ขยาย “สิทธิในการซ่อม” หวังลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ – ดันเศรษฐกิจ BCG

ขยาย “สิทธิในการซ่อม” หวังลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ – ดันเศรษฐกิจ BCG

รายงานใหม่ชี้ ไทยมีศักยภาพเป็นผู้นำอาเซียนด้าน “สิทธิในการซ่อม” (Right to Repair) หนุนผู้บริโภคซ่อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เอง ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 450,000 ตันต่อปี สอดรับโมเดลเศรษฐกิจ BCG ดันไทยสู่เศรษฐกิจยั่งยืน

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ประเทศไทยกำลังเผชิญกับโอกาสสำคัญในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับภูมิภาคในการส่งเสริม “สิทธิในการซ่อม” (Right to Repair – R2R) อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ

รายงานฉบับใหม่ล่าสุดจากความร่วมมือของสถาบันนโยบายสาธารณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI), และมหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้าน R2R ในภูมิภาคอาเซียน โดยชี้ให้เห็นถึงปัญหาสำคัญในระบบการซ่อมแซมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบัน ที่ผู้บริโภคและร้านซ่อมอิสระเผชิญกับข้อจำกัดในการเข้าถึงอะไหล่, เครื่องมือ, และคู่มือการซ่อม

“สิทธิในการซ่อม”: ทางออกเพื่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

แนวคิด R2R คือการให้สิทธิผู้บริโภคในการซ่อมแซมผลิตภัณฑ์ของตนเองได้อย่างอิสระ โดยสามารถเข้าถึงอะไหล่, เครื่องมือ, และข้อมูลที่จำเป็นในการซ่อมแซมได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักรกลการเกษตร, ยานยนต์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

ปัจจุบัน ผู้ผลิตหลายรายมักตั้งข้อจำกัดต่างๆ เพื่อกีดกันการซ่อมแซมโดยอิสระ ทั้งข้อจำกัดทางกายภาพ, กฎหมาย, และดิจิทัล เช่น การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อ “จับคู่ชิ้นส่วน” (Parts Pairing) ซึ่งทำให้ไม่สามารถใช้อะไหล่ทดแทนจากแหล่งอื่นได้ ส่งผลให้ค่าซ่อมสูงขึ้น และผู้บริโภคไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการซื้อสินค้าใหม่

หลายประเทศทั่วโลกเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของ R2R และได้ออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในการซ่อมแซมแล้ว เช่น หลายรัฐในสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป ซึ่งได้ประกาศใช้กฎหมาย R2R ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2567 โดยห้ามผู้ผลิตกำหนดข้อจำกัดในการซ่อม และบังคับให้ผู้ผลิตต้องจัดหาอะไหล่และเครื่องมือในราคาที่สมเหตุสมผล

ประเทศไทย: ศักยภาพในการเป็นผู้นำ R2R ในอาเซียน

รายงานฉบับนี้ชี้ว่า ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเป็นผู้นำในการขับเคลื่อน R2R ในภูมิภาคอาเซียน เนื่องจากเป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ และมีอัตราการใช้สมาร์ทโฟนสูงมาก โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2572 ประชากรไทยเกือบทั้งหมด (97%) จะใช้สมาร์ทโฟน

นายเอ็ดเวิร์ด แรตคลิฟฟ์ กรรมการบริหาร สถาบันนโยบายสาธารณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “ประเทศไทยซึ่งเป็นตลาดอิเล็กทรอนิกส์ใหญ่และมียอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนถึง 14 ล้านเครื่องในปี 2566 … เป็นประเทศที่เหมาะสมสำหรับการออกกฎหมาย R2R ที่ก้าวหน้า”

สิทธิในการซ่อม

ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์: วิกฤตที่รอการแก้ไข

รายงานยังเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณสูงถึง 450,000 ตันต่อปี และคิดเป็น 65% ของขยะอันตรายจากชุมชน โดยขยะจากโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตมีประมาณ 25,200 ตัน แต่มีเพียง 21% เท่านั้นที่ได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม

สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อจีนสั่งห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2560 ทำให้ปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์นำเข้าในไทยเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า โดยในปี 2564 ไทยนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์มากกว่า 28 ล้านตัน

ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย: สร้างกรอบ R2R ที่ครอบคลุม

รายงานฉบับนี้ได้เสนอแนะแนวทางการพัฒนากรอบการทำงานของ R2R ที่ครอบคลุมในประเทศไทย ดังนี้:

  1. ห้ามการจับคู่ชิ้นส่วน (Parts Pairing): เพื่อให้ผู้บริโภคและร้านซ่อมอิสระสามารถเข้าถึงอะไหล่ทดแทนได้อย่างเสรี
  2. กำหนดราคามาตรฐาน: กำหนดราคาอะไหล่และเครื่องมือให้เป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค
  3. ให้สิ่งจูงใจ: สนับสนุนธุรกิจซ่อมแซมอิสระ เช่น การลดหย่อนภาษี หรือการให้เงินอุดหนุน

ข้อเสนอเหล่านี้สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการโมเดลเศรษฐกิจ Bio-Circular-Green (BCG) ของประเทศไทย (พ.ศ. 2564-2570) ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

“เลมอน ลอว์”: โอกาสในการผลักดัน R2R

รายงานฉบับนี้เผยแพร่ในช่วงเวลาที่ “ร่างพระราชบัญญัติความรับผิดชอบต่อความชำรุดบกพร่องของสินค้า” หรือ “เลมอน ลอว์” (Lemon Law) กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่ประเทศไทยจะบูรณาการหลักการของ R2R เข้ากับกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคฉบับนี้

การส่งเสริม “สิทธิในการซ่อม” ไม่เพียงแต่จะคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในการซ่อมแซมอุปกรณ์ของตนเองเท่านั้น แต่ยังช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์, ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน, และสร้างงานให้กับช่างซ่อมอิสระอีกด้วย หากประเทศไทยสามารถผลักดันนโยบาย R2R ได้สำเร็จ ก็จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในด้านการบริโภคที่ยั่งยืนและการคุ้มครองผู้บริโภคในระดับภูมิภาค

#RightToRepair #สิทธิในการซ่อม #ขยะอิเล็กทรอนิกส์ #BCG #เศรษฐกิจหมุนเวียน #คุ้มครองผู้บริโภค #LemonLaw #TEI #มหาวิทยาลัยรังสิต #สถาบันนโยบายสาธารณะเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Related Posts