โชห่วยโอด! “อิ๊งค์” ปราบ บุหรี่ไฟฟ้า แต่ บุหรี่เถื่อน เกลื่อนเมือง

โชห่วยโอด! “อิ๊งค์” ปราบ บุหรี่ไฟฟ้า แต่ บุหรี่เถื่อน เกลื่อนเมือง

สมาคมการค้ายาสูบไทย ร้องรัฐบาลเร่งแก้ปัญหา บุหรี่เถื่อน ทะลัก หลังร้านค้าโชห่วยกว่าแสนรายถอดใจเลิกขาย เหตุยอดขายตก-กำไรหด ชี้บุหรี่เถื่อนทำรัฐสูญรายได้กว่า 2.8 หมื่นล้านบาทต่อปี วอนเข้มงวดปราบปรามเหมือนบุหรี่ไฟฟ้า

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – สถานการณ์ บุหรี่เถื่อน ในประเทศไทยยังคงวิกฤต สมาคมการค้ายาสูบไทยเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า บุหรี่เถื่อนกำลังระบาดหนัก ไม่ใช่แค่ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ แต่ยังลุกลามเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และภาคกลาง สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจและร้านค้าปลีกรายย่อยอย่างมหาศาล

นางสาวธัญญศรัณ แสงทอง ผู้อำนวยการบริหารสมาคมการค้ายาสูบไทย กล่าวว่า “สถานการณ์บุหรี่เถื่อนในปัจจุบันน่ากังวลอย่างยิ่ง ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พื้นที่ชายแดนอีกต่อไป แต่กระจายไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งพบว่ามีสัดส่วนบุหรี่ผิดกฎหมายเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา”

ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร้านค้าโชห่วย หรือร้านค้าปลีกขนาดเล็กนั้นรุนแรงมาก เนื่องจากบุหรี่เถื่อนมีราคาถูกกว่าบุหรี่ที่เสียภาษีอย่างถูกต้องถึง 2-3 เท่า ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากหันไปซื้อบุหรี่เถื่อน ส่งผลให้ร้านค้าที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายต้องเผชิญกับภาวะ “ขายยาก กำไรหด” ยอดขายลดลงอย่างน่าใจหาย

“ปัจจุบัน ร้านค้าปลีกที่ขายบุหรี่ถูกกฎหมายทั่วประเทศลดลงประมาณ 1 แสนร้านค้า จากในปี 2566 ที่มี 5 แสนราย แต่ในปี 2567 เหลือเพียง 4 แสนรายเท่านั้น” นางสาวธัญญศรัณเปิดเผยข้อมูลที่สะท้อนถึงความรุนแรงของปัญหา “ร้านค้าสมาชิกบางรายบอกว่าแทบจะขายบุหรี่ไม่ได้เลย เพราะร้านค้าใกล้เคียงขายบุหรี่เถื่อน ลูกค้าประจำก็หันไปสั่งออนไลน์แทน เลยไม่อยากเสียเงินต่อใบอนุญาตแล้ว เลิกขายไปเลยดีกว่า”

สถานการณ์นี้สอดคล้องกับข้อมูลจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจยาสูบ ที่ระบุว่าในปี 2567 สัดส่วนการบริโภคบุหรี่ผิดกฎหมายสูงถึง 25.4% ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 10 ปี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐกว่า 28,000 ล้านบาทต่อปี แม้ว่า 5 จังหวัดภาคใต้จะยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการระบาดของบุหรี่เถื่อนสูงที่สุด แต่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก็มีการเติบโตของบุหรี่เถื่อนอย่างน่ากังวล

บุหรี่เถื่อน

บุหรี่เถื่อน: ปัญหาซับซ้อนที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน

นางสาวธัญญศรัณ กล่าวถึงความซับซ้อนของปัญหาว่า “เทคนิคของขบวนการบุหรี่เถื่อนมีความซับซ้อนมากขึ้น มีการปลอมแสตมป์ที่มี QR code ซึ่งเมื่อสแกนแล้วกลับแสดงว่ามีการเสียภาษีถูกต้อง ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ”

สมาคมฯ ได้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยล่าสุดได้ส่งข้อมูลการแจ้งเบาะแสร้านค้าบุหรี่เถื่อน 35 รายการ ให้กับกรมสรรพสามิต ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ สระแก้ว และประจวบคีรีขันธ์

ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข

สมาคมการค้ายาสูบไทย ได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาบุหรี่เถื่อน ดังนี้:

  1. ขอให้กรมสรรพสามิตดำเนินการตรวจสอบและสืบสวน หาผู้ขายรายใหญ่ และปิดกั้นเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียที่จำหน่ายบุหรี่เถื่อน
  2. ให้กรมสรรพสามิตเป็นเจ้าภาพประสานงาน กับศูนย์คัดแยกไปรษณีย์และบริษัทขนส่งเอกชน เพื่อกำหนดมาตรการและแผนงานในการปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างชัดเจน
  3. แก้ปัญหาบุหรี่เถื่อนตั้งแต่ต้นทาง โดยประสานความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นแหล่งผลิตและส่งออกบุหรี่เถื่อน

เสียงสะท้อนจากภาคธุรกิจ: วอนรัฐบาล “อิ๊งค์” เร่งแก้ปัญหา

นางสาวธัญญศรัณ กล่าวทิ้งท้ายว่า “สมาคมฯ อยากเห็นการยกระดับแก้ปัญหาบุหรี่เถื่อนให้เข้มข้น เช่นเดียวกับที่รัฐบาลและท่านนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ประกาศกวาดล้างบุหรี่ไฟฟ้า เพื่อปกป้องร้านค้าโชห่วยในชุมชนให้อยู่รอด ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ดีนัก”

สถานการณ์บุหรี่เถื่อนในประเทศไทยกำลังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจและสังคม ร้านค้าโชห่วยจำนวนมากต้องปิดตัวลง รัฐสูญเสียรายได้มหาศาลจากการจัดเก็บภาษี และประชาชนได้รับผลกระทบจากบุหรี่ที่ไม่ได้มาตรฐาน

การแก้ไขปัญหานี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการปราบปรามบุหรี่เถื่อนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมถึงออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาในระยะยาว

#บุหรี่เถื่อน #โชห่วย #สมาคมการค้ายาสูบไทย #กรมสรรพสามิต #บุหรี่ไฟฟ้า #เศรษฐกิจไทย #ภาษียาสูบ #ร้านค้าปลีก #แพทองธาร #นายก

Related Posts