นายกฯ แพทองธาร ชู “นวัตกรรมสีเขียว” ขับเคลื่อน GMS สู่ความยั่งยืน

นายกฯ แพทองธาร ชู “นวัตกรรมสีเขียว” ขับเคลื่อน GMS สู่ความยั่งยืน

คุนหมิง, จีน – นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร นำทัพนวัตกรรมไทย บุกเวที GMS ที่คุนหมิง! ชูธง “นวัตกรรมสีเขียว” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค พร้อมย้ำ 3 เสาหลัก เกษตรก้าวหน้า การเงินไหลลื่น วิจัยพุ่งทะยาน สู่เป้าหมาย GMS ยั่งยืน ปี 2573

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประเทศไทย เดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (GMS) ครั้งที่ 8 ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการ (Retreat Session) ภายใต้หัวข้อ “การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมของไทย” (Innovation-driven Development) ซึ่งมีผู้นำจาก 6 ประเทศสมาชิก GMS และประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) เข้าร่วม

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชม “4 ยอดสิ่งประดิษฐ์” ของจีน อันได้แก่ เข็มทิศ ดินปืน กระดาษ และการพิมพ์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่แสดงถึงศักยภาพของมนุษย์ในการสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ และกล่าวถึงพัฒนาการของนวัตกรรมในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งกำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สอดคล้องกับหัวใจหลักของแผนงาน GMS ที่มุ่งเน้นการพัฒนาด้วยนวัตกรรมมาตั้งแต่ต้น

“นวัตกรรมสีเขียว ที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”

นายกรัฐมนตรี ได้นำเสนอวิสัยทัศน์ของไทยในการพัฒนา GMS ภายใต้หลักการ “นวัตกรรมที่ครอบคลุมและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” โดยเน้นย้ำ 3 ประเด็นหลัก ดังนี้

  1. การพัฒนาภาคเกษตรกรรม: รัฐบาลได้ดำเนินนโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาภาคการเกษตร เพิ่มมูลค่าผลผลิต สร้างเสถียรภาพด้านราคา และยกระดับรายได้ของเกษตรกร ตัวอย่างเช่น การใช้เทคโนโลยี IoT ในการควบคุมการให้น้ำและปุ๋ย การใช้โดรนในการฉีดพ่นยา และการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเชื่อมโยงเกษตรกรกับผู้บริโภค

  2. การพัฒนาด้านการเงิน: รัฐบาลมุ่งเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อยกระดับบริการทางการเงิน อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักลงทุน ลดอุปสรรค และลดต้นทุนทางการเงิน เช่น การพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Code ภายใต้โครงการ ASEAN Payment Connectivity ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าธรรมเนียม และส่งเสริมการค้าการลงทุนในภูมิภาค

  3. การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนา: รัฐบาลให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา โดยสนับสนุนทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ผ่านมาตรการทางภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี รวมถึงการพัฒนาทักษะบุคลากร และการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม เพื่อสร้าง nền tảng ที่แข็งแกร่งในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ตัวอย่างเช่น การจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม การสนับสนุนทุนวิจัย และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา

นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า “ยุทธศาสตร์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง” ซึ่งมีเป้าหมายในปี พ.ศ. 2573 จะเป็นกรอบสำคัญในการพัฒนา และยกระดับขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของภูมิภาค โดยไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับประเทศสมาชิก GMS อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในภูมิภาค

#GMS #นวัตกรรม #แพทองธาร #เศรษฐกิจ #ความยั่งยืน #อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง #เทคโนโลยี #เกษตรกรรม #การเงิน #การวิจัยและพัฒนา #ASEAN #ADB #คุนหมิง

Related Posts