กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – Meta ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียระดับโลก แสดงศักยภาพพลังของ AI ในงาน DELTA FUTURE INDUSTRY SUMMIT 2024 พร้อมเผยวิสัยทัศน์ “อนาคตแห่งการเชื่อมต่อ” โดย นางภารดี สินธวณรงค์, Head of Marketing, Thailand & Vietnam ขึ้นเวที โชว์ศักยภาพ AI ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และสร้างโลกเสมือนจริง
- – Ai-Da หุ่นยนต์วาดภาพเหมือนจริง! เตรียมประมูลขายผลงานศิลปะชิ้นแรก
- – ซัมซุง เปิดตัว Bespoke AI Laundry Combo™ ซักอบผ้าด้วย AI ครั้งแรก
นางภารดี กล่าวว่า ปัจจุบัน Metaมีผู้ใช้งานมากกว่า 3.27 พันล้านคนต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลก ผ่านแพลตฟอร์มยอดนิยม 4 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Facebook, Messenger, Instagram และ WhatsApp โดย Meta มุ่งมั่นพัฒนา AI เพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้
ตัวอย่าง AI ที่ใช้งานได้จริงบนแพลตฟอร์ม Meta เช่น
- Meta AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ: ตอบคำถาม ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือผู้ใช้แบบเรียลไทม์ เปรียบเสมือนเลขาส่วนตัวในรูปแบบ AI
- AI บน Instagram: แนะนำฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์ และแคปชั่นที่น่าสนใจ ช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น
- AI บน Facebook: ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูล กลุ่ม และเพื่อน ที่ตรงกับความสนใจ และแนะนำคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง
Meta AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ พร้อมใช้งานแล้ว 22 ประเทศ
Meta AI เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายน 2567 ปัจจุบันให้บริการแล้วใน 22 ประเทศทั่วโลก (ยังไม่รวมประเทศไทย) โดยผู้ใช้สามารถเข้าถึงMeta AI ได้ง่ายๆ ผ่านแอปพลิเคชันที่ใช้งานเป็นประจำ โดยไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติม
Metaทุ่มทุนกว่า 1 แสนล้านเหรียญ พัฒนา Metaverse และ AR
Metaประกาศทุ่มงบประมาณกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ พัฒนาเทคโนโลยี AI และโลกเสมือนจริง (Metaverse) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “Meta Horizon OS” ระบบปฏิบัติการแบบเปิด ที่จะเชื่อมต่อผู้คนผ่านโลกเสมือนจริงในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ความบันเทิง การออกกำลังกาย และการเล่นเกม
นอกจากนี้ Metaยังพัฒนาเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ผ่านแว่นตาอัจฉริยะ ที่ช่วยเพิ่มข้อมูลและประสบการณ์เสมือนจริงให้กับผู้ใช้งาน เช่น
- การแนะนำเสื้อผ้า: ผู้ใช้สามารถลองเสื้อผ้าเสมือนจริงผ่าน AR และรับคำแนะนำในการแต่งตัว
- การแสดงข้อมูลพืช: AR สามารถระบุชนิดของต้นไม้ พร้อมแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์
- การสร้างแคปชั่น Instagram: AR ช่วยสร้างแคปชั่นที่น่าสนใจ โดยวิเคราะห์รูปภาพและวิดีโอของผู้ใช้
AI พลิกโฉมการตลาด เพิ่มประสิทธิภาพโฆษณา
Metaนำเสนอโซลูชัน “Advantage+” ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตั้งแต่การวางแผนงบประมาณ การผลิตเนื้อหา การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงการวัดผลลัพธ์
AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถ “เข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง” เกินกว่าข้อมูลพื้นฐานทั่วไป เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงใจ และเพิ่มโอกาสในการขาย ตัวอย่างเช่น ธุรกิจที่ขายรองเท้าส้นสูง สามารถใช้ AI เพื่อวิเคราะห์และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น
ผลการวิจัยพบว่า แคมเปญโฆษณาแฟชั่นที่ใช้ AI มีอัตราผลตอบแทนจากการใช้จ่าย (ROAS) เพิ่มขึ้น 30% และแคมเปญแอปพลิเคชันมี ROAS เพิ่มขึ้น 9%
ประเทศไทย ผู้นำด้าน Conversational Commerce
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการใช้ Business Messaging สูงที่สุดในโลก โดยมีข้อความธุรกิจมากกว่า 600 ล้านข้อความ เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของ Metaในทุกๆ วัน
Metaกำลังทดสอบ “AI Agent” ที่จะช่วยตอบคำถามลูกค้า ให้บริการข้อมูล และดำเนินธุรกิจได้ตลอด 24 ชั่วโมง แม้ในขณะที่เจ้าของธุรกิจพักผ่อน
AI สร้างสรรค์เนื้อหา ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
AI สามารถสร้างสรรค์เนื้อหาโฆษณาที่หลากหลาย ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย และปรับขนาดรูปภาพให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มต่างๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาได้ถึง 56%
Metaยังเปิดตัวฟีเจอร์ Live Shopping ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเสนอสินค้าผ่านไลฟ์สตรีม สร้างประสบการณ์ช้อปปิ้งที่สมจริง และมีส่วนร่วมกับลูกค้าได้มากขึ้น
นางภารดี กล่าวทิ้งท้ายบนเวที DELTA FUTURE INDUSTRY SUMMIT 2024 ว่า “อนาคตของ AI ขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคน Metaเชื่อมั่นว่า ทุกการเชื่อมต่อคือโอกาส และ AI จะช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์ เชื่อมต่อ และแบ่งปันประสบการณ์ที่มีความหมายร่วมกัน”
#Meta #AI #Metaverse #AugmentedReality #DigitalMarketing #ConversationalCommerce #LiveShopping #Thailand #DELTAFUTUREINDUSTRYSUMMIT2024