ดีอี แก้ไข พ.ร.บ.ไปรษณีย์ใหม่ รับยุคดิจิทัล พร้อมตั้งหน่วยงานกำกับเอกชน

ดีอี แก้ไข พ.ร.บ.ไปรษณีย์ใหม่ รับยุคดิจิทัล พร้อมตั้งหน่วยงานกำกับเอกชน

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ไปรษณีย์ฯ ฉบับใหม่ เพื่อปรับปรุงกฎหมายให้สอดรับกับยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล หวังเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชน

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี กล่าวว่า พ.ร.บ.ไปรษณีย์ฯ 2477 เป็นหนึ่งในกฎหมายฉบับเก่าที่สุดของประเทศไทย ที่บังคับใช้มานานกว่า 90 ปี ปัจจุบันเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่กฎหมายที่ควบคุมดูแลกิจการไปรษณีย์ยังไม่เปลี่ยนแปลงตาม จึงต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องกับยุคสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการขนส่งพัสดุภัณฑ์ ซึ่งส่งผลให้ บริการไปรษณีย์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น

การแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ไปรษณีย์ฯ ฉบับใหม่ มุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ประชาชน คุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค ส่งเสริมการแข่งขันอย่างเป็นธรรม และส่งเสริมนวัตกรรม โดยมีประเด็นสำคัญที่ได้รับความสนใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน ดังนี้

  • การจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลกิจการไปรษณีย์และบริการที่เกี่ยวข้อง

    • เพื่อกำกับดูแล ควบคุมมาตรฐาน และความปลอดภัย รวมถึงการกำกับดูแลข้อมูลส่วนบุคคล
    • โดยอาจพิจารณาจัดตั้งในรูปแบบ สำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแล ซึ่งอาจเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานอิสระ มีรูปแบบเป็นคณะกรรมการ หรือไม่เป็นคณะกรรมการ และอาจมีอำนาจหน้าที่กำกับดูแลเฉพาะกิจการไปรษณีย์ หรือรวมถึงกิจการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น โลจิสติกส์ อีคอมเมิร์ซ
  • การจัดทำระบบลงทะเบียนการขออนุญาตประกอบกิจการไปรษณีย์สำหรับภาคเอกชน

    • เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการให้บริการ ภายใต้กฎระเบียบที่ชัดเจน เพื่อกระตุ้นการพัฒนาคุณภาพ และลดราคาค่าบริการ
    • โดยอาจแบ่งประเภทใบอนุญาตตามประเภทไปรษณียภัณฑ์ น้ำหนัก มูลค่า หรือรูปแบบบริการ และกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณา เช่น คุณสมบัติ ความพร้อม มาตรฐานการให้บริการ ความมั่นคงทางการเงิน
  • การออกหลักเกณฑ์การกำกับดูแลผู้ให้บริการขนส่งพัสดุภัณฑ์ทุกราย

    • เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค กำหนดมาตรฐานการให้บริการ เช่น ระยะเวลาการจัดส่ง การรับผิดชอบต่อความเสียหาย และกำหนดมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค เช่น ช่องทางการร้องเรียน การชดเชยความเสียหาย

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นปัญหาและอุปสรรคในการบังคับใช้ พ.ร.บ.ไปรษณีย์ฯ 2477 อาทิ

  • ถ้อยคำและหน่วยงานที่กำหนดไว้ในกฎหมายไม่สอดคล้องกับปัจจุบัน
  • บทบัญญัติในกฎหมายไม่ได้ครอบคลุมถึงการให้บริการรูปแบบใหม่ ๆ ที่นำเทคโนโลยีมาใช้
  • กฎหมายมุ่งเน้นโทษทางอาญา ขณะที่กฎหมายสมัยใหม่มุ่งเน้นโทษทางปกครอง
  • ขอบเขตของกฎหมายครอบคลุมถึงการกำกับดูแลพัสดุภัณฑ์น้ำหนักเบา แต่ไม่มีการออกหลักเกณฑ์กำกับดูแลผู้ให้บริการขนส่งพัสดุภัณฑ์รายอื่น ๆ นอกเหนือจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
  • การให้บริการไปรษณีย์พื้นฐานโดยทั่วถึงในพื้นที่ห่างไกล เป็นภาระแก่ผู้ให้บริการ เนื่องจากมีต้นทุนสูง

ในการรับฟังความคิดเห็น กระทรวงดีอี ได้นำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบสภาพการแข่งขันและกฎหมายในกิจการไปรษณีย์ฯ ของประเทศไทยและต่างประเทศ โดยพบว่าหลายประเทศมีการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน และมีแนวโน้มการแข่งขันที่สูงขึ้นในตลาดขนส่งพัสดุภัณฑ์ กระทรวงดีอี จึงได้ศึกษาแนวโน้ม และกฎหมายไปรษณีย์ของต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา และปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ไปรษณีย์ฯ ให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับมาตรฐานสากล

สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ไปรษณีย์ฯ ฉบับใหม่ นอกเหนือจากประเด็นข้างต้น ยังประกอบด้วย

  • การสนับสนุนบริการไปรษณีย์พื้นฐานอย่างทั่วถึง

    • เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงบริการไปรษณีย์ได้อย่างทั่วถึง เป็นธรรม
    • โดยอาจกำหนดพื้นที่ให้บริการ และมาตรฐานการให้บริการขั้นต่ำ
    • และอาจพิจารณาใช้กลไกการสนับสนุน เช่น การอุดหนุนจากรัฐบาล หรือกองทุน
  • บทลงโทษ

    • เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพ
    • โดยอาจกำหนดโทษทางอาญา หรือโทษทางปกครอง และปรับปรุงอัตราโทษให้เหมาะสม

ทั้งนี้ กระทรวง ดีอี ได้เปิดช่องทางให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็น แนวทางปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ไปรษณีย์ฯ 2477 ได้ที่ https://www.law.go.th/listeningDetail?survey_id=NDYzMURHQV9MQVdfRlJPTlRFTkQ=

#ดีอี #พ.ร.บ.ไปรษณีย์ #เศรษฐกิจดิจิทัล #ข่าวเศรษฐกิจ

Related Posts