมากขึ้น ด้วยการนำทีม NetOps และ SecOps มารวมกันจะสามารถสร้างการมองเห็น การแบ่งปันข้อมูล การทำงานของระบบที่เป็นอัตโนมัติและให้อำนาจในการควบคุมร่วมกันได้ ในขณะที่องค์กรยังสามารถป้องกันการแพร่กระจายของมัลแวร์และระบุแหล่งที่มาของภัยคุกคามชนิดต่างๆ และยกระดับประสิทธิภาพและการป้องกันให้สูงไปอีกขั้น”
นายพอล วิลค็อกซ์ รองประธานฝ่ายขาย ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น ที่อินโฟบล็อกซ์เปิดเผยว่า “ปัจจุบันธุรกิจต่างๆ หันมาใช้สภาพแวดล้อมแบบไฮบริดและมัลติคลาวด์มากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งเป็นการสร้างความซับซ้อนและขยายพื้นผิวเสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากยิ่งขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจที่รายงาน Infoblox’s 2023 Global State of Cybersecurity ของอินโฟบล็อกซ์พบว่า 60% ขององค์กรประสบกับการละเมิดข้อมูลอย่างน้อยหนึ่งครั้งในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา โดยมีการสูญเสียเฉลี่ย 2 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเหตุการณ์อันเป็นผลมาจากการละเมิดเหล่านี้ นอกจากนี้ 81% ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่าอีเมล/ฟิชชิงเป็นการโจมตีอันดับต้นๆ
อินโฟบล็อกซ์จึงได้ออกบริการใหม่ “Lookalike Domain Monitoring” ที่สามารถระบุโดเมนเว็บไซต์ต่างๆ ที่พยายามปลอมแปลงเป็นแบรนด์ของบริษัทซึ่งเป็นวิธีการหลอกลวงคู่ค้าและลูกค้ามากมายผสมการทำงานกับภัยฟิชชิง มัลแวร์โฆษณาและการโจมตีที่คล้ายกัน หลังจากที่อินโฟบล็อกซ์ได้เปิดตัวฟีดข่าวกรองภัยคุกคามใหม่นี้ไม่นาน ก็สามารถบ่งชี้เจตนาร้ายและช่วยหยุดการโจมตีก่อนที่จะเกิดขึ้นได้ ด้วยการปรับปรุงเหล่านี้ อินโฟบล็อกซ์จึงมอบประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยให้กับลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น
อินโฟบล็อกซ์ทำหน้าที่วิเคราะห์ DNS มากกว่า 70,000 ล้านรายการต่อวัน ซึ่งในรายงานโดเมนที่มีลักษณะคล้ายกันใหม่ (Lookalike domain report) นี้ อินโฟบล็อกซ์แสดงให้เห็นว่าในขณะที่ผู้ประสงค์ร้ายยังคงลวงโดยการใช้โดเมนที่มีลักษณะคล้ายกันอยู่ และยิ่งเห็นการพัฒนาก้าวล้ำมากขึ้นในปีค.ศ. 2022 ที่ผ่านมา โดยได้กำหนดเหยื่อเป้าหมายไปที่ทุกภาคอุตสาหกรรม และร่วมโจมตีกับภัยไซเบอร์อื่นๆ ในรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น ภัยที่เลี่ยงการตรวจสอบหลายปัจจัย (MFA)
“ในฐานะผู้ให้บริการโซลูชันการรักษาความปลอดภัยในชั้น Domain Name Server (DNS) ที่ดีที่สุด อินโฟบล็อกซ์ยังคงก้าวหน้าก่อนใครในอุตสาหกรรม โดยมุ่งมั่นใช้ DNS เป็นแหล่งข้อมูลข่าวกรองภัยคุกคามที่ไม่เหมือนใครและเป็นจุดจัดการกับภัยคุกคามที่มีประสิทธิภาพ เราเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัย DNS รายแรกและรายเดียวที่สามารถป้องกันภัยลวงที่ใช้โดเมนที่มีลักษณะคล้ายกัน ซึ่งการโจมตีเหล่านี้นับวันจะมีความซับซ้อนและแพร่หลายมากขึ้น ส่งให้มีความจำเป็นต้องใช้โซลูชันเฉพาะทางในการการรักษาความปลอดภัยขององค์กรและผู้ใช้งาน” เขากล่าวเสริม
อินโฟบล็อกซ์ให้ความสำคัญกับการช่วยลูกค้าสร้างเครือข่ายที่สามารถโต้ตอบได้มากขึ้นเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล จึงจำเป็นต้องใช้ศักยภาพที่ทำงานตรวจจับภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่และหยุดการโจมตีในระยะเริ่มต้นได้ และใช้ข้อมูลข่าวกรองด้านภัยคุกคามมีเนื้อหาครอบคลุมหลากหลาย จึงจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการรักษาความปลอดภัย
อินโฟบล็อกซ์ได้เห็นการรวมตัวกันทำงานของทีมงานด้านเครือข่ายและความปลอดภัยมากขึ้นในองค์กรลูกค้าของอินโฟบล็อกซ์ที่อยู่ใน Fortune 100 ทั้งในอุตสาหกรรมยานยนต์ ให้บริการคำปรึกษา การเงิน ไอที และโทรคมนาคม จึงเห็นได้ว่าถึงเวลาแล้วที่องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องจะทำงานร่วมกับพันธมิตรด้านการรักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ เพื่อช่วยสร้างการมองเห็นภายในเครือข่ายของตน เพื่อบรรเทาและตรวจจับภัยคุกคามได้ดีขึ้นเมื่อเกิดภัยคุกคามในช่วงแรกๆ
นอกจากนี้ นายอภิชาติ เจิมประไพ ผู้จัดการประจำประเทศไทยและอินโดจีน ที่อินโฟบล็อกซ์ กล่าวถึงโครงการ “สกิลดิ์ ทู ซีเคียว” (Skilled to Secure) ว่า “โครงการดังกล่าวได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสให้พันธมิตรสามารถสร้างศักยภาพด้านความปลอดภัยที่ไว้ใจได้และจัดหาให้ลูกค้าได้ตรงความต้องการ และถือเป็นโครงการด้านการตลาดที่สำคัญ ทั้งนี้โปรแกรมสกิลดิ์ ทู ซีเคียวที่เชื่อถือได้นี้สะท้อนถึงภูมิทัศน์ด้านความปลอดภัยที่กำลังเปลี่ยนแปลงและความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป โครงการ “สกิลดิ์ ทู ซีเคียว” ออกแบบมาเพื่อให้การสนับสนุนผ่านพันธมิตรใน 3 ระดับ ได้แก่: ผู้ค้าปลีกมูลค่าเพิ่มและผู้รวมระบบ (Value-added Reseller and Systems Integrator) ผู้ให้บริการ (Service Provider) และผู้จัดจำหน่ายมูลค่าเพิ่ม (Value-added distributor)”