เซนไฮเซอร์ (Sennheiser)เปิดตัวหูฟังระดับสตูดิโอแบบเปิด รุ่น HD 490 PRO ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ผลิตขึ้นสำหรับการควบคุมการผลิตเพลง การมิกซ์เสียง และการทำเพลงต้นฉบับโดยเฉพาะ หูฟังรุ่นใหม่นี้เป็นหูฟังไดนามิกแบบครอบหูที่มอบเสียงที่มีความแม่นยำสูง พร้อมให้มิติการรับรู้เสียงที่กว้าง สมจริง และแม่นยำ ซึ่งคุณสมบัติที่เยี่ยมยอดเหล่านี้จะช่วยให้โปรดิวเซอร์ วิศวกรผู้ควบคุมเสียง และนักดนตรี สามารถได้ยินรายละเอียดต่าง ๆ ได้ครบถ้วนอย่างที่ต้องการเพื่อการตัดสินใจที่ถูกต้องในการมิกซ์และการทำเพลงต้นฉบับ พร้อมทั้งช่วยสร้างความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาการวางทิศทางของเสียงได้อย่างดีเยี่ยม โดยหูฟัง Sennheiser HD 490 PRO และ HD 490 PRO Plus (ซึ่งมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริม) จะเริ่มวางจำหน่ายช่วงเดือนมีนาคมนี้
- – อาร์ทีบี เปิดตัวหูฟัง 2 รุ่น “ARC II MUSIC” และ “ARC II SPORT” จากแบรนด์ Cleer
- – โซนี่ไทย เปิดตัวหูฟัง Truly Wireless รุ่นใหม่ล่าสุด ในตระกูล 1000X Series
“ถ้าคุณลองเปรียบเทียบการทำเพลงในปัจจุบันกับเมื่อ 10 หรือ 20 ปีที่แล้ว คุณจะสังเกตได้ว่า ประสิทธิภาพอันทรงพลังในการประมวลผลและความละเอียดซับซ้อนของระบบออโตเมชันในการวัดค่าที่แตกต่างไปในยุคปัจจุบัน ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการทำเพลงไปอย่างสิ้นเชิง” จิมมี่ แลนดรี ผู้จัดการด้านการตลาดเฉพาะทางฝ่าย MI ของเซนไฮเซอร์ กล่าว “ในทุกแนวเพลง วิศวกรและนักแต่งเพลงต่างพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของการทำเพลงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการมิกซ์เสียงให้มีความซับซ้อนขั้นสูง ซึ่งอาจเป็นแนวโน้มที่จะนำไปสู่สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็น ‘จุดบอดของเสียง’ ที่ทำให้เสียงที่ผลิตออกมามีความวุ่นวายและไม่ชัดเจน ซึ่งการมีเสียงเครื่องดนตรีมากมายในตำแหน่งเสียงเดียวกันและมีความถี่หลายความถี่ที่ทับซ้อนกันนั้น ถือเป็นเรื่องยากสำหรับวิศวกรผู้ควบคุมเสียงหรือนักดนตรีที่จะได้ยินเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นหรือเสียงร้องได้อย่างชัดเจน สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการมีหูฟังสตูดิโอที่ดีสักคู่”
ถูกต้องคมชัดทุกช่วงเสียง
เพื่อแก้ปัญหาความซับซ้อนนี้ วิศวกรของเซนไฮเซอร์ได้ออกแบบหู
กันนาร์ เดิร์กส ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์
สะดวกสบายขณะสวมใส่
แม้หูฟังสตูดิโอของคุณจะดีสักแค่ไหน คุณคงพูดได้ไม่เต็มปากว่าหูฟังนี้ดี ถ้ามันใส่ไม่สบาย ดังนั้นวิศวกรของเซนไฮเซอร์จึงได้นำประสบการณ์การออกแบบชุดหูฟังระดับมืออาชีพกว่าหลายทศวรรษมาใส่ไว้ใน HD 490 PRO ซึ่งมีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ให้ช่วยลดแรงกดทับในจุดต่าง ๆ โดยแถบคาดศีรษะจะไม่กดทับส่วนที่บอบบางของศีรษะ นอกจากนี้แผ่นรองหูฟังแบบครอบหูยังได้รับการออกแบบให้รองรับขาแว่นเพื่อความสวมสบายของผู้ที่ใส่แว่นขณะใช้งานหูฟัง ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรโดยเซนไฮเซอร์
สิทธิบัตรนี้ ยังครอบคลุมไปถึงแกนพิเศษรูปทรงเรขาคณิตของหูฟัง HD 490 PRO ซึ่งได้รับการออกแบบเพื่อให้แน่ใจว่าหูฟังปรับเข้ากับสรีระของศีรษะของแต่ละคนได้อย่างเหมาะสมเมื่อสวมใส่ พร้อมรักษาแรงกดบนศีรษะให้เท่ากันในทุก ๆ จุด ไม่ว่าศีรษะของผู้ใช้งานจะมีลักษณะอย่างไรก็ตาม
“ขณะสร้างสรรค์ผลงานเพลง คุณคงไม่อยากให้อารมณ์ศิลป์ของคุณสะดุดเพียงเพราะหูฟังใส่ไม่พอดีหรือใส่ไม่สบาย ซึ่งหูฟัง HD 490 PRO ของเราสามารถช่วยให้คุณดื่มด่ำในอรรถรสของเสียงเพลงจนลืมไปว่ากำลังใส่หูฟังอยู่” นายแลนดรี กล่าว
แผ่นรองหูฟังสองชนิดเพื่อการใช้งานที่หลากหลาย
“ก่อนการพัฒนาหูฟัง HD 490 PRO เราได้ทำการสำรวจตลาดหูฟังระดับมืออาชีพครั้งที่ใหญ่ที่สุดที่เราพวกเราเคยทำมา โดยจากการสำรวจพบว่า ผู้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับคุณสมบัติของหูฟังที่ให้เสียงที่มีความเป็นกลาง อย่างไรก็ตาม หากดูตัวเลขทางการตลาด เรากลับพบว่าเสียงที่มีความอุ่นเล็กน้อยเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่าการเสียงที่มีความเป็นกลาง 100% ดังนั้นเราจึงตัดสินใจมอบคุณสมบัติของหูฟังสองอันโดยรวมอยู่ในหูฟังหนึ่งตัว ด้วยการให้แผ่นรองหูฟังสองชุดที่แตกต่างกันซึ่งได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เสียงที่แตกต่างกัน” นายเดิร์กส อธิบาย
แผ่นรองหูฟังกำมะหยี่ของหูฟัง HD 490 PRO ให้การตอบสนองของเสียงที่อุ่
ชนิดของแผ่นรองหูฟังมีผลอย่างมากต่อเสียงที่ผู้ฟังได้ยิน –หูฟัง HD 490 PRO ทำให้ผู้ใช้งานได้รับคุณสมบัติของหูฟัง 2 ชนิดจากหูฟังเพียงเครื่องเดียว ด้วยแผ่นรองหูฟังสำหรับงานผลิตซึ่งจะให้โทนเสียงที่อบอุ่น ขณะที่แผ่นรองหูฟังสำหรับงานปรับแต่งเสียงจะช่วยให้ลงลึกในรายละเอียดในแต่ละย่านความถี่
สิทธิ์การใช้งานร่วมกับ dearVR MIX-SE
หูฟัง HD 490 PRO มาพร้อมกับสิทธิ์การใช้งานโปรแกรมเสริม dearVR MIX-SE จาก Dear Reality โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยที่ dearVR MIX-SE จะช่วยเปลี่ยนซอฟต์แวร์สำหรับทำงานด้านเสียง (DAW) ให้เข้าสู่ระบบการจำลองสภาพแวดล้อมสำหรับการปรับแต่งเสียงแบบเสมือนจริง ซึ่งจะจำลองรูปแบบเสียงที่เหมือนกับอยู่ในห้องบันทึกเสียงต่าง ๆ อย่างพิถีพิถัน ไม่เพียงเพื่อช่วยให้วิศวกรควบคุมเสียงหรือเหล่านักทำเพลงสามารถจัดวางตัวเองให้อยู่ในจุดที่ดีที่สุดของการฟัง แต่ dearVR MIX-SE ยังช่วยให้มั่นใจในเรื่องของความสมดุลเสียงและการถ่ายทอดเสียงที่คงที่เหมือนกันทุกครั้งไม่ว่าจะนำไปมิกซ์ในระบบที่แตกต่างกัน
ใส่ใจในทุกรายละเอียด
หูฟังสตูดิโอระดับมืออาชีพได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันและยังโดดเด่นในเรื่องอุปกรณ์เสริมอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น
- สายหูฟังสามารถเสียบจากทางด้านซ้ายหรือด้านขวาของหูฟัง HD 490 PRO เพื่อตอบสนองต่อความชื่นชอบของแต่ละบุคคลและเพื่อตอบสนองต่อการจัดวางอุปกรณ์ที่แตกต่างกันในแต่ละที่
- สายหูฟังแบบขดที่ได้รับการจดทะเบียนลิขสิทธิ์โดยเซนไฮเซอร์ ถูกออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดเสียงรบกวนเมื่อสายกระทบกับโต๊ะหรือเสียดสีกับเสื้อผ้า
- สัญลักษณ์ระบุซ้าย-ขวาที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนจากฝาครอบกันฝุ่นด้านในของทรานสดิวเซอร์ อีกทั้งยังมีการระบุอักษรเบรลล์บริเวณสายคาดศีรษะซึ่งจะทำให้สามารถรู้ว่าเป็นหูฟังด้านใดได้จากแค่เพียงการสัมผัส
หูฟัง HD 490 PRO จะวางจำหน่ายในราคา 23,100 บาท มาพร้อมกับแผ่นรองหูฟังสองชุดที่แตกต่างกัน (สําหรับการมิกซ์และการทำเพลง) สายหูฟังยาว 1.8 เมตร และสิทธ์การใช้งาน dearVR MIX-SE ส่วนหูฟัง HD 490 PRO Plus จะวางจำหน่ายในราคา ราคา 27,700 บาท โดยมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ได้แก่ สายสัญญาณยาว 3 เมตร กระเป๋าสำหรับพกพา และแผ่นรองคาดศีรษะพิเศษแบบผ้า สำหรับอุปกรณ์เสริมทั้งหมดในรุ่น Plus จะมีวางจำหน่ายแยก โดยที่สายสัญญาณหูฟังแบบบาลานซ์ จะมีวางจำหน่ายเป็นอุปกรณ์เสริมพิเศษเพิ่มเติมอีกด้วย
“หากคุณกำลังมองหาหูฟังสตูดิโอสำหรับการรังสรรค์เสียงที่โดดเด่น มาพร้อมกับเสียงที่ชัดเจนโปร่งใสและความสามารถในการแยกแยะเสียงที่ยอดเยี่ยม หูฟัง HD 490 PRO คือตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคุณ” จิมมี่ แลนดรี กล่าว
ข้อมูลจำเพาะของหูฟัง HD 490 PRO:
- Acoustic principle: Open
- รูปแบบการสวมใส่: แบบครอบหู
- รูปแบบตัวแปลงสัญญาณ (ทรานสดิวเซอร์): ไดนามิก
- เส้นผ่านศูนย์กลางตัวแปลงสัญญาณ: 38 มม.
- การตอบสนองความถี่: 5 – 36,000 Hz, 100 Hz (-10 dB)
- ความไวตอบสนอง SPL (Sensivity) : 105 dB SPL (1 kHz/1 Vrms); 96 dB SPL (1 kHz/1 mW)
- ค่าความดังสูงสุดของเสียง: 128 dB SPL (1 kHz, 5% THD)
- THD: <0.2% (1 kHz, 100 dB SPL)
- ความต้านทาน: 130 ohms (1 kHz)
- อัตรากำลังไฟฟ้า: 300 mW (100 h, noise IEC 60268)
- อุณหภูมิ: การทำงาน: 0° C ถึง +50° C; การเก็บรักษา: -25° C ถึง +70° C
- ความชื้นสัมพัทธ์: การทำงาน: 10 – 80% (ไม่ควบแน่น); การจัดเก็บ: 10 ถึง 90%
- น้ำหนัก (ไม่รวมสาย): 260 กรัม