อินแกรม ไมโคร (Ingram Micro) ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายไอทีโซลูชันระดับโลก ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ ASUS และ NVIDIA สองยักษ์ใหญ่ในวงการเทคโนโลยี เพื่อนำเสนอ Generative AI และ HPC (High-Performance Computing) โซลูชันที่ล้ำสมัยสู่ตลาดประเทศไทย ความร่วมมือนี้เป็นการผสานความแข็งแกร่งของผู้นำด้านเทคโนโลยี AI ทั้งสามราย โดยมีเป้าหมายในการส่งเสริมและผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่ยุคของ AI อย่างเต็มรูปแบบ
- – แอลจี เข้าซื้อกิจการ Athom ยกระดับธุรกิจพื้นที่อัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI พร้อมขยายธุรกิจ LG ThinQ AI Home
- – NT เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI “NT AI Connect” ดันองค์กรไทยสู่ยุคดิจิทัล
นายพรเทพ วัชรอำนวย กรรมการบริหาร บริษัท อินแกรม ไมโคร (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้แต่ละอุตสาหกรรมอยู่ในช่วงของการ Transform สู่ AI อินแกรม ไมโคร ในฐานะดิสทริบิวเตอร์ผู้ให้บริการเทคโนโลยี AI Stack แบบ End to End Solution เรามีความพร้อมเป็นอย่างยิ่งในการสนับสนุนให้พาร์ทเนอร์ในประเทศไทยสามารถนำ Generative AI ไปต่อยอดธุรกิจ และตอบโจทย์ความต้องการตลาดของผู้ใช้งานทุกระดับทั้งภาครัฐ และเอกชน”
“อินแกรม ไมโคร ในฐานะ Global Partner กับทั้ง ASUS และ NVIDIA มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการจับมือร่วมกันบุกตลาด AI ของประเทศไทยในวันนี้ และเรายังมีแผนนำความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ล้ำสมัยระดับโลก มาสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมองค์กรให้เป็น “ดิจิทัล แพลต์ฟอร์ม ไอที โซลูชัน” ที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาดไอที”
นายเจสัน ชุง (Jason Chung) ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออก บริษัท เอซุส โกลบอล จำกัด กล่าวเสริมว่า “ASUS พร้อมสร้างความก้าวหน้าครั้งสำคัญในด้าน Generative AI, Large Language Model (LLM) Training, Inference และ Machine Learning ด้วยการตอบสนองความต้องการทางธุรกิจที่หลากหลาย” นอกจากนี้ นายเจสันยังกล่าวถึงความมุ่งมั่นของ ASUS ในการทำให้ AI เข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคน โดยกล่าวว่า “วิสัยทัศน์ของ ASUS คือความหวังทำให้ AI แพร่หลาย พร้อมกับขับเคลื่อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และเพิ่มประสิทธิภาพในอุตสาหกรรมทั่วโลก”
นายปีเตอร์ หวู่ (Peter Wu) ประธาน Asus Cloud และ Taiwan Web Service Corporation เน้นย้ำถึงความพร้อมของ ASUS ในการให้บริการโซลูชัน HPC ที่ครอบคลุม “ASUS เป็นผู้ให้บริการชั้นนำด้านการให้บริการที่ครอบคลุมสำหรับโซลูชั่น HPC บริษัทมีหน่วยธุรกิจที่แข็งแกร่งสำหรับให้บริการพัฒนาเซิร์ฟเวอร์, บริการ Taiwan Web Service (TWS) และ ASUS Cloud ซึ่งทั้งหมดเป็นโซลูชั่น AI ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้า ตอกย้ำว่าระบบนิเวศ (Eco system) ของ ASUS สามารถสร้างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่หลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสิทธิภาพการทำงานที่สมบูรณ์แบบ”
ASUS: นำ AI สู่ทุกคน
ASUS มีความมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยี AI ไปสู่ผู้ใช้ทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ใช้งานทั่วไป ภาคธุรกิจ ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ โดยมีโซลูชันที่ครอบคลุมทุกมิติ ดังนี้
- Public Cloud: บริการ AI บนคลาวด์สำหรับทุกคน พร้อมด้วยเซิร์ฟเวอร์สำหรับการเทรน AI และ HPC
- Private Cloud: โซลูชันสำหรับการประมวลผล AI และเร่งการใช้งาน AI ด้วยเซิร์ฟเวอร์สำหรับการประมวลผล AI และบริการ AI Foundry (AFS) ที่มีโมเดลพื้นฐานที่ผ่านการเทรนมาแล้ว และบริการปรับแต่งโมเดล
- Connected Edge: ช่วยธุรกิจนำ AI ไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ ด้วย Edge AI Computer และโซลูชันเฉพาะทางสำหรับ Smart Healthcare, Smart Manufacturing, Smart City และ Smart Retail
- Personal Client: คอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการใช้งานส่วนบุคคล ทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงาน
AI Foundry Service (AFS): โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนา AI
ASUS ไม่เพียงแต่นำเสนอฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัย แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนา AI ในประเทศไทย โดย ASUS ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและหน่วยงานวิจัยชั้นนำของไต้หวัน เพื่อพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model – LLM) ภายใต้ชื่อ ASUS Formosa Foundation Model ซึ่งเป็นโมเดลภาษาที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน และมีแผนที่จะพัฒนาโมเดลภาษาไทยในอนาคต
นอกจากนี้ ASUS ยังได้เปิดตัว AI Foundry Service (AFS) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการด้าน AI อย่างครบวงจร ตั้งแต่การจัดหาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาโมเดล AI ไปจนถึงการปรับแต่งโมเดลให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของลูกค้า โดย AFS จะช่วยให้องค์กรต่างๆ ในประเทศไทยสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
นายปีเตอร์ หวู่ กล่าวถึงความสำเร็จของ ASUS ในไต้หวันว่า “ในไต้หวัน AI computing foundry solution ของเราประสบความสำเร็จอย่างมาก เราได้ช่วยเหลือภาครัฐ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และสถาบันวิจัยต่างๆ ในการพัฒนาศูนย์ข้อมูล AI ของตนเอง โดยใช้เซิร์ฟเวอร์ของเราเอง นอกจากนี้ เรายังเป็นอันดับหนึ่งในไต้หวันในการให้บริการโมเดล AI อย่างรวดเร็วตามโมเดลโอเพ่นซอร์ส”
ความร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสการเติบโตของตลาด AI ในประเทศไทย ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 17,000 ล้านบาทภายในปี 2568 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจ มีการนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ
อินแกรม ไมโคร เชื่อมั่นว่าความร่วมมือกับ ASUS และ NVIDIA จะช่วยให้บริษัทสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในประเทศไทยได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน Generative AI และ HPC ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและการดำเนินธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มธนาคาร กลุ่มการศึกษา และกลุ่มโรงงานผู้ผลิต
กลยุทธ์การเจาะตลาด
- กลุ่มธนาคาร: มุ่งเน้นการนำเสนอโซลูชัน AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ลดความเสี่ยง และปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า เช่น ระบบตรวจจับการทุจริต ระบบแนะนำผลิตภัณฑ์ และระบบวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
- กลุ่มการศึกษา: นำเสนอโซลูชัน AI ที่ช่วยยกระดับคุณภาพการเรียนการสอน และส่งเสริมการวิจัย เช่น ระบบการเรียนรู้ส่วนบุคคล ระบบตรวจข้อสอบอัตโนมัติ และแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์
- กลุ่มโรงงานผู้ผลิต: มุ่งเน้นโซลูชัน AI ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และปรับปรุงคุณภาพผลิตภัณฑ์ เช่น ระบบตรวจสอบคุณภาพ ระบบควบคุมการผลิต และระบบบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI ในประเทศไทยยังคงมีความท้าทายหลายประการ เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ การเข้าถึงข้อมูล และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีโอกาสมากมายรออยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่สามารถนำ AI มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
#IngramMicro #ASUS #NVIDIA #AI #GenerativeAI #HPC #Thailand #DigitalTransformation #Business #Technology #Innovation #FinTech #EdTech #Industry40 #AIFoundry #ASUSFormosaFoundationModel