อิเกีย ประเทศไทย ประกาศแผนธุรกิจปี 2568 รุกขยายสาขาทั่วประเทศ เพิ่มช่องทางออนไลน์-ออฟไลน์ พร้อมเดินหน้าแคมเปญลดราคาสินค้าต่อเนื่องกว่า 1,000 รายการ หวังช่วยคนไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการผลักดันแนวคิด “ความยั่งยืน” อย่างจริงจัง
ปี 2568 นับเป็นอีกปีที่ท้าทายสำหรับภาคธุรกิจค้าปลีก แต่สำหรับ “อิเกีย” (IKEA) ยักษ์ใหญ่เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านจากสวีเดน กลับมองเห็นโอกาสในการเติบโตในประเทศไทย ด้วยวิสัยทัศน์ระดับโลกที่ต้องการสร้างสรรค์ชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นสำหรับผู้คน (To create a better everyday life for the many people) อิเกียจึงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยในทุกมิติ ทั้งด้านดีไซน์ คุณภาพ ราคา และความยั่งยืน
ขยายอาณาจักร “อิเกีย” ทั่วไทย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
อิเกีย ประเทศไทย วางกลยุทธ์ขยายธุรกิจเชิงรุกในปี 2568 โดยเน้นการเปิดสโตร์รูปแบบใหม่ ๆ ที่มีความหลากหลาย เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าในแต่ละภูมิภาคได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสโตร์ขนาดใหญ่ที่มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งอย่างเต็มรูปแบบ หรือสโตร์ขนาดเล็กที่เน้นความสะดวกสบายและรวดเร็ว
หนึ่งในตัวอย่างที่น่าสนใจคือ “จุดสั่งซื้อสินค้า อิเกีย เชียงใหม่” (IKEA Chiang Mai Order Point) ซึ่งเป็นสโตร์ขนาดกะทัดรัดเพียง 708 ตารางเมตร แต่ครบครันด้วยสินค้ากว่า 300 รายการ โซลูชันการจัดเก็บที่ตอบโจทย์ทุกพื้นที่ บริการให้คำปรึกษาและวางแผนการออกแบบ รวมถึงบริการ Click & Collect ที่ให้ลูกค้าสั่งสินค้าออนไลน์และมารับที่หน้าร้านได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ยังมีมุม Swedish Bites ที่ให้บริการขนมและอาหารว่างสไตล์สวีเดน
การขยายสาขาในรูปแบบที่หลากหลายนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น แต่อิเกียยังมีแผนที่จะขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ เพื่อให้คนไทยสามารถเข้าถึงสินค้าและบริการของอิเกียได้ง่ายขึ้น
เชื่อมโลกออนไลน์-ออฟไลน์ สร้างประสบการณ์ “ออมนิแชนนอล”
นอกจากการขยายสาขาในรูปแบบออฟไลน์แล้ว อิเกียยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “ออมนิแชนนอล” (Omnichannel) ที่เชื่อมโยงแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทั้งผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือที่สโตร์ และยังสามารถเลือกรับสินค้าได้ทั้งที่บ้าน หรือมารับที่จุดบริการต่าง ๆ ของอิเกีย
การพัฒนาช่องทางออนไลน์นี้ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยที่ต้องการความสะดวกสบาย และต้องการสัมผัสสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ อิเกียจึงพยายามสร้างสมดุลระหว่างช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน
“คุ้มค่ากว่า ในราคาที่ลดลง” สู้ศึกเศรษฐกิจ
จากความสำเร็จของแคมเปญ “New Lower Price” ในปี 2567 อิเกีย ประเทศไทย ยังคงสานต่อแนวคิด “คุ้มค่ากว่า ในราคาที่ลดลง” (More Value, Less Spend) อย่างต่อเนื่องในปี 2568 โดยมีการปรับลดราคาสินค้ากว่า 1,000 รายการ เฉลี่ย 25-30% เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงที่เศรษฐกิจยังคงมีความท้าทาย
อิเกียตระหนักดีว่าผู้บริโภคชาวไทยให้ความสำคัญกับ “ความคุ้มค่า” เป็นอย่างมาก จึงได้ทำการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อนำเสนอราคาพิเศษสำหรับสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยที่ยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพระดับสากล และมีการรับประกันสินค้าที่น่าเชื่อถือ
แม้ว่าราคาสินค้าจะลดลง แต่อิเกียยังคงให้ความสำคัญกับการออกแบบที่พิถีพิถัน เพื่อให้สินค้ามีความทนทาน ใช้งานได้จริง และคุ้มค่าในระยะยาว
“ความยั่งยืน” ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือหัวใจของอิเกีย
IKEA ประเทศไทย ไม่ได้มอง “ความยั่งยืน” เป็นเพียงกระแสที่ผ่านมาแล้วผ่านไป แต่เป็นหัวใจหลักในการดำเนินธุรกิจ โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนเป็นเรื่องง่าย และเข้าถึงได้สำหรับทุกครัวเรือน
อิเกียให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่ยั่งยืน และกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้ยาวนาน ลดการเกิดขยะ และส่งเสริมการรีไซเคิล
นอกจากนี้ อิเกียยังมีบริการที่สนับสนุนความยั่งยืน เช่น บริการอะไหล่สำรอง บริการรับซื้อ-ขายเฟอร์นิเจอร์อิเกีย บริการขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ และบริการทำความสะอาดยืดอายุการใช้งาน เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อิเกียยังมุ่งมั่นที่จะให้ความรู้ และสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมความยั่งยืนมากขึ้น ผ่านช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ โดยเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่
-
การใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนและความเป็นอยู่ที่ดี (Healthy and Sustainable Living): สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมาใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ด้วยสินค้าและบริการที่หลากหลาย คุ้มค่า และเข้าถึงได้
-
การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการหมุนเวียน (Climate Nature and Circularity): ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างจริงจัง และพัฒนาบริการแบบหมุนเวียน เช่น การใช้แผงโซลาร์เซลล์ที่อิเกีย บางนา และแผนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในการจัดส่งสินค้าในอนาคต
-
ความเท่าเทียมและการดูแล (Fair and Caring): สร้างความตระหนักรู้ด้านความยั่งยืนและความเท่าเทียม สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับองค์กร ห่วงโซ่อุปทาน และสังคมโดยรวม
ในปี 2568 IKEA ประเทศไทย พร้อมเดินหน้าเต็มกำลัง เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งการขยายสาขา การพัฒนาช่องทางออนไลน์ การนำเสนอสินค้าในราคาที่เข้าถึงได้ และการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม อิเกียไม่เพียงแต่มุ่งหวังที่จะเป็นผู้นำในตลาดเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านเท่านั้น แต่ยังต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ชีวิตที่ดีขึ้นให้กับคนไทยทุกคน
#IKEA #อิเกีย #เฟอร์นิเจอร์ #ของแต่งบ้าน #ความยั่งยืน #ลดราคา #เศรษฐกิจ #ข่าวเศรษฐกิจ #ธุรกิจค้าปลีก #ออมนิแชนนอล #SustainableLiving #NewLowerPrice
