SSPD เปิดเกมรุกตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย ตั้งเป้าชิงเค้ก 25%

SSPD เปิดเกมรุกตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย ตั้งเป้าชิงเค้ก 25%

สยาม โซลาร์ พาวเวอร์ ดิสทริบิวชั่น (SSPD)เดินหน้ารุกตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในไทย ตั้งเป้าเป็นผู้นำด้วยสินค้าคุณภาพสูงและบริการครบวงจร ชูจุดแข็ง ผลิตภัณฑ์พรีเมียมจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมบริการหลังการขายแบบครบวงจร ตั้งเป้าครองส่วนแบ่งตลาด 20-25%

กรุงเทพฯ – บริษัท สยาม โซลาร์ พาวเวอร์ ดิสทริบิวชั่น จำกัด (SSPD) ผู้จัดจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เสริมสำหรับระบบพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของประเทศไทย ประกาศเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างเต็มกำลัง โดยตั้งเป้าครองส่วนแบ่งการตลาด 20-25%

นายซานี วิน เฮ็ต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ สยาม โซลาร์ พาวเวอร์ ดิสทริบิวชั่น เปิดเผยว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะทำให้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นสิ่งที่เข้าถึงได้และราคาไม่แพงสำหรับทุกคน เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย

สยาม โซลาร์ พาวเวอร์ ดิสทริบิวชั่น เป็นบริษัท จัดหาผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ แบตเตอรี่ และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ พร้อมดำเนินการจัดจำหน่ายทั่วประเทศไทย โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมจากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก Tier 1 ที่มีความน่าเชื่อถือ และรับประกันระยะยาว 5-10 ปี อาทิ Trina Solar, DASolar, Deye, Solis และ SHARK Topsun โดยมุ่งเน้นการจัดจำหน่ายสินค้าคุณภาพสูงจากแบรนด์ชั้นนำระดับ Tier 1 ที่มีความน่าเชื่อถือ และรับประกันระยะยาว 5-10 ปี อาทิ Trina Solar และ DS Solar 

ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการทำให้พลังงานแสงอาทิตย์เข้าถึงได้และราคาไม่แพงสำหรับทุกคน ขับเคลื่อนการเติบโตของพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทย บริษัทฯ มุ่งมั่นที่จะให้บริการผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงและครอบคลุม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในการลงทุน พันธกิจของบริษัทฯ คือการอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงพลังงานแสงอาทิตย์ที่เชื่อถือได้และคุ้มค่า สนับสนุนธุรกิจและชุมชนในประเทศไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน

นอกจากแบรนด์สินค้าชั้นนำ สยาม โซลาร์ พาวเวอร์ ดิสทริบิวชั่น ยังมีแผนที่จะนำเข้าแบรนด์สินค้าราคาประหยัด เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเข้าแบรนด์ Tarzan ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ราคาเข้าถึงง่าย เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถเป็นเจ้าของระบบกักเก็บพลังงานได้ สยาม โซลาร์ พาวเวอร์ ดิสทริบิวชั่น วางแผนขยายเครือข่ายการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจะเริ่มจากการเปิดสาขาใน 6 ภูมิภาคหลัก

“เรามองว่าตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยมีศักยภาพสูงมากในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด” นายซานี วิน เฮ็ต กล่าวเสริม

สยาม โซลาร์ พาวเวอร์ ดิสทริบิวชั่น ให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงมีบริการให้สินเชื่อเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบ โดยบริษัทฯ มีพันธมิตรทางการเงินที่พร้อมให้การสนับสนุนด้านสินเชื่อสำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อสินค้า

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะมอบบริการที่ดีที่สุดแก่พันธมิตร ด้วยความเอาใจใส่ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการขาย นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้

SSPD

“เราเชื่อมั่นว่าด้วยกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง SSPD จะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำในตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ของประเทศไทยได้อย่างแน่นอน” นายซานี วิน เฮ็ต กล่าวทิ้งท้าย

โซล่าร์เซลล์ในไทย แนวโน้มสดใสและโอกาสที่เปิดกว้าง

ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้นและมีแสงแดดจัดตลอดทั้งปี ตลาดโซล่าร์เซลล์ในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยต่างๆ เช่น นโยบายสนับสนุนของภาครัฐ ความกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น และราคาแผงโซล่าร์เซลล์ที่ลดลง แม้ว่าจะยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัดเกี่ยวกับมูลค่าตลาดโดยรวมของระบบโซล่าร์เซลล์ในประเทศไทย แต่การเติบโตของตลาดโซลาร์รูฟท็อปในประเทศไทยบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเติบโตของตลาดโซล่าร์เซลล์โดยรวม ตลาดโซลาร์รูฟท็อปในประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 22% ต่อปี และคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดจะแตะระดับ 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 2568

ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดโซล่าร์เซลล์ในประเทศไทย ได้แก่ ความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น นโยบายสนับสนุนของภาครัฐ เช่น การให้เงินอุดหนุน การลดหย่อนภาษี และการรับซื้อไฟฟ้าจากระบบโซล่าร์เซลล์ นอกจากนี้ ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นของประชาชน และราคาแผงโซล่าร์เซลล์ที่ลดลงก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันการเติบโตของตลาด ภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นตลาดในระยะเริ่มต้น โดยช่วยลดอุปสรรคด้านต้นทุนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ความต้องการของผู้บริโภคและปัจจัยทางเศรษฐกิจจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนตลาดมากขึ้น

SSPD

แนวโน้มในอนาคตของตลาดโซลาร์รูฟท็อปในประเทศไทยยังคงสดใส โดยมีปัจจัยสนับสนุน เช่น ศักยภาพด้านพลังงานแสงอาทิตย์ สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวส่งผลให้ความต้องการใช้ไฟฟ้าสำหรับเครื่องปรับอากาศเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสสำหรับการติดตั้งระบบโซล่าร์เซลล์ การพัฒนาเทคโนโลยี เช่น แผงโซล่าร์เซลล์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ระบบกักเก็บพลังงาน และระบบควบคุมอัจฉริยะ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนของระบบโซล่าร์เซลล์

โดยประเทศไทยมีโครงการโซล่าร์เซลล์ที่ประสบความสำเร็จหลายโครงการ ทั้งในภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น โครงการโซล่าร์ฟาร์มขนาดใหญ่ โครงการโซล่าร์รูฟท็อปบนอาคารบ้านเรือนและอาคารสำนักงาน และโครงการโซล่าร์เซลล์ชุมชน โครงการเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของระบบโซล่าร์เซลล์ ทั้งในด้านการประหยัดต้นทุน การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมความมั่นคงด้านพลังงาน

การเติบโตของตลาดโซล่าร์เซลล์ในประเทศไทยเปิดโอกาสสำหรับผู้ประกอบการในหลายด้าน เช่น การผลิตและจำหน่ายแผงโซล่าร์เซลล์ การติดตั้งและบำรุงรักษาระบบโซล่าร์เซลล์ การพัฒนาเทคโนโลยี และการให้บริการด้านการเงิน ตลาดโซล่าร์เซลล์ในประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส และเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการในการลงทุนและพัฒนาธุรกิจ

#SSPD #พลังงานแสงอาทิตย์ #โซลาร์เซลล์ #พลังงานสะอาด #ธุรกิจสีเขียว

Related Posts