TheReporterAsia – การจ้างงาน เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของสังคมจีน นับตั้งแต่ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อ 75 ปีก่อน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ให้ความสำคัญกับการจ้างงานมาโดยตลอด และยังมองว่าเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
- – รถยนต์ไฟฟ้า ในประเทศไทย: โอกาสท่ามกลางความท้าทาย
- – สื่อไทย ขาลง: กำลังซื้อหด-ต้นทุนพุ่ง ฉุดรายได้วูบ กำไรหาย
การเดินทาง 75 ปีนี้ ได้นำพาจีนก้าวผ่านความท้าทายนานัปการ สู่ความสำเร็จในการสร้างตลาดแรงงานที่เฟื่องฟู ทำให้มีขนาดการจ้างงานที่ขยายตัว โครงสร้างการจ้างงานที่ปรับตัว และคุณภาพการจ้างงานที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง
I. การจ้างงาน ที่เติบโตอย่างมั่นคง
การเติบโตของประชากรและเศรษฐกิจจีน เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ขนาดการจ้างงานขยายตัวอย่างมาก จากประเทศที่เริ่มต้นด้วยฐานะทางเศรษฐกิจที่เปราะบางในช่วงทศวรรษ 1950 จีนได้นำระบบเศรษฐกิจแบบวางแผนมาใช้ และให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมหนัก ซึ่งส่งผลให้การจ้างงานขยายตัวอย่างรวดเร็ว
หลังจากการปฏิรูปและเปิดประเทศ จีนได้เปลี่ยนผ่านสู่ระบบเศรษฐกิจตลาดสังคมนิยม เศรษฐกิจเติบโตอย่างก้าวกระโดด และการจ้างงานก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนถึงจุดสูงสุดในปี 2014 แม้ว่าในช่วงหลัง การเติบโตของการจ้างงานจะชะลอตัวลงบ้าง เนื่องจากผลกระทบจากสังคมผู้สูงอายุ แต่การจ้างงานในเมืองยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ตลอดเส้นทาง 75 ปี จีนได้เผชิญและเอาชนะความท้าทายในการจ้างงานมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่การว่างงานในเมืองสูงถึง 23.6% ในช่วงแรกของการก่อตั้งประเทศ สู่การรับมือกับปัญหาการว่างงานของบัณฑิตในช่วงปลายทศวรรษ 1970 และการเลิกจ้างพนักงานรัฐวิสาหกิจในช่วงปลายทศวรรษ 1990
แม้กระทั่งเมื่อเผชิญกับวิกฤตการณ์โควิด-19 จีนก็สามารถนำพาประเทศฝ่าวิกฤตและฟื้นฟูการจ้างงานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยมาตรการที่ทันท่วงทีและการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ ระหว่างการควบคุมโรคระบาดและการพัฒนาเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ จีนยังให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในตลาดแรงงาน ทั้งแรงงานข้ามชาติ ผู้สำเร็จการศึกษา และผู้ด้อยโอกาส ด้วยมาตรการที่หลากหลาย เช่น การฝึกอบรมทักษะวิชาชีพ การสนับสนุนการเป็นผู้ประกอบการ และการสร้างตำแหน่งงานในภาครัฐ
II. โครงสร้าง การจ้างงาน ที่ปรับตัว และคุณภาพที่พัฒนา
การพัฒนาเศรษฐกิจจีนที่เน้นคุณภาพและการยกระดับอุตสาหกรรม ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่การจ้างงานส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตรกรรม ปัจจุบันภาคบริการได้กลายเป็นแหล่งจ้างงานที่ใหญ่ที่สุด สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและบริการ
นอกจากนี้ ช่องทางการจ้างงานก็มีความหลากหลายมากขึ้น จากเดิมที่คนงานส่วนใหญ่ทำงานในรัฐวิสาหกิจ ปัจจุบันมีการจ้างงานในภาคเอกชน องค์กรต่างชาติ และรูปแบบการจ้างงานใหม่ ๆ เช่น งานอิสระและงานแพลตฟอร์ม ซึ่งเพิ่มทางเลือกและความยืดหยุ่นให้กับคนงาน
คุณภาพของแรงงานก็พัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากเดิมที่คนงานส่วนใหญ่มีการศึกษาต่ำ ปัจจุบันคนงานมีระดับการศึกษาที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความสำเร็จของจีนในการพัฒนาระบบการศึกษาและการลงทุนในทรัพยากรมนุษย์
III. กลไกตลาดแรงงานที่สมบูรณ์ และความมั่นคงของแรงงาน
จีนได้สร้างและพัฒนากลไกตลาดแรงงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตลาดมีบทบาทสำคัญในการจัดสรรทรัพยากรแรงงาน ซึ่งช่วยกระตุ้นให้คนงานพัฒนาตนเอง และเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ระบบบริการจัดหางานสาธารณะก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยให้คนงานหางานที่เหมาะสม และนายจ้างหาแรงงานที่มีคุณภาพ นอกจากนี้ จีนยังให้ความสำคัญกับความมั่นคงของแรงงาน โดยสร้างระบบประกันสังคมที่ครอบคลุมที่สุดในโลก
มองไปข้างหน้า
แม้จีนจะประสบความสำเร็จในการจ้างงานอย่างมาก แต่ก็ยังคงเผชิญความท้าทายใหม่ ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรและเศรษฐกิจ ซึ่งส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานของแรงงาน
รายงานของสภาคองเกรสแห่งชาติครั้งที่ 20 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมการจ้างงานที่มีคุณภาพสูงและเต็มรูปแบบ เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้
แน่นอนว่า จีนจะยังคงเดินหน้าพัฒนากลไกการจ้างงาน ปรับปรุงคุณภาพการจ้างงาน และสร้างความมั่นคงให้กับแรงงาน เพื่อให้การจ้างงานเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการสร้างประเทศที่มั่งคั่งและสังคมที่เป็นสุขอย่างยั่งยืน
#75ปีการจ้างงานจีน #ตลาดแรงงานจีน #การจ้างงานมั่นคง #สังคมมั่งคั่ง #พัฒนาเศรษฐกิจจีน #คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น #การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ #นโยบายการจ้างงาน #ความสำเร็จของจีน #อนาคตการจ้างงาน #การจ้างงาน