DMT ผนึก ASIAM Infra ชูธง “เทคโนโลยี-ความใส่ใจ” กุญแจสู่อนาคต

DMT ผนึก ASIAM Infra ชูธง “เทคโนโลยี-ความใส่ใจ” กุญแจสู่อนาคต

DMT และบริษัทย่อย ASIAM Infra ร่วมงาน The Roads & Traffic Expo Thailand 2025 ชูความสำคัญของการบริหารจัดการและบำรุงรักษาทางหลวงพิเศษในกรุงเทพฯ ที่ต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และความใส่ใจ เพื่อยืดอายุการใช้งานและสร้างความปลอดภัยให้ผู้ใช้ทาง พร้อมเผยกลยุทธ์ “R&D Driven Operation” และการนำ AI มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการจราจร

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – การจราจรที่หนาแน่นและการขยายตัวของเมืองอย่างรวดเร็ว ทำให้โครงสร้างพื้นฐานของกรุงเทพฯ โดยเฉพาะทางหลวงพิเศษที่เปิดใช้งานมานานกว่า 40 ปี จำเป็นต้องได้รับการดูแลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT และบริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด (ASIAM Infra) บริษัทย่อย ได้ตระหนักถึงความสำคัญนี้และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอนาคตของทางหลวงพิเศษไทย ในงาน The Roads & Traffic Expo Thailand 2025 งานประชุมและแสดงเทคโนโลยีอุปกรณ์สำหรับบริหารจัดการด้านโครงสร้างพื้นฐานและระบบคมนาคมระดับประเทศ

ภายในงาน DMT และ ASIAM Infra ได้ส่งผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมเสวนาและบรรยาย เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการบริหารจัดการทางหลวงพิเศษในยุคปัจจุบัน ที่ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งในแง่ของสภาพโครงสร้างพื้นฐานที่มีอายุการใช้งานมานาน การจราจรที่หนาแน่น และความคาดหวังของผู้ใช้ทางที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือ DMT ได้เน้นย้ำถึงความท้าทายในการบริหารทางหลวงพิเศษในกรุงเทพฯ ว่าต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย รวมถึงการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและให้บริการ

“DMT ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา และนำมาปรับใช้ในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด การบริหารจัดการทางหลวงพิเศษไม่เพียงแต่เป็นการดูแลรักษาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ทางในการเดินทางที่ปลอดภัย” ดร.ศักดิ์ดา กล่าว

หนึ่งในเทคโนโลยีที่ DMT นำมาใช้คือ AI deep learning ซึ่งช่วยในการวิเคราะห์อุบัติการณ์และสภาพจราจร ทำให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ DMT ยังให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เพื่อให้โครงสร้างทางยกระดับดอนเมืองยังคงอยู่ในสภาพดีตลอดระยะเวลาที่ให้บริการมากกว่า 35 ปี

“เราให้ความสำคัญกับการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน เพื่อให้โครงสร้างทางยกระดับดอนเมืองยังคงอยู่ในสภาพดีตลอดระยะเวลาที่ให้บริการมากกว่า 35 ปี ทีมงานของเราปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อส่งผู้ใช้ทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย” ดร.ศักดิ์ดา เสริม

ASIAM Infra

ด้าน ดร.เอกรินทร์ เหลืองวิลัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ สยาม อินฟรา จำกัด ได้กล่าวถึงความท้าทายในการซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐานที่มีอายุการใช้งานมานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่มีการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานอย่างหนักหน่วง

“การจัดการและซ่อมบำรุงโครงสร้างพื้นฐานที่มีอายุการใช้งานมานานมาก เป็นความท้าทายที่ต้องใช้ทั้งความรู้และเทคโนโลยีที่ทันสมัย” ดร.เอกรินทร์ กล่าว

ASIAM Infra ได้พัฒนาแนวทางและกลยุทธ์ที่สามารถยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างทีมงานพันธมิตรจากประเทศญี่ปุ่น และการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้โครงสร้างพื้นฐานในการเดินทางที่ปลอดภัย

“กลยุทธ์ของเราสะท้อนออกมาในรูปแบบของการสร้างมาตรฐานการตรวจสอบตั้งแต่เริ่มก่อสร้าง การใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ถนนพลาสติกแอสฟัลท์ รวมถึงการนำ AI เข้ามาใช้เพื่อความแม่นยำในการตรวจสอบและบำรุงรักษา” ดร.เอกรินทร์ อธิบาย

นอกจากนี้ นายวันเฉลิม ดวงกันยา ผู้จัดการแผนกวิจัยและพัฒนาของ DMT ยังได้ยกตัวอย่างการนำหลักการ R&D Driven Operation มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทาง ซึ่งเป็นจุดที่มักเกิดปัญหาความแออัด

“การออกแบบและวางแผน เพื่อมองหาวิธีการปรับปรุงประสิทธิภาพการจราจรบริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางเป็นสิ่งที่สำคัญในการลดความแออัดและเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ทาง” นายวันเฉลิม กล่าว

บทสรุปและก้าวต่อไป

ดร.ศักดิ์ดา ได้กล่าวสรุปว่า การบริหารทางหลวงพิเศษในกรุงเทพฯ เป็นความท้าทายที่ต้องอาศัยองค์ความรู้ ประสบการณ์ และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา DMT ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีต และนำมาปรับใช้ในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

“การบริหารจัดการทางหลวงพิเศษไม่เพียงแต่เป็นการดูแลรักษาโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและมั่นใจให้กับผู้ใช้ทางในการเดินทางถึงจุดหมายที่ปลอดภัย ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่างยั่งยืน” ดร.ศักดิ์ดา กล่าวทิ้งท้าย

การผนึกกำลังของ DMT และ ASIAM Infraในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับการบริหารจัดการทางหลวงพิเศษของประเทศไทย ให้ก้าวไปสู่ระดับสากล ด้วยการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และความเชี่ยวชาญ มาประยุกต์ใช้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ทางและสร้างความยั่งยืนให้กับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

#DMT #ASIAMInfra #ทางหลวงพิเศษ #TheRoadsAndTrafficExpoThailand #เทคโนโลยี #AI #การจราจร #โครงสร้างพื้นฐาน #ความยั่งยืน #R&DDrivenOperation

Related Posts