ซัมซุง เผย 5 เทรนด์ AI ย้ำผู้นำการใช้ AI ในสมาร์ตโฟน

Galaxy S24 Series

การเปิดตัว Galaxy S24 Series ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการก้าวนำด้านนวัตกรรมในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟนเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศศักยภาพของ Samsung ในการนำเสนอเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยผ่าน ‘Galaxy AI’ ได้อย่างเต็มรูปแบบ ปฏิวัติวิธีการใช้งานสมาร์ตโฟนให้เข้าถึงความต้องการส่วนบุคคลได้แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือทั่วโลกเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของ Samsung ที่ตอบสนองต่อความต้องการและพฤติกรรมของผู้ใช้ในยุคสมัยใหม่ ที่ AI เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของ Samsung ยิ่งได้รับการยืนยันจากการสั่งซื้อล่วงหน้าของ Galaxy S24 Series ที่ทำลายสถิติเดิมของ Galaxy S23 Series ถึงสองเท่า เป็นการเน้นย้ำถึงการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากตลาดและความมั่นใจของผู้บริโภคในนวัตกรรมที่ Samsung นำเสนอ

ตลาด AI ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2575 และในประเทศไทยเองก็คาดการณ์ว่าตลาด AI จะเติบโตด้วยอัตรา 23.46% ต่อปี มูลค่าตลาดสูงถึง 1,084 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2573 นับเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของ Generative AI และการใช้งาน Chat GPT ที่มีผู้ใช้มากกว่า 180.5 ล้านคน โดยมีเทรนด์หลักที่น่าสนใจในปี 2024 ได้แก่ Generative AI, BYOAI หรือ Shadow AI, แอปพลิเคชั่นอัจฉริยะด้วย AI ในการใช้ AI สำหรับการเขียนโค้ด และการค้นหาออนไลน์ด้วย AI ซึ่งทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและใช้ชีวิตในปัจจุบัน

Galaxy S24 Series จาก Samsung เป็นตัวอย่างของการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในสมาร์ตโฟน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เช่น ชิปเซ็ตประสิทธิภาพสูง, ระบบจัดการความร้อน, และกล้อง ProVisual Engine นอกจากนี้ Samsung ยังร่วมมือกับ Google และ Microsoft ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI เช่น Circle to Search และ LLM ซึ่งช่วยให้ประสบการณ์การใช้งาน AI บน Galaxy S24 Series มีประสิทธิภาพสูงสุด

ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวก็เป็นจุดเน้นหลักของ Galaxy S24 Series โดยมีการพัฒนาฟีเจอร์เช่น แดชบอร์ดความปลอดภัย, Knox Vault และ Secure Wi-Fi เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคลจากการรั่วไหลและอาชญากรรมไซเบอร์

การเปิดตัว Galaxy S24 Series ไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน แต่ยังเป็นการตอบสนองความต้องการของ Gen MZ ด้วยฟีเจอร์ AI ที่หลากหลาย สะท้อนถึงความนิยมและการตอบรับอย่างท่วมท้นจากตลาด ด้วยยอดการสั่งจองล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้นกว่า 200% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และกลายเป็นผลิตภัณฑ์อันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนีย นับเป็นการพิสูจน์ความสำเร็จของ Samsung ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี AI ในตลาดโทรศัพท์มือถือ

เสียงตอบรับจากผู้บริโภค

Samsung Galaxy S24 Ultra ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้และนักวิจารณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟีเจอร์ AI, อายุการใช้งานแบตเตอรี่, และประสิทธิภาพของกล้อง แม้จะมีบางด้านที่ยังไม่ตอบโจทย์ผู้ใช้อย่างเต็มที่

ผู้ใช้ประทับใจในฟีเจอร์ Galaxy AI ที่มีให้ ได้แก่ Live Translate แบบเรียลไทม์, Chat Assist, Note Assist, และ Transcript Assist ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารและการทำงาน. ฟีเจอร์ Generative Edit ที่ช่วยปรับแต่งวัตถุภายในภาพได้โดยตรงบนเครื่อง และฟังก์ชั่น Circle to Search ที่ช่วยระบุวัตถุหรือข้อมูลบนหน้าจอได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์

อุปกรณ์มีขนาดและน้ำหนักใกล้เคียงกับรุ่นก่อนหน้า S23 Ultra แต่มีหน้าจอแบบแบน. ปากกา S Pen ได้รับคำชมในเรื่องการตอบสนองและความทนทาน แม้ว่าฟีเจอร์ Bluetooth บางอย่างของ S Pen จะถูกวิจารณ์ว่าไม่มีประโยชน์มากนัก

ในส่วนของซอฟต์แวร์ Galaxy S24 Ultra มาพร้อมกับ Android 14 ภายใต้ One UI 6.1 ของ Samsung ที่นำเสนอฟีเจอร์ AI มากมาย. ความมุ่งมั่นของ Samsung ในการให้การอัปเดต OS และความปลอดภัยนานถึงเจ็ดปีเป็นจุดขายที่สำคัญ ทำให้ราคา $1,300 มีความคุ้มค่ามากขึ้นหากคุณต้องการใช้โทรศัพท์นี้ในระยะยาว

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ของ S24 Ultra เป็นจุดเด่น โดยเครื่องสามารถใช้งานได้มากกว่าหนึ่งวันเมื่อใช้งานอย่างพอเหมาะ อย่างไรก็ตาม ความเร็วในการชาร์จที่จำกัดอยู่ที่ 45 วัตต์ได้รับการวิจารณ์ว่าไม่ทันสมัยเมื่อเทียบกับอัตราการชาร์จในปี 2024 ที่หลายๆ โทรศัพท์มีมาตรฐานการชาร์จที่เร็วกว่านี้

กล้องของ Galaxy S24 Ultra ได้รับการตอบรับแบบมีสองด้าน ในขณะที่พวกเขามีศักยภาพ แต่บางผู้ใช้รู้สึกว่ายังไม่เป็นไปตามความคาดหวังสูงที่ Samsung ตั้งไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจต้องการการสำรวจและอัปเดตเพิ่มเติมเพื่อปลดล็อกศักยภาพเต็มรูปแบบ

โดยรวมแล้ว Galaxy S24 Ultra ได้รับการชื่นชมสำหรับฟีเจอร์ AI ขั้นสูง อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่แข็งแกร่ง และคำมั่นสัญญาในการอัปเดตระยะยาว แต่บางฟีเจอร์และประสิทธิภาพของกล้องยังมีพื้นที่สำหรับการปรับปรุงเพิ่มเติม

Galaxy S24 Series
นายสิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานองค์กร ธุรกิจโมบายล์ เอ็กซ์พีเรียนซ์

ทิศทางการพัฒนา AI ของซัมซุง

ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป ทิศทางการพัฒนาด้าน AI ของซัมซุงได้เน้นไปที่การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ และการปรับใช้ AI ในการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ของอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประชุม Samsung AI Forum 2023, ซัมซุงได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของ Generative AI และการวิจัยในด้านความปลอดภัย, ความน่าเชื่อถือ และความยั่งยืนของ AI การประชุมได้นำเสนอการพัฒนาใหม่ๆ เช่น Samsung Gauss, รุ่น AI ที่สามารถสร้างข้อความ, โค้ด, และภาพ

ในวันที่สองของการประชุม มีการโฟกัสไปที่การขยายขอบเขตของ Generative AI และได้นำเสนอ Samsung Gauss, โมเดล AI ที่พัฒนาโดย Samsung Research ซึ่งมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงทั้งชีวิตประจำวันและการทำงาน นอกจากนี้ซัมซุงยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนและทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมและวงการวิชาการในด้านการวิจัย Generative AI

ความพยายามของซัมซุงในการรวม AI เข้ากับทุกด้านของการพัฒนาและการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ถูกหยิบยกขึ้นมาในการประชุม, โดยมีการสำรวจศักยภาพของการคำนวณขนาดใหญ่ในการประมวลผลเซมิคอนดักเตอร์, รวมถึงการจำลองขนาดใหญ่ที่ถูกเร่งด้วยการเรียนรู้ของเครื่อง การใช้เทคโนโลยี AI ในเซมิคอนดักเตอร์ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาเทคโนโลยี แต่ยังช่วยให้ซัมซุงสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ปรับให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค

ที่ผ่านมาการพัฒนาด้าน AI ของซัมซุงในประเทศไทย เน้นไปที่การให้การสนับสนุนและเครื่องมือให้กับสตาร์ทอัพไทยเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เป้าหมายคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ทุกคนในไทย, โดยเฉพาะวิศวกรและนักพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับ AI, มีพื้นที่และเครื่องมือที่จำเป็นในการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีในด้าน AI ได้อย่างไม่มีข้อจำกัด นี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการที่ทะเยอทะยานของประเทศที่จะเติบโตเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล

แต่ปัจจุบันซัมซุง ประเทศไทย ได้ตั้งทีมการพัฒนาร่วมกับบริษัทแม่กว่า 100 ชีวิต เพื่อพัฒนาให้ AI สามารถรองรับภาษาไทยได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น และเพิ่มเป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของเครื่องสมาร์ตโฟนในระดับไฮเอนด์ ซึ่งเป็นแนวทางทั้งการพัฒนาด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ร่วมกัน อย่างที่เริ่มเห็นในเครื่องรุ่น S24 Ultra ที่ควบรวมความสามารถของ AI ที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน และในอนาคตยังจะมีการต่อยอดไปสู่การพัฒนาองค์ความรู้ให้กับผู้บริโภค เพื่อให้สามารถใช้งาน AI ผ่านเครื่องสมาร์ตโฟนได้อย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้การใช้งาน AI ในสมาร์ตโฟนกำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่เราใช้งานอุปกรณ์ของเรา โดย AI ช่วยให้การทำงานของสมาร์ตโฟนเป็นไปอย่างราบรื่นและส่วนตัวมากขึ้น ผู้บริโภคควรเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนผ่านนี้โดยการทำความเข้าใจฟีเจอร์ AI ที่มีให้ในสมาร์ตโฟน รวมทั้งการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยเพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล การทำความคุ้นเคยกับเครื่องมือ AI และการใช้งานเหล่านี้อย่างมีความรู้จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างเต็มที่ และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานสมาร์ตโฟนในชีวิตประจำวัน

banner Sample

Related Posts