Accenture ชู AI เป็นอาวุธหลัก กำหนดอนาคตใหม่ให้ภาคพลังงานเอเชีย

Accenture ชู AI เป็นอาวุธหลัก กำหนดอนาคตใหม่ให้ภาคพลังงานเอเชีย

ท่ามกลางภูมิทัศน์พลังงานของเอเชียที่กำลังเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์ Accenture บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่า ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Generative AI คือหัวใจสำคัญและเป็นอาวุธหลักในการปฏิวัติอุตสาหกรรมพลังงานครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อนำพาทั้งภูมิภาคไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างสมบูรณ์ พร้อมรับมือกับความท้าทายด้านการลดคาร์บอน (Decarbonization) บรรลุประสิทธิภาพการดำเนินงานขั้นสูงสุด และปลดล็อกการเติบโตอย่างยั่งยืน

กัวลาลัมเปอร์, มาเลเซีย – ในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับสื่อมวลชน ณ งานประชุม Energy Asia 2025 ที่จัดขึ้นในกรุงกัวลาลัมเปอร์ นายอัซวาน บาฮารุดดิน กรรมการผู้จัดการ Accenture ประจำประเทศมาเลเซีย ได้ฉายภาพอนาคตของภาคพลังงานเอเชียไว้อย่างน่าสนใจ โดยระบุว่าอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับแรงกดดันสองด้านที่สำคัญ คือ ความจำเป็นในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพการดำเนินงาน แรงกดดันเหล่านี้ได้สร้างความต้องการเร่งด่วนสำหรับโซลูชันที่เป็นนวัตกรรม และในบริบทนี้เอง เทคโนโลยีดิจิทัล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AI ไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นเสาหลักสำคัญที่จะค้ำจุนอนาคตของอุตสาหกรรมนี้

นายบาฮารุดดินเน้นย้ำว่า ทิศทางหลักของอุตสาหกรรมพลังงานในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่การลดการปล่อยคาร์บอนอย่างจริงจัง โดยมีเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization, and Storage: CCUS) เป็นกลไกสนับสนุนที่สำคัญในระดับมหภาค และ AI คือเครื่องยนต์พื้นฐานที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งมโหฬารนี้

“โซลูชันที่เราเห็นสำหรับธุรกิจพลังงานในเอเชียนั้น มีศูนย์กลางอยู่ที่การลดคาร์บอน, เทคโนโลยี CCUS และแน่นอนว่าต้องรวมถึงเทคโนโลยีดิจิทัลอย่าง AI และ Gen AI ซึ่งถูกกำหนดมาเพื่อเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม” นายบาฮารุดดินกล่าว

ยุทธศาสตร์องค์รวม: ผสานความรู้ลึกซึ้งเข้ากับเทคโนโลยีล้ำสมัย

ในการอธิบายถึงแนวทางพื้นฐานของ Accenture นายบาฮารุดดินได้ให้รายละเอียดว่า บริษัทฯ ผสมผสานความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้งเข้ากับเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยเพื่อส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงให้กับลูกค้า เขามองว่าการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ แต่เป็น “โปรแกรมแบบองค์รวม” (Holistic Program) ที่ต้องบูรณาการทั้ง คน (People), กระบวนการ (Process), เทคโนโลยี (Technology), และข้อมูล (Data) เข้าด้วยกันอย่างครอบคลุม เพื่อให้ธุรกิจสามารถรับรู้ถึงคุณค่าที่แท้จริงจากการลงทุนได้

“สิ่งที่เราพยายามทำคือการมองหาวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเราได้ผสมผสานการใช้งาน Gen AI, ความรู้เฉพาะทางในกลุ่มอุตสาหกรรมของเราที่เรียกว่า Industry X, และความเชี่ยวชาญเชิงลึกด้านวิศวกรรมและอุตสาหกรรม เพื่อลดต้นทุนการผลิตโดยรวม” เขากล่าวเสริม “ยิ่งไปกว่านั้น เรากำลังมองหาแนวทางในการใช้ Gen AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจับคู่ทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่น แม้กระทั่งในธุรกิจการขนส่งทางเรือ เรากำลังพยายามขับเคลื่อนการกำหนดราคาแบบ Spot Price สำหรับเรือขนส่ง เทียบกับการจองระยะยาวแบบเดิม ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงการขับเคลื่อนพื้นที่ในอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือด้วย”

นายบาฮารุดดินได้ชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงกระบวนทัศน์ในปรัชญาการดำเนินงานของอุตสาหกรรม ในอดีต ภาคส่วนน้ำมันและก๊าซต้องพึ่งพาความรู้และประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของบุคลากรเป็นอย่างมาก ซึ่งเขาเรียกว่า “ความรู้ในหัวของคน” (Knowledge in people’s heads) แต่วันนี้ ความสามารถของ Generative AI และแพลตฟอร์มดิจิทัลสามารถเข้ามาเสริม และในหลายกรณีสามารถเข้ามาแทนที่เวิร์กโฟลว์แบบดั้งเดิมเหล่านี้ได้ ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ

“ในอดีต ธุรกิจนี้ถูกขับเคลื่อนโดยคนที่มีความรู้ในหัวมาโดยตลอด แต่ในความเป็นจริง ด้วย Gen AI และทุกสิ่งที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลในปัจจุบัน งานจำนวนมากสามารถถูกแทนที่ได้ด้วยเครื่องจักร คอมพิวเตอร์ และ AI” เขาให้ความเห็น “สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับความปลอดภัย การสร้างกระบวนการทางธุรกิจที่ถูกต้อง และการขับเคลื่อนให้เกิดมูลค่าสูงสุดเมื่อพูดถึงการกำหนดราคาและวิธีการดำเนินงานในตลาด”

AI ในภาคปฏิบัติ: พลิกโฉมตั้งแต่ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ

Accenture ได้แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ AI ในทางปฏิบัติผ่านกรณีศึกษาที่น่าสนใจหลายกรณี เพื่อพิสูจน์ว่าแนวคิดนี้สามารถสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมได้จริง

ในธุรกิจต้นน้ำ (Upstream) เช่น การสำรวจและผลิตปิโตรเลียม AI ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างกว้างขวาง “ในธุรกิจต้นน้ำ เราทำงานอย่างหนักในพื้นที่ของ Industrial AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต” นายบาฮารุดดินอธิบาย “ด้วยการผสมผสานโมเดลทางฟิสิกส์แบบดั้งเดิมเข้ากับชั้นของ AI และวิทยาศาสตร์ข้อมูล เราสามารถสร้างโมเดลไฮบริดที่ซับซ้อนและล้ำหน้ายิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือความแม่นยำที่ดีขึ้น ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณการผลิตจากหลุมผลิตได้จริง โดยมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่มีอยู่เพียงเล็กน้อย และไม่ต้องใช้จ่ายลงทุนใหม่ (CAPEX) จำนวนมหาศาล”

นอกจากนี้ ในกระบวนการที่ซับซ้อนอย่างการเปิดให้ยื่นประมูลแหล่งสัมปทาน (Bidding Rounds) สำหรับนักลงทุน AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญ “ในขั้นตอนการประมูล โซลูชัน AI ที่ซับซ้อนจะถูกนำมาประยุกต์ใช้ในทุกขั้นตอน เพื่อช่วยจับคู่นักลงทุนที่เหมาะสมกับพื้นที่ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นกระบวนการที่สำคัญมาก และทั้งหมดนี้จะถูกขับเคลื่อนด้วย Generative AI เป็นส่วนใหญ่” เขากล่าว

สำหรับธุรกิจปลายน้ำ (Downstream) และโครงการขนาดใหญ่ AI มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการประสิทธิภาพของสินทรัพย์ (Asset Performance Management) และการบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ (Predictive Maintenance) ช่วยให้สามารถคาดการณ์ความเสียหายของเครื่องจักรก่อนที่จะเกิดขึ้น ลดการหยุดชะงักและต้นทุนการซ่อมบำรุงที่ไม่คาดคิด

Digital Twin: ต้นแบบวิศวกรรมสู่การปฏิวัติโครงการขนาดใหญ่

หนึ่งในนวัตกรรมที่น่าจับตามองที่สุดคือการใช้ “Digital Twin” หรือแบบจำลองดิจิทัลเสมือนจริง สำหรับโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ (Capital Projects) ใหม่ๆ นายบาฮารุดดินอธิบายว่านี่คือ “การเปลี่ยนแปลงเกม” อย่างแท้จริง

“สำหรับโครงการใหม่ โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ มีบทบาทของ Digital และ Industrial AI อย่างมหาศาล” เขากล่าว “การใช้ Digital Twin สามารถทำหน้าที่เป็น ‘Engineering Twin’ (ต้นแบบคู่แฝดทางวิศวกรรม) ได้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการก่อสร้าง สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับการทำแผนที่โมเดล 3 มิติของชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวได้ทั้งหมดที่เข้ามาในโครงการ เพื่อให้แน่ใจว่าการก่อสร้างแท่นขุดเจาะหรือหัวหลุมทั้งหมดจะสามารถทำได้ตรงเวลาและอยู่ในงบประมาณที่กำหนด โครงการจำนวนมากต้องเผชิญกับปัญหางบประมาณบานปลาย แต่คำถามคือ เราจะลดปัญหานั้นให้เหลือน้อยที่สุดได้อย่างไร ด้วยการใช้ข้อมูลและ AI เพื่อปรับต้นทุนให้เหมาะสมและสนับสนุนผู้ปฏิบัติงานในการบริหารจัดการโครงการ”

บทสรุป: อนาคตพลังงานเอเชียขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม

บทวิเคราะห์และข้อมูลเชิงลึกจากนายอัซวาน บาฮารุดดิน สะท้อนภาพที่ชัดเจนว่า ภาคพลังงานของเอเชียกำลังอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ เทคโนโลยีดิจิทัล โดยมีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Generative AI เป็นแกนกลาง กำลังกลายเป็นพลังขับเคลื่อนหลักสู่การลดคาร์บอน การเพิ่มประสิทธิภาพ และการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ความสำเร็จในการนำทางสู่ยุคใหม่นี้จะขึ้นอยู่กับความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างผู้เล่นในอุตสาหกรรมและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี เพื่อปลดล็อกศักยภาพมหาศาลและนำพาภูมิภาคไปสู่อนาคตที่กำหนดโดยนวัตกรรมและโอกาสทางธุรกิจอย่างแท้จริง

#AIในอุตสาหกรรมพลังงาน #การลดคาร์บอน #การเปลี่ยนผ่านพลังงาน #การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล #Accenture #AIสำหรับอุตสาหกรรม #GenAI #CCUS #พลังงานเอเชีย #พลังงานยั่งยืน #นวัตกรรมเทคโนโลยี #อนาคตพลังงาน #เพิ่มประสิทธิภาพ #AzwanBaharuddin #EnergyAsia2025 #ข่าวเศรษฐกิจ

Related Posts