“เวลาร์ คอร์ปอเรชั่น” (WAYLAR) ลุยพัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์สัญชาติไทยแบบครบวงจร ชูแนวคิดผสานรวมเทคโนโลยี IoT Platform (Internet of Things) เข้ากับการบริหารจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ ตลอดจนการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์การใช้รถและการกับขี่ และนำข้อมูลที่เก็บไว้อย่างเป็นระบบ ไปใช้ได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และฉับไว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้รถฟลีทให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดเต็มความพร้อมของผู้ขับขี่ เล็งตั้งเป้าขยายฟลีทให้ครบ 1,000 คัน พร้อมเสริมแกร่งให้ 4 หน่วยธุรกิจหลักต่อยอดสู่การเป็นระบบโลจิสติกส์อัจฉริยะแบบครบวงจร
นายพันชนะ ตันติพิสุทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวลาร์ คอร์ปอเรชั่น (WAYLAR) จำกัด ได้เปิดเผยว่า “สำหรับแผนการในตอนนี้ที่เราได้ดำเนินการไปแล้วนั้น คือการเสริมรถผ่านแพลตฟอร์มการบริหารงานจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ ของเวลาร์ (WAYLAR) โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในการจัดหารถบรรทุกใหม่ ทั้ง 4ล้อ 4ล้อจัมโบ้ 6ล้อ และ 10 ล้อ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มต่างๆ และยังมีแผนสรรหารถเข้าร่วมเพิ่มเติมอีกทั้งรถใหม่และมือสอง รวมทั้งรถของพันธมิตรที่จะนำมาเข้าร่วมกับบริษัท โดยตั้งเป้าขยายฟลีทรถรวมจำนวนกว่า 1,000 คัน ผ่านแพลตฟอร์มจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ ของเวลาร์ (WAYLAR) ภายในปีนี้
นอกจากนี้เวลาร์ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรอีกหลายหลายธุรกิจ ในการจัดทำโปรโมชั่น หรือแคมเปญต่างๆ ให้กับผู้ที่เข้ามาร่วมทำธุรกิจกับเวลาร์ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการลดต้นทุนค่าน้ำมันเชื้อเพลิง การสรรหาประกันภัยด้านการขนส่ง การดำเนินธุรกิจปล่อยเช่ารถ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพันธมิตร ทั้งนี้ในไตรมาส 2 เป็นต้นไปเราหน่วยธุรกิจด้านแพลตฟอร์มการบริหารงานจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ จะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นเนื่องด้วยฐานลูกค้าของเราในอุตสาหกรรมขนส่งและโลจิสติกส์
โดยในกลุ่ม B2B (Business-to-Business) B2C (Business-to-Customer) C2C (Customer-to-Customer) รวมถึงอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้มีความต้องการในด้านการสนับสนุนในด้านรถขนส่งประเภทต่างๆ อีกทั้งยังมีกลุ่มเป้าหมายรองลงไปที่น่าสนใจอีกหลากหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจพลังงานเชื้อเพลิง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
ซึ่งตรงจุดนี้เวลาร์มองว่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการขยายธุรกิจของเวลาร์ ที่จะทำให้เวลาร์เติบโตไปได้มากยิ่งขึ้น และคาดว่าเวลาร์จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในตลาดได้ในไม่ช้า อีกทั้งเรามีความภูมิใจในตัวแพลตฟอร์มของเรา ที่เกิดจากการพัฒนาโดยทีมผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ของเวลาร์เองที่เป็นคนไทย 100% แต่มีคุณภาพและมาตรฐานเทียบเท่ากับระดับโลก ซึ่งจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับคู่ค้าและพันธมิตรของเราได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
โดยปัจจุบันผลิตภัณฑ์หลัก ของ WAYLAR ประกอบด้วย:
- WAYLAR device: อุปกรณ์ติดตามการเคลื่อนที่แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถติดตามสินค้า ยานพาหนะ และบุคคลได้อย่างแม่นยำ
- WAYLAR Move: แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล รวบรวมและแปลงข้อมูลจาก WAYLAR device เป็นข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
- WAYLAR Engine: แพลตฟอร์มแอปพลิเคชั่นที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของแต่ละองค์กร
- Supply Chain WAYLAR: ระบบบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน
อีกทั้งเรายังได้มีการวางแผนต่อยอดในอีก 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัท โดยประกอบไปด้วย 4 ยูนิตธุรกิจดังต่อไปนี้
1.หน่วยธุรกิจด้านอุปกรณ์ IoT – เป็นหน่วยธุรกิจที่จัดการดูแล สรรหา อุปกรณ์ IoT เช่น อุปกรณ์ติดตามรถยนต์ (GPS) กล้องติดรถยนต์ (MDVR) และเซ็นเซอร์ตรวจจับการทำงานต่างๆ สำหรับติดตั้งในยานพาหนะหรือเครื่องจักรของลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในติดตามและการบริหารงาน โลจิสติกส์ พร้อมทั้งชูจุดเด่นในเรื่องการให้บริการหลังการขายที่มุ่งเน้นความรวดเร็ว
2.หน่วยธุรกิจด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์ – หน่วยธุรกิจหลักในการพัฒนาซอฟต์แวร์ มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่เข้ามาสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของเวลาร์ (Buit to Suit) ที่สามารถเชื่อมโยงกับอุปกรณ์ IoT และนำข้อมูลเหล่านั้นที่ได้จากชุดอุปกรณ์ที่ติดตั้งไปวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน สำหรับผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของเวลาร์ ตัวอย่างเช่น
– WAYLAR CONNECT: เว็บแอปพลิเคชันสำหรับบริหารและติดตามสถานะของยานพาหนะ บุคคล และงาน โดยระบบจะแสดงสถานะข้อมูลที่เป็นปัจจุบันมากที่สุด พร้อมจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ สามารถดึงรายงานย้อนหลังเพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์วางแผนการดำเนินงานธุรกิจได้
– WAYLAR WORK: แอปพลิเคชันสำหรับสนับสนุนงานบริหารทรัพยากรบุคคลให้สะดวกมากยิ่งขึ้น สามารถลงเวลาเข้า – ออกงาน มอบหมายงานและตรวจสอบสถานะงานได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยากในการจัดการเก็บข้อมูล ทำให้บริหารจัดการทรัพยากรบุคคลได้อย่างคล่องตัว
– WAYLAR BOOKING: เว็บแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้าของเวลาร์ เพื่อจัดการคำสั่งซื้อ/บริการ รวมทั้งดูสถานะของบริการได้แบบเรียลไทม์ มีการเก็บข้อมูลคำสั่งซื้อสินค้าและบริการในรูปแบบดิจิทัล สามารถดึงรายงานและตรวจสอบย้อนหลังได้
3.หน่วยธุรกิจด้านแพลตฟอร์มการบริหารงานจัดการงานขนส่งและโลจิสติกส์ – หน่วยธุรกิจที่ดูแลช่วยในการจัดสรรงานขนส่ง ผ่านแพลตฟอร์มซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมความต้องการในการบริหารงานจัดการงานระหว่างผู้ว่าจ้าง ทั้งในกลุ่ม ของ B2B (Business-to-Business) B2C (Business-to-Customer) และ C2C (Customer-to-Customer) กับผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของเวลาร์ (WAYLAR)
รวมถึงกองรถที่เป็น ฟลีทพันธมิตรทางธุรกิจของเวลาร์ (WAYLAR) เอง ซึ่งในบริการนี้เราจะต่างจากมาร์เก็ตเพลสรายอื่นๆ โดยอธิบายต่อว่าธุรกิจโลจิสติกส์ บางแห่งมีงานเยอะ บางบริษัทมีงานน้อย ซึ่งไม่มีการแชร์ริ่งข้อมูลกัน ทำให้ไม่สามารถต่อยอดธุรกิจได้ ดังนั้นจุดแข็งของ WAYLAR คือ เข้ามาบริหารจัดการระบบขนส่ง ซึ่งมีระบบมาตรฐานการขนส่ง โดยใช้แอพพลิเคชั่นและแมชชิ่งงาน
4.หน่วยธุรกิจด้านบริการสนับสนุนอื่นๆ – หน่วยธุรกิจที่มองถึงการเติบโตอย่าแข็งแกร่งและยั่งยืนระหว่าง เวลาร์ (WAYLAR) และ ผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของบริษัทฯรวมถึงกองรถที่เป็นฟลีทพันธมิตรทางธุรกิจของเวลาร์ โดยการบูรณาการชุดข้อมูลจากอุปกรณ์ IoT (IoT Data Integration) เพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ระบบนิเวศขนส่ง (Logistics Ecosystem)
เช่น การนำวิธีการเติมน้ำมันแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบ (digital fleet cards) มาใช้เพื่อตรวจสอบการทุจริต การเบิกจ่ายเกินจริง และวางแผนในการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง รวมถึงการบูรณาการ การซ่อมบำรุง การสรรหาบุคลากร การสรรหาประกันภัย แบบ One Stop Service (การให้บริการเบ็ดเสร็จ) กับผู้ประกอบการขนส่งที่เป็นลูกค้าของเวลาร์ (WAYLAR) เพื่อลดภาระงาน รวมถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทางธุรกิจ
“สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา 2566 มีรายได้ประมาณ 100 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้าเติบโตในปีนี้ มีรายได้ราว 500 ล้านบาท ซึ่งในกลุ่มบิสซิเนสยูนิต 3 มีสัดส่วนรายได้มากสุดปีที่ผ่านมาประมาณ 40-50%แผนการดำเนินงานของเราไม่เพียงมุ่งหวังเพื่อผลให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการดำเนินงานอย่างสูงสุดต่อลูกค้าในระยะสั้นเท่านั้น แต่เวลาร์พร้อมเคียงข้างและขับเคลื่อนธุรกิจคู่ค้าให้เติบโต และมุ่งสู่การประสบความสำเร็จทางธุรกิจในระยะยาวไปพร้อมกัน” นายพันชนะกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ เวลาร์ คอร์ปอเรชั่น (WAYLAR) เป็นบริษัทนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำของประเทศไทย มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ที่ใช้เทคโนโลยี IoT ช่วยให้ลูกค้าสามารถติดตามสินค้า ยานพาหนะ และบุคคลได้อย่างแม่นยำ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก และบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างมีประสิทธิภาพ WAYLAR ได้รับรางวัลและการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ มากมาย ปัจจุบันมีลูกค้าหลากหลายประเภท ครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจค้าปลีก FMCG ยานยนต์ และโลจิสติกส์ WAYLAR มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในยุคดิจิทัล
โดยผลงานที่โดดเด่น ของ WAYLAR ประกอบด้วย:
- ได้รับรางวัล Thailand Digital Innovation Award 2020 ประเภท Supply Chain & Logistics
- เป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่โครงการ Startup in Motion ของ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa)
- มีลูกค้าหลากหลายประเภท ครอบคลุมทั้งภาคธุรกิจค้าปลีก FMCG ยานยนต์ และโลจิสติกส์
#WAYLAR #โลจิสติกส์4.0 #IoT #ติดตามสินค้า #บริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน #นวัตกรรม #เทคโนโลยี #ไทยแลนด์ #ธุรกิจ #ประสิทธิภาพ