การบินไทย กางแผน Fly for The New Pride หวังกลับเข้าเทรด Q2/2568

การบินไทย กางแผน Fly for The New Pride หวังกลับเข้าเทรด Q2/2568

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ประกาศกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด “Fly for The New Pride” สู่ความสำเร็จครั้งใหม่ในอุตสาหกรรมการบิน

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา การบินไทยได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการอย่างเคร่งครัดจนประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย โดยแผนฟื้นฟูกิจการเปรียบเสมือนการพลิกโฉมองค์กรครั้งสำคัญ ทั้งในด้านการปรับโครงสร้างองค์กรจากรัฐวิสาหกิจสู่บริษัทเอกชน และการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน

ผลงานที่ผ่านมาของการบินไทย เช่น การปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อลดค่าใช้จ่าย การปรับกลยุทธ์ฝูงบินและเส้นทางการบินเพื่อเพิ่มรายได้ การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินงาน และการปรับโครงสร้างทางการเงิน

“การบินไทยขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมแรงร่วมใจก้าวข้ามความท้าทาย และวันนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการออกจากกระบวนการฟื้นฟูกิจการ หลังจากบรรลุเป้าหมายของแผนงานตามขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง” นายปิยสวัสดิ์กล่าว

การบินไทย
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

ความสำเร็จของแผนฟื้นฟู

  • เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 3.37 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565
  • EBITDA หลังหักเงินสดจ่ายหนี้สินตามสัญญาเช่าเครื่องบินตั้งแต่กรกฎาคม 2566 ถึงมิถุนายน 2567 เท่ากับ 29,292 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าแผนฟื้นฟูกิจการกำหนด
  • ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการโดยไม่ผิดนัด

การปรับโครงสร้างทุน

ปัจจุบันส่วนของผู้ถือหุ้นตามงบการเงินเฉพาะกิจการ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ยังคงติดลบ 40,427 ล้านบาท การบินไทยจึงเร่งปรับโครงสร้างทุนเพื่อให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเป็นบวก ผ่านการแปลงหนี้เป็นทุนและการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน

คาดว่ากระทรวงการคลังจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ แต่สัดส่วนการถือหุ้นจะลดลง กระบวนการปรับโครงสร้างทุนจะเสร็จสิ้นภายในปี 2567 และคาดว่าการบินไทยจะยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อยกเลิกการฟื้นฟูกิจการและนำหุ้นกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในไตรมาส 2 ปี 2568

การบินไทย
นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

ผลการดำเนินงาน

นายชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวชี้วัดต่างๆ ที่สำคัญ เช่น ASK, Aircraft utilization, และ Cabin factor

“สิ่งเหล่านี้สะท้อนศักยภาพและความแข็งแกร่งของการบินไทยในการกลับมาให้บริการเต็มรูปแบบ” นายชายกล่าว

ในปี 2566 การบินไทยมีผู้โดยสารรวม 13.8 ล้านคน เพิ่มขึ้นจาก 9 ล้านคนในปี 2565 และมีรายได้รวม 165,491.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 105,212.3 ล้านบาทในปี 2565

กลยุทธ์การเติบโต

“วันนี้ การบินไทยพร้อมก้าวสู่ ‘Fly for The New Pride’ เพื่อการเปลี่ยนแปลงที่จะนำพาการบินไทยทะยานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน” นายชายกล่าว

5 กลยุทธ์สำคัญของการบินไทย ประกอบด้วย

  • การเสริมสร้างเครือข่ายเส้นทางบินที่ครอบคลุม: การบินไทยมุ่งมั่นขยายเครือข่ายเส้นทางบินให้ครอบคลุมจุดหมายปลายทางสำคัญทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง รวมถึงการเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินในเส้นทางบินยอดนิยม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ผู้โดยสาร: การบินไทยให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารทุกกลุ่ม เช่น การยกระดับประสบการณ์การเดินทางบนเครื่องบิน การนำเสนอทางเลือกที่นั่งและบริการอาหารที่หลากหลาย การพัฒนาโปรแกรมสะสมไมล์ และการให้บริการลูกค้าสัมพันธ์ที่เป็นเลิศ
  • การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน: การบินไทยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานทุกด้าน เช่น การบริหารจัดการฝูงบิน การจัดการเส้นทางบิน การบริหารต้นทุน และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดค่าใช้จ่าย
  • การเพิ่มช่องทางรายได้ใหม่: การบินไทยมุ่งแสวงหาโอกาสในการเพิ่มรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบิน เช่น ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศ ธุรกิจบริการภาคพื้น และธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดภาษี
  • การมุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับความรับผิดชอบต่อสังคม: การบินไทยมุ่งดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ผลประกอบการ

นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2566 ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยสามารถสร้างผลกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 28,123.3 ล้านบาท

“รายได้รวมอยู่ที่ 165,491.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60,279.5 ล้านบาท หรือ 57.3% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง” นางเฉิดโฉมกล่าว

รายได้จากการขนส่งผู้โดยสาร เพิ่มขึ้น 75.5% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในเส้นทางบินระหว่างประเทศ ขณะที่รายได้จากการขนส่งสินค้า เพิ่มขึ้น 26.1% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากความต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศยังคงแข็งแกร่ง

การบินไทย
นางเฉิดโฉม เทอดสถีรศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)

ในครึ่งปีแรกของปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมีผลกำไรต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 79,938.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 10,196.4 ล้านบาท แม้จะลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำกำไร แม้ในช่วงโลว์ซีซั่น โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาผลกำไรให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ

แผนฟื้นฟูกิจการ

แผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบการขอแก้ไขแผนฟื้นฟูกิจการ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 กำหนดให้ในการปรับโครงสร้างทุนตามแผนฯ บริษัทฯ ต้องเพิ่มทุนจดทะเบียนเพื่อรองรับการแปลงหนี้เดิมของเจ้าหนี้ตามแผนฯ เป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Mandatory Conversion) จำนวนไม่เกิน 14,862,369,633 หุ้น ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น โดยเจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 หรือกระทรวงการคลัง จะได้รับการชำระหนี้เงินต้นคงค้างเต็มจำนวนในสัดส่วนร้อยละ 100 ในขณะที่เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้กลุ่มที่ 18– 31 ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้จะได้รับการชำระหนี้เงินต้นคงค้างในอัตราร้อยละ 24.50 ของมูลหนี้เงินต้นคงค้างทั้งหมด

นอกจากนี้ เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6 และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ยังสามารถใช้สิทธิแปลงหนี้เงินต้นคงค้างเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้เพิ่มเติมโดยความสมัครใจ (Voluntary Conversion) จำนวนไม่เกิน 4,911,236,813 หุ้น ได้ในสัดส่วนที่ต้องการแต่จะต้องไม่เกินภาระหนี้ตามแผนฯ ของตน อีกทั้ง เจ้าหนี้กลุ่มที่ 4 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 5 เจ้าหนี้กลุ่มที่ 6และเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ตามแผนฯ ยังได้รับสิทธิแปลงดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยความสมัครใจ จำนวนไม่เกิน 1,903,608,176 หุ้น โดยกำหนดให้ใช้สิทธิในการแปลงหนี้ดอกเบี้ยใหม่ตั้งพักเป็นหุ้นสามัญเต็มจำนวนของมูลหนี้เท่านั้น ไม่สามารถเลือกใช้สิทธิบางส่วนได้ ในราคา 2.5452 บาทต่อหุ้น

และเพื่อความสำเร็จของการปรับโครงสร้างทุนภายใต้แผนฯ รวมทั้งเป็นการรักษาเสถียรภาพด้านราคาหุ้นของการบินไทยภายหลังกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้บริหารแผนได้กำหนดมาตรการ Lock-up ห้ามเจ้าหนี้ที่ได้รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนจากการแปลงหนี้เป็นทุนขายหุ้นดังกล่าวจนกว่าจะครบระยะเวลา 1 ปีนับจากวันที่หุ้นของการบินไทยกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ

โดยหลังจากวันที่ครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันที่หุ้นของการบินไทยกลับเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงจะให้เจ้าหนี้ที่ได้รับหุ้นจากการแปลงหนี้เป็นทุนแต่ละรายสามารถขายหุ้นในส่วนดังกล่าวของตนได้จำนวนไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นที่ตนถูกห้ามขาย

และสำหรับกระบวนการถัดไปในเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ประกอบด้วย การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 9,822,473,626 หุ้น หรือคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 59.01ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายทั้งหมด รวมทั้งหุ้นที่เหลือจากกระบวนการ Voluntary Conversion (หากมี) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของการบินไทยก่อนการปรับโครงสร้างทุน (โดยไม่จัดสรรและเสนอขายให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้การบินไทยมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ) พนักงานของการบินไทย และบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามลำดับ

โดยจะเสนอขายในราคาที่ผู้บริหารแผนเห็นสมควรแต่จะต้องไม่ต่ำกว่า 2.5452 บาทต่อหุ้น โดยได้มีการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 และคาดว่าจะมีการออกรายงานประเมินมูลค่ายุติธรรมโดยที่ปรึกษาทางการเงินอิสระในช่วงกลางเดือนตุลาคม 2567 ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการใช้สิทธิของเจ้าหนี้ในการแปลงหนี้เป็นทุนในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2567 และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในช่วงเดือนธันวาคม 2567 ต่อไป

การบินไทยในอนาคต

การบินไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นสายการบินชั้นนำของโลก ที่ให้บริการด้วยมาตรฐานความปลอดภัยและคุณภาพสูงสุด พร้อมทั้งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า โดยการบินไทยจะยังคงรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของสายการบินแห่งชาติ และนำเสนอประสบการณ์การเดินทางที่สะท้อนวัฒนธรรมไทยอันงดงาม

การกลับเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในไตรมาส 2 ปี 2568 จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของการบินไทยอีกครั้ง

#การบินไทย #FlyForTheNewPride #ตลาดหลักทรัพย์ #แผนฟื้นฟู #เศรษฐกิจ #ธุรกิจ #การบิน #Thaiairways

Related Posts