SAP NOW ควงลูกค้า อวดนวัตกรรมเพื่อธุรกิจใหม่แบบยั่งยืน

SAP NOW

SAP NOW

SAP รวมตัวกลุ่มลูกค้า พันธมิตร และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีกว่า 500 รายจากทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จัดงาน SAP NOW SEA ณ ประเทศสิงคโปร์ เพื่อนำเสนอโซลูชั่นใหม่ของ SAP ที่ได้เปิดตัวไม่นานมานี้ อาทิ green ledger carbon accounting และ Business AI ร่วมกับลูกค้าและพันธมิตร ได้แก่ Aboitiz InfraCapital, Changi Airport Group, Metro Pacific Investments Corporation, Petrosea, ST Logistics และ Visa และเป็นการชี้ให้เห็นว่าลูกค้าในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะได้ประโยชน์จากโซลูชั่น SAP และเครือข่ายธุรกิจอย่างไร เพื่อสร้างความมั่นคงของธุรกิจในอนาคต

ภายในงาน SAP NOW SEA มีองค์กรที่มาร่วมเล่าประสบการณ์เส้นทางการเปลี่ยนแปลงที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ดังนี้:

  • Visa กำลังร่วมมือกับ SAP เพื่อปรับปรุงและลดความยุ่งยากในการชำระเงินระหว่างธุรกิจกับธุรกิจ (B2B) สำหรับองค์กรทุก การร่วมมือกันครั้งนี้เริ่มจากแถบเอเชียแปซิฟิก ด้วยการติดตั้งระบบการชำระเงินไว้ในระบบนิเวศของ SAP ผ่าน SAP Business Technology Platform (SAP BTP) และมอบความสามารถที่จะช่วยให้ธุรกิจกำหนดเส้นทางการชำระเงินเชิงพาณิชย์ให้กับซัพพลายเออร์ได้ ไม่ว่าพวกเขาจะรับชำระเงินด้วยบัตรหรือไม่ก็ตาม
  • Metro Pacific Investments Corporation (MPIC) บริษัทลงทุนโครงสร้างพื้นฐานชั้นนำเป็นองค์กรแรกในประเทศฟิลิปปินส์ที่ได้นำระบบ RISE with SAP มาใช้ในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานและรวบรวมระบบการวางแผนทรัพยากรขององค์กรภายใต้การบริการของ SAP
  • ผู้นำในอุตสาหกรรมซัพพลายเชน ST Logistics ได้เลือกใช้ RISE with SAP, SAPSuccessFactors และ SAP BTP ในการผลักดันแผนการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลภายในระยะเวลาสามปี ช่วยขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและเร่งการเติบโตได้อย่างยั่งยืน

“ภารกิจของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คือการยกระดับชีวิตของผู้คนกว่า 700 ล้านคนในภูมิภาค  ซึ่ง SAP กำลังดำเนินการทั้งหมดสามวิธีการ ได้แก่ ส่งเสริมนวัตกรรมผ่านแนวคิดใหม่ อาทิ AI ภาคธุรกิจ  ขับเคลื่อนผลลัพธ์ที่ยั่งยืนด้วยการลงทุนในบัญชีคาร์บอนและบัญชีแยกประเภทสีเขียว และสร้างความมั่นคงให้องค์กรมีโครงสร้างพื้นฐานที่คล่องตัวในระบบคลาวด์”  Verena Siow ประธานและกรรมการผู้จัดการ เอสเอพี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

งานนี้ได้จัดขึ้นหลังจากการประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ของ SAP ในเอเชียแปซิฟิกปี พ.ศ. 2566  โดยแสดงให้เห็นถึงการเติบโตของระบบคลาวด์อย่างมีนัยสำคัญ และแสดงให้เห็นถึงชัยชนะและพร้อมที่จะ Go-live ของลูกค้ารายใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ Visa, Singtel, FGV IFFCO และ Aboitiz InfraCapital

เตรียมความพร้อมสู่อนาคตกับระบบนิเวศของพันธมิตร SAP ในยุคเศรษฐกิจ AI

SAP ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเป็นพันธมิตรด้านนวัตกรรม ณ งาน SAP NOW SEA ซึ่งช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ สามารถแก้ปัญหาความท้าทายแบบเร่งด่วนในยุคเศรษฐกิจ AI ภายในงาน SAP ได้เชิญ Snehanshu Shah กรรมการผู้จัดการของ SAP ที่ Google Cloud มาร่วมพูดคุยถึงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือระหว่าง SAP กับ Google Cloud การจับมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้นำมาสู่การแลกเปลี่ยนข้อมูลเปิดที่ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งผสานรวมโซลูชั่นของ SAP กับ Google Cloud’s Data และ Analytics Technology สู่การเป็นแหล่งข้อมูลด้านธุรกิจและการการพัฒนา AI ขององค์กรที่ล้ำหน้า

ด้านตัวแทนจาก B Capital Group บริษัทร่วมทุนที่ก่อตั้งร่วมกันระหว่าง Eduardo Saverin และ Raj Ganguly เป็นการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีทั่วโลก ประกาศจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมกับ SAP ในเอเชียแปซิฟิกญี่ปุ่น (APJ) เพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจสตาร์ทอัพสามารถขยายขนาดผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีได้ ภายใต้ MoU บริษัทในเครือ B Capital จะสามารถเข้าถึงความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของ SAP และเครือข่ายธุรกิจทั่วโลกเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรม รวมถึงด้านอื่น ๆ เช่น AI และระบบอัตโนมัติอีกด้วย

นอกจากนี้ บริษัทกลุ่มเทคโนโลยีการสื่อสารชั้นนำของเอเชียอย่าง Singtel ก็ได้ประกาศเช่นกันว่าพวกเขากำลังร่วมมือกับ SAP เพื่อนำเสนอโซลูชั่น 5G Intelligent Edge Aggregator (IEA) แบบ end-to-end เพื่อให้องค์กรต่าง ๆ สามารถรับข้อมูลอัจฉริยะและข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนโดย SAP BTP จะได้รับการพัฒนาเพื่อคอมพิวเตอร์วิทัศน์(computer vision) ความปลอดภัยในที่ทำงาน และเพื่อกรณีการใช้งานในด้านการส่งมอบระยะสุดท้าย โดยจะทำการสร้างเฟรมเวิร์กที่ผู้ใช้ในอุตสาหกรรมและลูกค้าสามารถปรับและรวบรวมเข้ากับระบบและกระบวนการแบ็กเอนด์ได้อย่างง่ายดาย

“เห็นได้ชัดว่าปัจจุบันเราอยู่ในจุดแห่งการเปลี่ยนแปลง และวิธีที่ดีที่สุดในการขับเคลื่อนไปสู่วันข้างหน้าในวันนี้คือการปรับใช้นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง รวบรวมพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ รวมไปถึงตัวลูกค้าเอง วิธีทั้งหมดนี้จะช่วยเสริมสร้างและผลักดันให้องค์กรประสบความสำเร็จในยุคเศรษฐกิจดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” Verena กล่าวเสริม

Raymund Ramos, หัวหน้าเจ้าหน้าที่สารสนเทศ, Aboitiz InfraCapital กล่าวว่า ที่ Aboitiz InfraCapital เรามอง SAP เป็นพันธมิตรที่หน้าเชื่อถือในการสร้างความมั่นคงให้องค์กรของเราพร้อมสำหรับอนาคตและบรรลุเป้าหมายการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ การใช้ SAPBTP และ RISE with SAP เป็นหลักคิดที่นำทางทำให้เราได้เห็นพอร์ตโฟลิโอมากมายของ SAPซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนแผนงานดิจิทัลทั้งหมดของเราในอีก 5 ปีข้างหน้า และช่วยตอกย้ำวิสัยทัศน์ของกลุ่ม Aboitiz ในการเป็นกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีแห่งแรกของฟิลิปปินส์

SAP NOW

ด้าน Arijit Sengupta หุ้นส่วนทั่วไปของ B Capital กล่าวว่า ทวีปเอเชียเป็นแหล่งรวมนวัตกรรมและบริษัทสตาร์ทอัพ เรามองเห็นโอกาสมากมายในภูมิภาคนี้ ไม่ใช่แค่กับอุตสาหกรรมดิจิทัลเท่านั้น แต่รวมไปถึงการฟื้นฟูอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ยังคงอยู่ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป การร่วมมือกันของเรากับ SAP จะช่วยให้บริษัทในเครือ B Capital สามารถเข้าถึงแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมที่ผ่านการทดลองและทดสอบแล้ว เทคโนโลยีมาตรฐานที่เหมาะสำหรับบริษัทที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และเครือข่ายธุรกิจของSAP ที่กว้างขวางเพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่ ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราเร่งการเติบโตและสามารถขยายธุรกิจไปทั่วโลก

นอกจากนี้ Martin Chee กรรมการผู้จัดการ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Google Cloud ยังกล่าวว่า ข้อมูลของ SAP ถือเป็นหนึ่งในทรัพย์สินที่สำคัญที่สุดสำหรับองค์กรต่าง ๆ และการจับมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ทำให้ลูกค้าของเราสามารถรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันผ่านระบบคลาวด์ของเราได้อย่างง่ายดาย เพื่อสร้างข้อมูลเชิงลึกทางธุรกิจที่สมบูรณ์ ฝึกโมเดล AI แบบกำหนดเอง และอื่น ๆ อีกมากมาย

Sudarto Unsurlany หัวหน้าฝ่ายดิจิทัลของ PT Petrosea Tbk กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของเราได้รับแรงผลักดันจากกลยุทธ์ 3D ของเราสู่การทำธุรกิจแบบดิจิทัล การกระจายความเสี่ยง และการลดคาร์บอน ซึ่งช่วยให้บริษัทของเราสามารถดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าและยั่งยืน การใช้ประโยชน์จากโซลูชั่นดิจิทัลต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศของ SAP ร่วมกับ Minerva Digital Platform ที่เป็นแพลตฟอร์มภายในสำหรับโซลูชั่นการขุดเหมืองดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบจากต้นจนจบ ได้ช่วยนำมาซึ่งการเชื่อมต่อ ข้อมูลเชิงลึก และผลกระทบ เพื่อสนับสนุนความมุ่งมั้นของเราในการเป็นทรัพยากรที่ยั่งยืนในอนาคตอันใกล้

อีกทั้งยังมีตัวอย่างของการประยุกต์ใช้โซลูชั่นที่ประสบความสำเร็จ อย่าง ST Logistics โดย Loganathan Ramasamy ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ST Logistics กล่าวว่า  ด้วยประสบการณ์มากกว่า 50 ปีในการให้บริการการจัดการซัพพลายเชนและโซลูชั่นโลจิสติกส์แบบครบวงจรแก่กระทรวงกลาโหม รัฐบาล และกลุ่มธุรกิจสาธารณสุข เราตัดสินใจร่วมมือกับ SAP เพื่อขับเคลื่อนเส้นทางการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ และพร้อมสำหรับอนาคตในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล การใช้งาน RISE with SAP ทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลทั่วไปเพื่อดำเนินการตามกลยุทธ์ขององค์กรได้อย่างทันท่วงที และสามารถเข้าถึงการประมวลผลแบบทันที ช่วยส่งเสริมการตัดสินใจในการให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ เรายังสามารถปรับกลยุทธ์ด้านโลจิสติกส์ให้เหมาะสม ลดต้นทุน และปรับปรุงบริการของเราในขณะที่บรรลุเป้าหมายได้อย่างยั่งยืน

ในส่วนของการศึกษายังมีตัวอย่างที่สำคัญของ Singapore University of Technology and Design (SUTD) “ในฐานะมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกที่มุ่งเน้นการวิจัยทางด้านเทคโนโลยีและการออกแบบ เราเข้าใจถึงความสำคัญของการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่อเตรียมพร้อมให้กับนักศึกษาสำหรับโลกแห่งการทำงานรูปแบบใหม่ และเพื่อสร้างประสบการณ์การทำงานของพนักงานให้มีความน่าสนใจ SUTD กำลังมองหาระบบที่ปรับขนาดได้ มีประสิทธิภาพ และปลอดภัยบนระบบคลาวด์ ERP เพื่อรองรับอนาคตขององค์กร และด้วย RISE with SAP เป็นศูนย์กลางดิจิทัลของเรา จึงสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอัจฉริยะในตัว อาทิ AI ระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ได้ด้วยตนเอง และการวิเคราะห์ขั้นสูง เพื่อบรรลุแผนการเติบโตอย่างยั่งยืนของเรา” Giselia Giam, รองประธานฝ่ายบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน, SUTD กล่าว

นอกจากนี้ในด้านการเงิน ยังมีความร่วมมือระหว่าง Visa กับ SAP ถือเป็นอีกก้าวสำคัญ เนื่องจากนี่เป็นเวทีสำหรับการสำรวจแบบเชิงลึกในโลกของการเงินแบบติดตั้งระบบสำหรับตลาด B2B”Chavi Jafa หัวหน้าฝ่ายการค้าและโซลูชั่นการเคลื่อนย้ายเงิน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ Visa กล่าว “เกือบ 99 เปอร์เซ็นต์ของบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ใช้โซลูชั่นของ SAP เพื่อดำเนินงานประจำวัน และตอนนี้องค์กรเหล่านี้ก็สามารถใช้บัตร Visa ซึ่งเป็นวิธีการชำระเงินที่พวกเขาไว้วางใจได้แล้วโดยตรงบน SAP Business Technology Platform (SAP BTP) ซึ่งเป็นโซลูชั่นระดับองค์กรที่พวกเขาไว้วางใจ

ทั้งนี้ องค์กรต่าง ๆ จะไม่ต้องต่อสู้กับปัญหาวิธีการชำระเงินต่าง ๆ ที่ซัพพลายเออร์ของตนสามารถรับได้อีกต่อไป เนื่องจากโซลูชั่นการชำระเงินของ Visa ที่รวมเข้ากับ SAP BTP จะช่วยกำหนดเส้นทางการชำระเงินด้วยบัตรเชิงพาณิชย์ให้กับซัพพลายเออร์ทุกราย ไม่ว่าพวกเขาจะรับการชำระเงินด้วยบัตรหรือไม่ก็ตาม ซึ่งจะทำให้การชำระเงินของทั้งผู้ซื้อและผู้ขายเป็นไปอย่างรวดเร็วขึ้น ช่วยให้การชำระเงินแบบธุรกิจ B2B ทั่วห่วงโซ่อุปทานของเอเชียแปซิฟิกกลายเป็นระบบดิจิทัลมากขึ้น”

banner Sample

Related Posts