ครม. อนุมัติ ขยายเวลา-เพิ่มงบ “คลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร”

ครม. อนุมัติ ขยายเวลา-เพิ่มงบ “คลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร”

ทำเนียบรัฐบาล –นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร นำทีม ครม. อนุมัติ ขยายเวลาและเพิ่มงบประมาณโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่ากว่า 4,400 ล้านบาท หวังแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาและเพิ่มกรอบวงเงินโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

จากเดิม 5 ปี เป็น 8 ปี งบประมาณเพิ่มกว่า 4,400 ล้านบาท

สำหรับโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เจ้าพระยา 2” เป็นโครงการสำคัญในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง เดิมทีโครงการนี้มีกำหนดระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (พ.ศ. 2562 – 2566) ด้วยงบประมาณ 21,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม ครม. มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการออกไปเป็น 8 ปี (พ.ศ. 2562 – 2569) และเพิ่มกรอบวงเงินเป็น 25,400 ล้านบาท

โควิด-19 ฉุดแผน! วัสดุก่อสร้างพุ่ง-น้ำมันแพง ทำงบโครงการบานปลาย

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงต่อที่ประชุม ครม. ว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ต้องขยายเวลาและเพิ่มงบประมาณโครงการ เกิดจากปัจจัยหลายประการ ได้แก่

  • สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานก่อสร้างในหลายด้าน ทั้งปัญหาการขาดแคลนวัสดุก่อสร้าง เครื่องจักร-เครื่องมือไม่เพียงพอ และการเคลื่อนย้ายแรงงาน
  • การปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมแบบก่อสร้าง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำและรองรับปริมาณน้ำหลาก
  • การเพิ่มองค์ประกอบโครงการ เช่น งานก่อสร้างกำแพงป้องกันตลิ่ง และประตูระบายน้ำปากคลอง
  • ราคาวัสดุก่อสร้างและอัตราราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น

“เจ้าพระยา 2” เสร็จสมบูรณ์ พร้อมรับมือน้ำหลาก-เพิ่มพื้นที่เกษตร-แหล่งน้ำ-คมนาคม

การขยายเวลาและเพิ่มงบประมาณโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทรในครั้งนี้ จะช่วยให้โครงการสามารถดำเนินการก่อสร้างได้แล้วเสร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ โดยคาดว่าจะเกิดประโยชน์มากมาย ดังนี้

  1. บรรเทาอุทกภัย: ช่วยลดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ตั้งแต่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไปจนถึงอ่าวไทย ครอบคลุมพื้นที่ 6 อำเภอในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง
  2. เพิ่มพื้นที่เกษตรกรรม: เพิ่มศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการเกษตรกว่า 229,138 ไร่
  3. แหล่งน้ำต้นทุน: เป็นแหล่งน้ำดิบสำหรับอุปโภคบริโภค ด้วยความจุคลอง 65 ล้านลูกบาศก์เมตร ครอบคลุมพื้นที่ 48 ตำบล 3 เทศบาล 362 หมู่บ้าน
  4. คมนาคมสะดวก: ถนนบนคันคลองระบายน้ำหลากทั้ง 2 ฝั่ง จะช่วยเชื่อมโยงการคมนาคมระหว่างอำเภอบางบาลและอำเภอบางไทร

รัฐบาลเน้นย้ำ กรมชลประทาน เร่งรัดโครงการให้เป็นไปตามแผน-โปร่งใส-คุ้มค่า

ทั้งนี้ ที่ประชุม ยังได้เน้นย้ำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมชลประทาน เร่งรัดดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้ รวมทั้งดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

#คลองระบายน้ำหลากบางบาลบางไทร #เจ้าพระยา2 #แก้น้ำท่วม #ลุ่มน้ำเจ้าพระยา #ครม #แพทองธารชินวัตร #เศรษฐกิจ #โครงสร้างพื้นฐาน #เกษตรกรรม #คมนาคม #น้ำท่วม #อุทกภัย

Related Posts