ทรู คอร์ปอเรชั่น เร่งรับมือน้ำท่วมภาคเหนือ ดูแลระบบสื่อสาร พร้อมระดมทีมลงพื้นที่เสี่ยงภัย

ทรู คอร์ปอเรชั่น เร่งรับมือน้ำท่วมภาคเหนือ ดูแลระบบสื่อสาร พร้อมระดมทีมลงพื้นที่เสี่ยงภัย

กรุงเทพฯ – ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันเร่งดูแลเร่งด่วนบริการมือถือและเน็ตบ้านจังหวัดได้รับผลกระทบมากสุด น่าน เชียงราย พะเยา และแพร่ พร้อมส่งทีมปฏิบัติการพิเศษลงพื้นที่ 43 จังหวัดเสี่ยงภัย เหนือ-อีสาน-กลาง-ใต้ เพื่อดูแลระบบสื่อสารให้ทำงานได้อย่างต่อเนื่องในภาวะฉุกเฉิน ช่วง 24-30 ส.ค.

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากการคาดการณ์สภาพอากาศในช่วงวันที่ 24-30 สิงหาคมนี้ พบว่ามีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะภาคเหนือ อีสาน กลาง และใต้ ทรูจึงได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์อย่างเต็มที่ เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานบริการสื่อสารได้อย่างต่อเนื่อง โดยเราได้เตรียมความพร้อมโครงข่ายให้บริการสื่อสารทั้งอินเทอร์เน็ตบนมือถือและเน็ตบ้าน รวมทั้งเพิ่มทีมงานเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมงพร้อมลงพื้นที่ปฏิบัติงานทั่วไทย เพื่อดูแลการสื่อสารให้ลูกค้าทั้งแบรนด์ทรูและดีแทคได้ทุกสถานการณ์”

ทรู คอร์ปอเรชั่น

ทรู คอร์ปอเรชั่นได้ดำเนินการตามแผนรับมือผลกระทบน้ำท่วมฉับพลัน ดังนี้

1. จัดเตรียมทีมงานพิเศษประจำ BNIC ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ พร้อม AI และหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจ (War Room) เพิ่มประสิทธิภาพความเชื่อมั่นเครือข่าย 5G, 4G และอินเทอร์เน็ตบ้าน พร้อมดูแลและบริหารเครือข่ายครอบคลุมทุกบริการ 24 ชั่วโมง

2. จัดเตรียมพร้อมรถโมบายล์ชุมสายเคลื่อนที่เร็ว (COW หรือ Cell-On-Wheel) สำหรับกระจายสัญญาณมือถือเพื่อลูกค้าทรูและดีแทค สำหรับให้บริการในสถานการณ์ฉุกเฉินจากกรณีฝนตกหนักและน้ำท่วม โดยเฉพาะจังหวัดเสี่ยงเพื่อเข้าเสริมการสื่อสารในพื้นที่อย่างรวดเร็ว

3. จัดเตรียมพาหนะสำหรับลงพื้นที่ เช่น รถขับเคลื่อน 4 ล้อ และเรือท้องแบน สำหรับการเดินทางเข้า-ออกในพื้นที่สถานีฐานเพื่อดูแลและซ่อมแซมได้ทุกพื้นที่

4. จัดเตรียมอุปกรณ์สำรองและอะไหล่ในการซ่อมบำรุง (Spare Parts) สำหรับชุมสายและสถานีฐานในกรณีฉุกเฉินจากพายุและน้ำท่วม

5. ประสานงานและร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กสทช. หน่วยงานท้องถิ่น สถานีตำรวจ และโรงพยาบาลในพื้นที่จังหวัดที่จะได้รับผลกระทบ

6. ประสานงานตลอดเวลากับการไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้มีการจ่ายไฟฟ้าให้กับชุมสายทรูและดีแทคอย่างต่อเนื่องในกรณีที่ต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้าบางส่วนในบริเวณพื้นที่น้ำท่วม

“ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ การสื่อสารมีความสำคัญอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเหตุฉุกเฉินหรือขอความช่วยเหลือ ทรู คอร์ปอเรชั่นจึงมุ่งมั่นดูแลระบบสื่อสารให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารได้แม้ในยามวิกฤต” นายประเทศ กล่าว

 

Related Posts