ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ฉลอง 65 ปี เส้นทางบินตรงเชื่อมไทย-ยุโรป

ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ฉลอง 65 ปี เส้นทางบินตรงเชื่อมไทย-ยุโรป

กรุงเทพฯ 6 พฤศจิกายน 2567 – ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป สายการบินยุโรปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 65 ปี แห่งการบินเชื่อมไทย-ยุโรปอย่างต่อเนื่อง ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ โดยลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ถือเป็นกลุ่มสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุมกว่า 200 จุดหมายปลายทางในยุโรป ภายในงาน ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ได้ประกาศเดินหน้าขยายเครือข่ายเส้นทางบิน

และตอกย้ำกลยุทธ์หลัก 4 ด้าน ประกอบด้วย 1) ประสบการณ์ลูกค้า 2) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ 3) การเป็นศูนย์กลางการบินแบบ Multi-Airline Multi-Hub และ 4) การเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นกลุ่มสายการบิน ทั้งหมดนี้เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นในการมอบบริการระดับพรีเมียม ยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้เหนือชั้นยิ่งขึ้น และมุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในประเทศไทยและภูมิภาค โดยมุ่งเน้นการพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบิน (Hub) เชื่อมต่อไปยังประเทศต่างๆ ในภูมิภาคอาเซียน

โดยหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือการนำเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กลับมาให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-มิวนิก อีกครั้งในช่วงฤดูหนาวนี้ โดยลุฟท์ฮันซ่าเป็นสายการบินเดียวที่ให้บริการ A380 บินตรงสู่ยุโรป โดย A380 ให้บริการที่นั่ง 4 ระดับชั้น ได้แก่ ชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ ชั้นประหยัดพรีเมียม และชั้นประหยัด พร้อมกันนี้ ออสเตรียน แอร์ไลน์ส สมาชิกในเครือลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ยังประกาศเพิ่มเที่ยวบินสู่กรุงเวียนนาอีกด้วย ลุฟท์ฮันซ่ายังให้บริการชั้นหนึ่งจากกรุงเทพฯ เชื่อมโยงผู้โดยสารสู่กว่า 200 จุดหมายปลายทาง ผ่านมิวนิก ซึ่งเป็นสนามบิน 5 ดาวแห่งแรกในยุโรป โดยใช้เวลาเดินทางเพียง 30 นาที สำหรับการต่อเครื่อง

คุณเฟลิเป้ บอนิฟาตติ รองประธานภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและกิจการร่วมค้าในภูมิภาคตะวันออก ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ได้เพียง 6 วัน กล่าวว่า “กรุงเทพฯ ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ตลอด 65 ปีที่ผ่านมา เราภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเชื่อมโยงผู้คน วัฒนธรรม และเศรษฐกิจระหว่างไทยและยุโรป และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินที่สำคัญของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

จากจุดเริ่มต้นอันเรียบง่าย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

การเดินทางของลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ในประเทศไทย เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2502 ด้วยเที่ยวบินแรกจากฮัมบูร์กสู่กรุงเทพฯ เป็นการเดินทางที่ยาวนานถึง 2 วันเต็ม โดยต้องแวะพัก 6 จุดหมาย สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการเดินทางข้ามทวีปในยุคนั้น แต่ด้วยวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป มุ่งมั่นที่จะเชื่อมโยงผู้คน วัฒนธรรม และเศรษฐกิจระหว่างไทยและยุโรป จึงไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนา และขยายเครือข่ายเส้นทางบินอย่างต่อเนื่อง

จากเที่ยวบินแรกสุด ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง จนกลายเป็นสายการบินยุโรปที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ให้บริการเที่ยวบินมากถึง 31 เที่ยวบินต่อสัปดาห์จากประเทศไทยสู่ยุโรป ผ่านเครือข่ายสายการบินในกลุ่ม 4 สายการบิน ได้แก่ ลุฟท์ฮันซ่า สวิส ออสเตรียน แอร์ไลน์ส และยูโรวิงส์ โดยมีพนักงานกว่า 500 คน จาก 3 หน่วยงานธุรกิจในประเทศไทย และกว่า 96,000 คนทั่วโลก

ตลอด 65 ปีที่ผ่านมา ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายเส้นทางบิน แต่ยังมุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพการบริการ และนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสาร เช่น การนำเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กลับมาให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-มิวนิก อีกครั้ง เพื่อมอบความสะดวกสบายและความหรูหราเหนือระดับ รวมถึงการเพิ่มเที่ยวบินของออสเตรียน แอร์ไลน์ส สู่กรุงเวียนนา เพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ที่ประหยัดน้ำมัน และการส่งเสริมให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการชดเชยคาร์บอน

การเดินทางของลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ในประเทศไทย เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นในการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยยึดมั่นในคุณค่าหลัก คือ การมอบประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุด การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อเชื่อมโยงผู้คน วัฒนธรรม และเศรษฐกิจ ระหว่างไทยและยุโรป ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

A380 กลับมาให้บริการอีกครั้ง พร้อมมอบประสบการณ์เหนือระดับ

เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้น ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ได้นำเครื่องบินแอร์บัส A380 ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลก กลับมาให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-มิวนิก อีกครั้ง โดยให้บริการทุกวัน รองรับผู้โดยสารได้ 509 คน และมีบริการครบทุกระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นหนึ่ง ชั้นธุรกิจ ชั้นประหยัดพรีเมียม และชั้นประหยัด

“เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้โดยสารที่เพิ่มสูงขึ้น” คุณบอนิฟาตติ กล่าวเสริม “การนำ A380 กลับมาให้บริการในครั้งนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในการมอบประสบการณ์การเดินทางที่สะดวกสบายและเหนือระดับให้กับผู้โดยสาร”

ออสเตรียน แอร์ไลน์ส เพิ่มเที่ยวบินสู่เวียนนา

นอกจากนี้ ออสเตรียน แอร์ไลน์ส หนึ่งในสมาชิกของลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ยังได้ประกาศเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินระหว่างกรุงเทพฯ และกรุงเวียนนา จาก 7 เที่ยวบิน เป็น 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ในช่วงฤดูหนาวนี้ เพื่อรองรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น โดยออสเตรียน แอร์ไลน์ส ขึ้นชื่อในด้านการบริการและการต้อนรับแบบออสเตรีย พร้อมมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจด้วยบริการพิเศษอย่าง Flying Chef ซึ่งเป็นบริการปรุงอาหารสดบนเครื่อง และ Viennese Coffee House ที่ให้บริการกาแฟรสเลิศ

มุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการบินสู่อาเซียน

ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นศูนย์กลางการบินสู่อาเซียน โดยเชื่อมโยงประเทศไทยกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ และกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีแผนที่จะขยายเครือข่ายเส้นทางบิน เพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน และพัฒนาบริการต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของตลาดการบินในภูมิภาคอาเซียน พร้อมเพิ่มจำนวนที่นั่งในช่วงฤดูหนาวนี้เป็น 220,000 ที่นั่ง โดยในปี 2566 ที่ผ่านมาลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ได้ให้บริการผู้โดยสารจากประเทศไทยกว่า 328,000 คน และขนส่งสินค้าทางอากาศจากกรุงเทพฯ กว่า 8.7 ล้านตัน

“ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางการบิน ด้วยทำเลที่ตั้ง โครงสร้างพื้นฐาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจ เราเชื่อมั่นว่าลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย และส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นประตูสู่ภูมิภาคอาเซียน” คุณบอนิฟาตติ กล่าว

ความมุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน

ลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสาร โดยลูกค้าของลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป ช่วยชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 47.8 ตัน ระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน 2567 และปัจจุบันลุฟท์ฮันซ่า กรุ๊ป กำลังลงทุนกว่า 2.5 พันล้านยูโร ในการต่ออายุฝูงบิน ซึ่งถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท โดยมุ่งเน้นการใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ที่ประหยัดน้ำมันและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ

“เรามีความตื่นเต้นกับอนาคตและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการเชื่อมโยงประเทศไทยและยุโรปให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะเติบโตไปพร้อมกับประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน” คุณบอนิฟาตติ กล่าวทิ้งท้าย

#ลุฟท์ฮันซ่า #65ปี #ไทย #ยุโรป #การบิน #สายการบิน #A380 #เที่ยวบิน #มิวนิก #แฟรงก์เฟิร์ต #ซูริก #เวียนนา #ออสเตรียนแอร์ไลน์ส #นวัตกรรม #ความยั่งยืน #อาเซียน

Related Posts