กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – Mercedes-AMG Petronas F1 Team เปิดกลยุทธ์สู่ชัยชนะในสนามแข่ง Formula One ด้วยการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลด้วยความเร็วสูง การจำลองสนามแข่งขั้นสูง และการพัฒนา Digital Twin เพื่อยกระดับความได้เปรียบในการแข่งขัน
- – ไซเบอร์จีนิคส์ ลุยตลาด Cybersecurity ชูจุดแข็ง “คน” และ “ประสบการณ์”
- – Kaspersky แนะคนรุ่นใหม่ สร้างทักษะป้องกันภัยไซเบอร์ ชี้ตลาดแรงงานต้องการสูง
การแข่งขัน Formula One คือที่สุดของกีฬาความเร็วที่ดึงดูดผู้ชมทั่วโลกกว่า 1.4 พันล้านคน โดยมีผู้ชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์กว่า 60 ล้านคนในแต่ละสนามแข่งขัน ซึ่งจัดขึ้นทั้งหมด 24 สนามตลอดฤดูกาล การแข่งขันจึงเต็มไปด้วยความกดดันและการแข่งขันที่ดุเดือด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเผชิญกับข้อจำกัดด้านงบประมาณในการพัฒนารถแข่ง ทำให้ทีมแข่งต้องหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
เช่นเดียวกับ Mercedes-AMG Petronas Formula One Team ที่มี Michael Taylor เป็นผู้อำนวยการฝ่าย IT ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์พิเศษเกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนความสำเร็จของทีม โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูล การจำลองสนามแข่ง และการพัฒนา Digital Twin เพื่อช่วยให้ทีมสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพสูงสุด Taylor กล่าวว่า “ในโลกของ Formula One ทุกมิลลิวินาทีมีค่า เราจึงต้องใช้เทคโนโลยีทุกอย่างที่มี เพื่อให้ได้มาซึ่งความได้เปรียบในการแข่งขัน”
เจาะลึก 3 กลยุทธ์สู่ชัยชนะของ Mercedes-AMG Petronas F1 Team:
- การวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลด้วยความเร็วสูง:
- รถแข่ง F1 คือศูนย์รวมเซ็นเซอร์ ในแต่ละสนามแข่ง ทีม Mercedes-AMG Petronas จะเก็บรวบรวมข้อมูลมหาศาลจากเซ็นเซอร์กว่า 300 ตัวที่ติดตั้งอยู่บนรถแข่ง ซึ่งจะสร้างข้อมูลมากถึง 7 พันล้านจุด ครอบคลุมทุกมิติของการทำงานของรถ ตั้งแต่ความเร็ว อุณหภูมิ แรงดัน ไปจนถึงการสั่นสะเทือน โดยข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการวิเคราะห์สมรรถนะของรถ และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
- ความเร็วในการส่งข้อมูล คือหัวใจสำคัญ เพื่อให้ทีมวิศวกรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ทีม Mercedes-AMG Petronas ใช้เทคโนโลยีเครือข่ายความเร็วสูง เช่น SD-WAN ในการส่งข้อมูลจากรถแข่ง กลับมายังศูนย์ควบคุมที่โรงงานใน Brackley ประเทศอังกฤษ ด้วยความเร็วสูงสุด ซึ่งช่วยให้ทีมสามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ โดย Taylor กล่าวว่า “ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ของการแข่งขัน เราสร้างจุดข้อมูลนับล้านจุด ซึ่งต้องอาศัยบุคลากรจำนวนมากในกลุ่มต่างๆ เพื่อดูและวิเคราะห์ข้อมูลของเรา”
- วิเคราะห์ละเอียด ทุกมิลลิวินาที ข้อมูลที่ส่งกลับมายังศูนย์ควบคุม จะถูกนำมาวิเคราะห์อย่างละเอียด โดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับสมรรถนะของรถ ประสิทธิภาพของยาง และพฤติกรรมของคู่แข่ง โดยข้อมูลจะถูกประมวลผลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ทีมสามารถปรับกลยุทธ์ได้ทันที
- ตัดสินใจฉับไว ด้วยข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทีมสามารถตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้ทันท่วงที เช่น การเปลี่ยนยาง การวางแผนแซง และการป้องกันตำแหน่ง ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลการแข่งขัน
- Digital Twin: รถแข่งเสมือนจริง นอกจากนี้ ข้อมูลยังถูกนำไปใช้ในการพัฒนา Digital Twin ซึ่งเป็นแบบจำลองเสมือนจริงของรถแข่ง เพื่อใช้ในการทดสอบและปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ก่อนการแข่งขันจริง โดย Digital Twin จะช่วยให้ทีมสามารถมองเห็นภาพรวมของรถ และสามารถปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับการทดลองบนรถจริง
- การจำลองสนามแข่งขั้นสูง:
- อุโมงค์ลม F1 ความลับแห่ง Aerodynamics ทีม Mercedes-AMG Petronas ใช้อุโมงค์ลมและระบบจำลองการขับขี่ (Driver-in-Loop Simulator) เพื่อทดสอบการออกแบบและปรับแต่ง Aerodynamics ของรถแข่ง โดยอุโมงค์ลมจะใช้แบบจำลองขนาด 60% ของรถแข่งจริง และมีการควบคุมเวลาการใช้งานโดย FIA เพื่อจำกัดงบประมาณ
- สัมผัสประสบการณ์จริง ก่อนลงสนาม ระบบจำลองการขับขี่ เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ทีมสามารถทดสอบการตั้งค่าต่างๆ ของรถ และรับฟังความคิดเห็นจากนักแข่ง ก่อนการแข่งขันจริง โดยนักแข่งจะได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมเสมือนจริงของสนามแข่ง และสามารถทดลองขับรถด้วยการตั้งค่าต่างๆ เพื่อหาจุดสมดุลที่ลงตัว ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจในการแข่งขันจริง
- การสร้าง Digital Twin:
- Digital Twin: แบบจำลองเสมือน สู่ชัยชนะที่แท้จริง Digital Twin เป็นแบบจำลองเสมือนจริงของรถแข่ง ที่ถูกสร้างขึ้นจากข้อมูลที่รวบรวมได้จากเซ็นเซอร์ อุโมงค์ลม และระบบจำลองการขับขี่
- ทดสอบได้ ไม่จำกัด Digital Twin ช่วยให้ทีมสามารถทดสอบการตั้งค่าต่างๆ ของรถ โดยไม่ต้องใช้รถแข่งจริง ซึ่งช่วยประหยัดเวลาและงบประมาณ และยังช่วยให้ทีมสามารถทดสอบได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายของรถ
- วิเคราะห์ แก้ไข ก่อนลงสนามจริง นอกจากนี้ Digital Twin ยังช่วยให้ทีมสามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาต่างๆ ก่อนการแข่งขันจริง ซึ่งช่วยลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาด และเพิ่มโอกาสในการคว้าชัยชนะ
ความท้าทายและการเลือกใช้เทคโนโลยี:
Taylor ยอมรับว่า การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทีม Mercedes-AMG Petronas จึงให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรด้านเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น HP เพื่อให้ได้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เชื่อถือได้ และตอบโจทย์ความต้องการของทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง HPE Apollo 6500 ที่ช่วยให้ทีมสามารถเร่งความเร็วในการทำงาน ลดเวลาในการจำลองสถานการณ์ก่อนการแข่งขัน จาก 3-4 วัน เหลือเพียงไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ทีมสามารถจำลองสถานการณ์ได้มากขึ้นระหว่างการแข่งขัน
“การเลือกพันธมิตรด้านเทคโนโลยี เราไม่ได้มองแค่เรื่องของงบประมาณ แต่เรามองหาพันธมิตรที่สามารถเข้าใจ และตอบสนองความต้องการของเราได้อย่างแท้จริง” Taylor กล่าว
นอกจากนี้ ทีมยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยมีการจัดฝึกอบรม และส่งเสริมให้บุคลากรเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ
“เราเชื่อว่า คน คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ และเทคโนโลยี คือเครื่องมือที่ช่วยให้คนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น” Taylor กล่าวเสริม
“เราเชื่อว่าเทคโนโลยี คือกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ” Taylor กล่าวทิ้งท้าย
นอกจากนี้ Taylor ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างทีม IT และทีมวิศวกร โดยกล่าวว่า “ทีม IT และทีมวิศวกร ต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีที่เราใช้ สามารถตอบสนองความต้องการของทีมวิศวกรได้อย่างแท้จริง”
ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นการใช้เทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากร ทำให้ Mercedes-AMG Petronas Formula One Team ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถคว้าแชมป์โลก Formula One มาแล้วถึง 8 สมัย
“ความสำเร็จของเรา ไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่มาจากความมุ่งมั่น ทุ่มเท และการใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด” Taylor กล่าวสรุป
#FormulaOne #MercedesAMGPetronas #เทคโนโลยีกีฬา #DigitalTwin #การวิเคราะห์ข้อมูล #ความเร็ว
