ครม. ไฟเขียว กรอบงบลงทุน รัฐวิสาหกิจ ปี 2568 กว่า 1.5 ล้านล้านบาท

ครม. ไฟเขียว กรอบงบลงทุน รัฐวิสาหกิจ ปี 2568 กว่า 1.5 ล้านล้านบาท

ทำเนียบรัฐบาล, ประเทศไทย – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมีมติเห็นชอบกรอบและงบลงทุนของ รัฐวิสาหกิจ ประจำปีงบประมาณ 2568 รวมกว่า 1.5 ล้านล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและพัฒนาสังคม

สภาพัฒน์ เสนอ ครม. อนุมัติกรอบงบลงทุนรัฐวิสาหกิจปี 2568

ที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบกรอบและงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2568 ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เสนอ โดยมีวงเงินดำเนินการรวม 1,512,294 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 264,106 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • กรอบการลงทุนสำหรับงานตามภารกิจปกติและโครงการที่ได้รับอนุมัติแล้ว มีวงเงินดำเนินการ 1,212,294 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 214,106 ล้านบาท
  • กรอบการลงทุนสำหรับการเพิ่มเติมระหว่างปี มีวงเงินดำเนินการ 300,000 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 50,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการและให้รัฐวิสาหกิจสามารถดำเนินการได้ทันทีภายในปีงบประมาณ

สภาพัฒน์ รับหน้าที่กลั่นกรอง-อนุมัติงบลงทุน

นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบให้ สภาพัฒน์ ปรับลดงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2568 ให้สอดคล้องกับผลการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 และมอบหมายให้ สภาพัฒน์ เป็นผู้พิจารณาอนุมัติการเปลี่ยนแปลงงบลงทุนระหว่างปี เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน โดยกำหนดเป้าหมายให้รัฐวิสาหกิจเบิกจ่ายลงทุนไม่น้อยกว่าร้อยละ 95 ของวงเงินอนุมัติเบิกจ่ายลงทุน

คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 กว่า 8.9 หมื่นล้านบาท

สำหรับประมาณการงบทำการประจำปีงบประมาณ 2568 คาดว่ารัฐวิสาหกิจจะมีกำไรสุทธิประมาณ 89,086 ล้านบาท และประมาณการแนวโน้มการดำเนินงานในช่วงปี 2569-2571 คาดว่าจะมีการลงทุนเฉลี่ยประมาณปีละ 352,939 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเฉลี่ยประมาณปีละ 90,808 ล้านบาท

46 รัฐวิสาหกิจ ภายใต้ 15 กระทรวง เสนองบลงทุนปี 2568

สภาพัฒน์ รายงานว่า รัฐวิสาหกิจจำนวน 46 แห่ง ภายใต้สังกัด 15 กระทรวง ได้ส่งข้อเสนองบลงทุนประจำปีงบประมาณ 2568 ให้ สภาพัฒน์ พิจารณาตามพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2561 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2550 โดย สภาพัฒน์ ได้กำหนดแนวทางการพิจารณากลั่นกรองการลงทุนของรัฐวิสาหกิจประจำปีงบประมาณ 2568 โดยเน้นความสำคัญกับประเด็นต่างๆ เช่น

  • ความสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์และนโยบายรัฐบาล
  • ความจำเป็นในการลงทุนตามภาระผูกพันและตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจ
  • ความพร้อมในการดำเนินการ ทั้งด้านกายภาพและฐานะการเงิน

ตั้งคณะอนุกรรมการฯ พิจารณางบลงทุนรัฐวิสาหกิจ

ทั้งนี้ สภาพัฒน์ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณางบลงทุนประจำปีของรัฐวิสาหกิจ เพื่อพิจารณารายละเอียดข้อเสนอ ก่อนเสนอ สภาพัฒน์ พิจารณา รวมทั้งเชิญผู้แทนกระทรวงเจ้าสังกัดเข้าร่วมพิจารณาด้วย

ครม. เห็นชอบปรับปรุงงบลงทุนปี 2567

นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบการปรับปรุงงบลงทุนประจำปีงบประมาณ 2567 โดยปรับเพิ่มวงเงินดำเนินการ 1,965.81 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 987.59 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • งบลงทุนของบริษัท ผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็น จำกัด ปรับเพิ่มวงเงินดำเนินการและเบิกจ่ายลงทุน 973.81 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการระบบผลิตไฟฟ้าโดยใช้แสงอาทิตย์ บริเวณพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
  • งบลงทุนของบริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด ปรับเพิ่มวงเงินดำเนินการ 992.00 ล้านบาท และวงเงินเบิกจ่ายลงทุน 13.78 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารและที่พักอาศัยของกรมสรรพากร

ติดตามผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจอย่างใกล้ชิด

ครม. ยังเห็นชอบข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในระดับกระทรวงและระดับรัฐวิสาหกิจ โดยให้กระทรวงเจ้าสังกัดและรัฐวิสาหกิจรับข้อเสนอแนะไปพิจารณาดำเนินการ และให้รัฐวิสาหกิจรายงานผลความก้าวหน้าของการดำเนินงานและการลงทุนปี 2568 ให้ สภาพัฒน์ ทราบทุกวันที่ 5 ของเดือน รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะและความก้าวหน้าของโครงการลงทุนทุกไตรมาส เพื่อประโยชน์ในการติดตามประเมินผลการดำเนินงานและการลงทุนของรัฐวิสาหกิจอย่างต่อเนื่อง

หมายเหตุ: ไม่รวมรัฐวิสาหกิจประเภทบริษัทมหาชนจำกัด บริษัทในเครือของรัฐวิสาหกิจประเภทบริษัทและบริษัทมหาชนจำกัด สถาบันการเงิน และธุรกิจประกันภัย

#รัฐวิสาหกิจ #งบลงทุน #เศรษฐกิจไทย #ครม. #สภาพัฒน์ #การลงทุนภาครัฐ

Related Posts