เจาะลึก RAPA: ความร่วมมือ ไปรษณีย์ไทย-เวียดนาม-อินโดนีเซีย

เจาะลึก RAPA: ความร่วมมือ ไปรษณีย์ไทย-เวียดนาม-อินโดนีเซีย

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ไปรษณีย์ไทย เดินหน้าเสริมศักยภาพธุรกิจขนส่ง ประกาศความร่วมมือกับ ไปรษณีย์เวียดนาม และ ไปรษณีย์อินโดนีเซีย จัดตั้งพันธมิตรไปรษณีย์ภูมิภาคอาเซียน หรือ Regional ASEAN Post Alliance (RAPA) มุ่งพัฒนา บริการไปรษณีย์ และ โลจิสติกส์ ในภูมิภาค รองรับการเติบโตของ อีคอมเมิร์ซ ข้ามพรมแดน พร้อมยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน บนเวทีการค้าโลก

RAPA ให้ความสำคัญกับการพัฒนา แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และ ระบบโลจิสติกส์ ที่ทันสมัย เพื่ออำนวยความสะดวก และ ลดต้นทุน ในการขนส่งสินค้า รวมถึง การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และ เทคโนโลยี ระหว่างประเทศสมาชิก ความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญในการ เสริมสร้างความแข็งแกร่ง ให้กับ ธุรกิจไปรษณีย์ และ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ในภูมิภาคอาเซียน

มากกว่าแค่ส่งของ มุ่งสู่การเป็น “ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซ”

RAPA ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การขนส่งสินค้า แต่ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการด้านอีคอมเมิร์ซ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้าขายข้ามพรมแดน โดยมีแผนงานที่น่าสนใจดังนี้

  • แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ: จะมีการพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซร่วมกัน เพื่อเป็นช่องทางในการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศสมาชิก โดยคาดว่าจะเริ่มต้นด้วย “RAPA shop” ที่นำร่องจำหน่ายสินค้าไทย-เวียดนาม เช่น กาแฟ อาหารแปรรูป และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
  • โลจิสติกส์ครบวงจร: จะมีการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้การขนส่งสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และสามารถติดตามสถานะได้
  • QR Code: จะมีการพัฒนา QR Code เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรม เช่น การชำระเงิน การตรวจสอบสินค้า เป็นต้น

ความร่วมมือ 4 ด้านหลัก (CFAs) สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย RAPA ได้กำหนดกรอบความร่วมมือ 4 ด้านหลัก (CFAs) ดังนี้

  • CFA1: พันธมิตรอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน: เน้นการพัฒนาแพลตฟอร์ม โลจิสติกส์ และ QR Code เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขายออนไลน์ โดยไปรษณีย์ไทยได้เริ่มนำเข้ากาแฟเวียดนามมาจำหน่ายแล้ว
  • CFA2: การขยายตลาดอีคอมเมิร์ซสู่ตลาดโลก: มุ่งผลักดันสินค้าจากประเทศสมาชิก ออกสู่ตลาดโลก โดยอยู่ระหว่างการจัดทำแผนปฏิบัติการ
  • CFA3: การพัฒนาพันธมิตรด้านโลจิสติกส์และห่วงโซ่อุปทานรูปแบบใหม่: เน้นการสร้างความร่วมมือด้านโลจิสติกส์ เช่น การเชื่อมโยงระบบคลังสินค้า การใช้เทคโนโลยีขนส่งที่ทันสมัย ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานโดยคณะทำงานร่วมกับที่ปรึกษา
  • CFA4: การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่าง 3 ประเทศ: มุ่งเน้นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เช่น การเพิ่มผลกำไร การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินงานโดยคณะทำงานร่วมกับที่ปรึกษา

ไปรษณีย์ไทย

ความท้าทายและโอกาส

แม้ RAPA จะเป็นความร่วมมือที่น่าจับตามอง และมีศักยภาพในการเติบโตสูง แต่ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ เช่นเดียวกับการรวมกลุ่มของประเทศที่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านกฎระเบียบ ภาษา วัฒนธรรม และระบบการทำงาน ซึ่งอาจส่งผลต่อความราบรื่นในการดำเนินงาน และการตัดสินใจร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายเหล่านี้ สามารถก้าวข้ามได้ด้วย การสื่อสาร การประสานงาน และ ความเข้าใจซึ่งกันและกัน ระหว่างประเทศสมาชิก การสร้าง กลไก ในการแก้ไขปัญหา และ ตัดสินใจ ร่วมกัน อย่างมีประสิทธิภาพ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เช่น การจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ การประชุมหารืออย่างสม่ำเสมอ และการใช้เทคโนโลยี เพื่ออำนวยความสะดวกในการสื่อสาร

ในทางกลับกัน RAPA ก็เต็มไปด้วย โอกาส ในการเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ อีคอมเมิร์ซ ขยายตัวอย่างรวดเร็ว RAPA จะเป็น platform สำคัญ ในการ เชื่อมโยง ธุรกิจ และ ผู้บริโภค ในภูมิภาคอาเซียน เข้าด้วยกัน ซึ่งจะนำไปสู่ การขยายตัวทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน และ การเพิ่มรายได้ ให้กับประเทศสมาชิก

นอกจากนี้ RAPA ยังเป็นโอกาสในการ พัฒนา ขีดความสามารถ ของ บุคลากร ใน อุตสาหกรรมไปรษณีย์ และ โลจิสติกส์ ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้ และ ประสบการณ์ ร่วมกัน ซึ่งจะช่วยยกระดับ มาตรฐาน การบริการ และ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ในระดับสากล

การประชุม RAPA ณ จาการ์ตา

การประชุมเชิงปฏิบัติการ RAPA ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 26-27 พฤศจิกายนนี้ ณ กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย นับเป็นหมุดหมายสำคัญในการขับเคลื่อน Regional ASEAN Post Alliance (RAPA) ให้บรรลุเป้าหมาย โดยมีวัตถุประสงค์หลักในการติดตามความคืบหน้าของ CFAs กระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสมาชิก และร่วมกันกำหนดทิศทางอนาคตของ RAPA

ภายในงาน จะมีการนำเสนอผลการดำเนินงาน CFAs จากทั้ง 3 ประเทศ พร้อมเปิดเวทีระดมสมอง เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และข้อเสนอแนะ ในการพัฒนา RAPA ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมประชุมยังจะได้เยี่ยมชมองค์กรไปรษณีย์ และ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ชั้นนำของอินโดนีเซีย เพื่อเรียนรู้ และนำแนวทางปฏิบัติที่ดีมาประยุกต์ใช้

การประชุมครั้งนี้ คาดว่าจะได้ แผนปฏิบัติการ CFAs ที่ชัดเจน และ ความร่วมมืออันดี ระหว่างไปรษณีย์ไทย ไปรษณีย์เวียดนาม และไปรษณีย์อินโดนีเซีย ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา RAPA ในระยะยาว และสร้างประโยชน์ให้กับประเทศสมาชิก ทั้งในด้านการพัฒนาบริการ การขยายโอกาสทางธุรกิจ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ด้วยความมุ่งมั่นของทั้ง 3 ประเทศ ในการร่วมกันขับเคลื่อน RAPA ให้ประสบความสำเร็จ เชื่อมั่นว่า การประชุม RAPA Workshop @ Jakarta จะเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา RAPA ให้เป็น พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคอาเซียน

ทั้งนี้ Regional ASEAN Post Alliance (RAPA) นับเป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ระหว่าง ไปรษณีย์ไทย ไปรษณีย์เวียดนาม และ ไปรษณีย์อินโดนีเซีย ที่มุ่งยกระดับ บริการไปรษณีย์ และ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค โดย RAPA ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การขนส่ง แต่ยังครอบคลุมถึง การพัฒนา อีคอมเมิร์ซ โลจิสติกส์ และ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ เพื่อสร้าง ระบบนิเวศ ที่เอื้อต่อการเติบโตของธุรกิจ และ การค้าระหว่างประเทศสมาชิก

ความร่วมมือครั้งนี้ คาดว่าจะก่อให้เกิด ประโยชน์ มากมาย เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพ และ ขยายขอบเขตการให้บริการไปรษณีย์ การลดต้นทุน และ ระยะเวลาในการขนส่ง การสร้างโอกาสทางธุรกิจ และ การขยายตลาด อีคอมเมิร์ซ รวมถึง การพัฒนา ขีดความสามารถ ของ บุคลากร ใน อุตสาหกรรมไปรษณีย์ และ โลจิสติกส์

ด้วยศักยภาพของ 3 ประเทศ ผู้นำด้านเศรษฐกิจในอาเซียน ประกอบกับ ความมุ่งมั่น และ ความร่วมมือ ในการขับเคลื่อน RAPA ให้บรรลุเป้าหมาย เชื่อมั่นว่า RAPA จะเป็น พันธมิตรที่แข็งแกร่ง และ เป็นกลไกสำคัญ ในการ พัฒนาเศรษฐกิจ และ ยกระดับคุณภาพชีวิต ของประชาชนในภูมิภาค

#RAPA #ไปรษณีย์ไทย #เวียดนาม #อินโดนีเซีย #อาเซียน #เศรษฐกิจ #อีคอมเมิร์ซ #โลจิสติกส์

Related Posts