Kaspersky แนะคนรุ่นใหม่ สร้างทักษะป้องกันภัยไซเบอร์ ชี้ตลาดแรงงานต้องการสูง

Kaspersky แนะคนรุ่นใหม่ สร้างทักษะป้องกันภัยไซเบอร์ ชี้ตลาดแรงงานต้องการสูง

กรุงเทพฯ ประเทศไทย – ภัยคุกคามไซเบอร์ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน Kaspersky ผู้นำระดับโลกด้านโซลูชันและบริการด้านความปลอดภัยไซเบอร์ จึงร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา มุ่งสร้างบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย แคสเปอร์สกี้ร่วมมือกับศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (NCSA) จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปและการบรรยายสาธารณะ เพื่อพัฒนาความรู้ ทักษะ และความสามารถด้านความปลอดภัยไซเบอร์ พร้อมแนะคนรุ่นใหม่เตรียมความพร้อมสู่เส้นทางอาชีพด้านความปลอดภัยไซเบอร์

นายเซียง เทียง โยว ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชีย แคสเปอร์สกี้ ได้ให้สัมภาษณ์ TheReporterAsia ระบุว่า อุตสาหกรรมความปลอดภัยไซเบอร์มีโอกาสที่น่าตื่นเต้นสำหรับนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ที่ต้องการประกอบอาชีพนี้ มีบทบาทมากมายที่สามารถเชี่ยวชาญได้ โดยแต่ละบทบาทนั้นมีค่าตอบแทนที่สามารถแข่งขันได้ โอกาสเติบโต ความมั่นคงในการทำงาน และงานที่น่าตื่นเต้นในแต่ละวัน

Kaspersky แนะนำ 4 ขั้นตอนสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ได้แก่

1. สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและพัฒนาทักษะที่เป็นที่ต้องการ

  • การศึกษา: สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ความปลอดภัยไซเบอร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง และได้รับใบรับรองจากภาคอุตสาหกรรม เช่น CompTIA Security+, Certified Ethical Hacker (CEH) แคสเปอร์สกี้ อะคาเดมี (Kaspersky Academy) มีหลักสูตรมากมายที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยไซเบอร์ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่แคสเปอร์สกี้จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือมหาวิทยาลัยในการฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความท้าทายด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในปัจจุบัน การเรียนรู้ในโลกไซเบอร์นั้นเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากภูมิทัศน์มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา การเรียนรู้ด้วยตนเองเป็นกุญแจสำคัญในการอัปเดต ซึ่งสามารถทำได้ผ่านหลักสูตรออนไลน์ บล็อก พอดแคสต์ และการประชุมในอุตสาหกรรม
  • ทักษะ: พัฒนาทักษะที่จำเป็น เช่น ความเข้าใจเกี่ยวกับโปรโตคอลและสถาปัตยกรรมเครือข่าย สร้างความเชี่ยวชาญในระบบปฏิบัติการต่างๆ เรียนรู้และทำความเข้าใจภาษาโปรแกรม คลาวด์คอมพิวติ้ง และภาษาสคริปต์ รวมถึงพัฒนาทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลและวิเคราะห์ความปลอดภัย

2. สั่งสมประสบการณ์จริงและสร้างเครือข่าย

  • ประสบการณ์: มองหาโอกาสในการได้รับประสบการณ์จริงและฝึกฝนทักษะผ่านการฝึกงานในบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์หรือในแผนกไอทีขององค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งจะช่วยมอบประสบการณ์ตรงอันล้ำค่า รวมถึงการเป็นอาสาสมัครเพื่อมีส่วนร่วมในโครงการรักษาความปลอดภัยแบบโอเพ่นซอร์สหรือเข้าร่วมในโครงการชุมชน หรือเข้าร่วมการแข่งขัน Capture the Flag (CTF) เพื่อทดสอบและพัฒนาทักษะของคุณในสภาพแวดล้อมที่สนุกสนานและท้าทาย
  • เครือข่าย: สร้างเครือข่ายกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์และผู้ที่ชื่นชอบผ่านเวิร์กช็อป การประชุม ฟอรัมออนไลน์ และชุมชนความปลอดภัยไซเบอร์เพื่อเรียนรู้และแบ่งปันความรู้ รวมถึงการได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์

3. ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ความปลอดภัยไซเบอร์เป็นสาขาที่กว้างขวาง ลองพิจารณาสร้างช่องทางเฉพาะโดยเชี่ยวชาญในด้านที่คุณสนใจมากที่สุด เช่น การแฮ็กอย่างมีจริยธรรม การตอบสนองต่อเหตุการณ์ สถาปัตยกรรมความปลอดภัย ความปลอดภัยบนคลาวด์ หรือนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล

4. ยึดมั่นในจริยธรรม

จริยธรรม: รู้และเข้าใจกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามหลักการและแนวทางในการรักษาความซื่อสัตย์และการรักษาความลับ การเคารพความเป็นส่วนตัวและการปฏิบัติตามจริยธรรมไซเบอร์เป็นสิ่งสำคัญในการปกป้องทรัพย์สิน รักษาความเป็นส่วนตัว และสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย

แคสเปอร์สกี้ มุ่งมั่นที่จะช่วยสร้างบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในประเทศไทย แคสเปอร์สกี้ได้ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ NCSA นับตั้งแต่เริ่มต้นความร่วมมือในปี พ.ศ. 2565 แคสเปอร์สกี้และ NCSA ได้ร่วมกันจัดเวิร์กช็อปเชิงเทคนิคและการบรรยายสาธารณะ ตลอดจนการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) เพื่อร่วมกันพัฒนาทักษะและขีดความสามารถด้านความปลอดภัยไซเบอร์ของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

Kaspersky

ความแตกต่างที่โดดเด่นของแคสเปอร์สกี้

แคสเปอร์สกี้โดดเด่นด้วยโซลูชันความปลอดภัยที่ครอบคลุม ปรับแต่งและปรับขนาดได้สูง พร้อมด้วยบริการที่เหนือกว่า รวมถึงการสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน จุดแข็งเหล่านี้ทำให้เราเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ความปลอดภัยไซเบอร์ที่น่าเชื่อถือและเป็นที่นิยมมากที่สุดในตลาด

  • ความซื่อสัตย์และความโปร่งใสที่เป็นเอกลักษณ์: แคสเปอร์สกี้เป็นบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์แห่งเดียวที่ให้เครื่องมือแก่ลูกค้าและพันธมิตรในการตรวจสอบความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของโซลูชันผ่านโครงการ Global Transparency Initiatives (GTI) รวมถึงศูนย์โปร่งใส (Transparency Center) ที่ให้พันธมิตร ลูกค้า และหน่วยงานกำกับดูแลตรวจสอบซอร์สโค้ด การอัปเดตซอฟต์แวร์ และกฎการตรวจจับภัยคุกคาม ตลอดจนตรวจสอบผลลัพธ์ของการตรวจสอบอิสระ ปัจจุบันมีศูนย์โปร่งใสของแคสเปอร์สกี้เปิดดำเนินการแล้ว 12 แห่งทั่วโลก ได้แก่ อิสตันบูล คิกาลี กัวลาลัมเปอร์ มาดริด ริยาด โรม เซาเปาโล โซล สิงคโปร์ โตเกียว ยูเทรกต์ และซูริก
  • รางวัลและผลการทดสอบความปลอดภัยไซเบอร์อันดับต้นๆ: ในปี พ.ศ. 2566 ผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ครองตำแหน่งผู้นำใน TOP3 โดยเข้าร่วมการทดสอบและรีวิวอิสระ 100 รายการ และได้รับรางวัลชนะเลิศ 93 รางวัล และรางวัล TOP3 จำนวน 94 รางวัล
  • ความเชี่ยวชาญระดับโลก: แคสเปอร์สกี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2539 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ปัจจุบัน แคสเปอร์สกี้มีพนักงานมากกว่า 4,000 คน และให้บริการลูกค้าองค์กรและผู้บริโภคกว่า 400 ล้านรายทั่วโลก

ภัยคุกคามไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศไทย

ประเทศไทยกำลังเผชิญกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล การใช้งานอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการขาดความตระหนักรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในหมู่ประชาชนทั่วไป ภัยคุกคามที่พบบ่อยในประเทศไทย ได้แก่ มัลแวร์ ฟิชชิง แรนซัมแวร์ และการโจมตีแบบ APT ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งบุคคลทั่วไป องค์กรธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ

ความสำคัญของการสร้างบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์

การสร้างบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่มีความรู้ความสามารถเป็นสิ่งสำคัญในการรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น บุคลากรเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการปกป้องระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูล ตรวจสอบและตอบสนองต่อเหตุการณ์ พัฒนาและปรับปรุงระบบความปลอดภัย รวมถึงให้ความรู้และคำแนะนำแก่ผู้ใช้งาน การลงทุนในการพัฒนาบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้กับประเทศในระยะยาว

บทบาทของภาครัฐ ภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา

การสร้างบุคลากรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจ และสถาบันการศึกษา ภาครัฐควรมีนโยบายและแผนงานที่ชัดเจนในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร ภาคธุรกิจควรมีส่วนร่วมในการฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร รวมถึงสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี สถาบันการศึกษาควรปรับปรุงหลักสูตร และจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นในการผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพ

อนาคตของอาชีพด้านความปลอดภัยไซเบอร์

อาชีพด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เป็นอาชีพที่มีความต้องการสูง และมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญ ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ เป็นที่ต้องการในหลากหลายสาขาอาชีพ เช่น นักวิเคราะห์ความปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตอบสนองต่อเหตุการณ์ วิศวกรความปลอดภัย และผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัล ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพนี้ ควรเตรียมความพร้อม โดยการศึกษาหาความรู้ พัฒนาทักษะ และสร้างเครือข่าย เพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้

#แคสเปอร์สกี้ #ความปลอดภัยไซเบอร์ #อาชีพ #NCSA #คนรุ่นใหม่ #ทักษะ #จริยธรรม #ภัยคุกคาม #การศึกษา #โอกาส #อนาคต #เทคโนโลยี #ธุรกิจ #ความปลอดภัย

Related Posts