Whoscall ผนึกกำลังภาครัฐ สกัดภัยมิจฉาชีพออนไลน์

Whoscall ผนึกกำลังภาครัฐ สกัดภัยมิจฉาชีพออนไลน์

Whoscall เดินหน้าจับมือภาครัฐ สกัดกั้นภัยมิจฉาชีพออนไลน์ หลังพบคนไทยถูกหลอกลวงผ่านโทรศัพท์และ SMS รวมกว่า 168 ล้านครั้งในปี 2567 ชี้ SMS ยังคงเป็นช่องทางหลักที่มิจฉาชีพใช้ พร้อมเตรียมเปิดแคมเปญใหญ่ไตรมาส 2 นี้

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ปัญหาภัยคุกคามจากมิจฉาชีพออนไลน์ยังคงเป็นวาระสำคัญที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข ล่าสุด บริษัท โกโกลุก ประเทศไทย ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall ได้เดินสายพบหน่วยงานภาครัฐหลายแห่ง เพื่อส่งมอบรายงานประจำปี 2567 พร้อมหารือแนวทางความร่วมมือในการยกระดับการป้องกันและเตือนภัยมิจฉาชีพออนไลน์

มิจฉาชีพยังอาละวาด! คนไทยถูกหลอก 168 ล้านครั้ง

รายงานประจำปี 2567 ของWhoscall เผยตัวเลขที่น่าตกใจว่า คนไทยได้รับการหลอกลวงผ่านสายโทรศัพท์และข้อความ SMS รวมกว่า 168 ล้านครั้ง โดยในจำนวนนี้เป็นการหลอกลวงผ่านข้อความ SMS มากถึง 130 ล้านครั้ง สะท้อนให้เห็นว่า SMS ยังคงเป็นช่องทางหลักที่มิจฉาชีพใช้ในการเข้าถึงเหยื่อ

สำหรับกลโกงที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ การหลอกขายสินค้าและบริการปลอม, การแอบอ้างเป็นหน่วยงาน, การหลอกให้กู้เงิน, การทวงหนี้ และการหลอกว่าเป็นหนี้ ซึ่งสอดคล้องกับสถิติการแจ้งความออนไลน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่พบว่าคดีหลอกลวงให้ซื้อขายสินค้า/บริการ, หลอกให้โอนเงิน และหลอกให้กู้เงิน มีจำนวนสูงถึง 534,000 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 27,000 ล้านบาท

Whoscall จับมือภาครัฐ สร้างเกราะป้องกันภัยไซเบอร์

นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก ประเทศไทย กล่าวว่า “บริษัทฯ มีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการมอบความรู้และเครื่องมือที่จำเป็นในการป้องกันตนเองจากมิจฉาชีพให้แก่ประชาชนและองค์กรต่างๆ… เราได้ถือโอกาสเชิญชวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญรณรงค์ที่กำลังจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 2 นี้ เพื่อยกระดับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ขับเคลื่อนสังคมไทยให้ปลอดภัยจากภัยไซเบอร์”

Whoscall

ด้าน พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการ สกมช. กล่าวว่า “สกมช. มุ่งเน้นการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์เชิงรุกอย่างต่อเนื่อง  พร้อมเดินหน้าสานต่อความร่วมมือกับWhoscall เพื่อขยายเครือข่ายการเฝ้าระวังภัย และยกระดับการแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชน ไม่ได้จำกัดเพียงการแจ้งเตือนเบอร์โทรศัพท์หรือข้อความ SMS เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงลิงก์อันตรายและภัยคุกคามทางดิจิทัลในทุกรูปแบบ”

พลตำรวจโท ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ บช.สอท. กล่าวว่า “ภัยอาชญกรรมทางไซเบอร์ถือเป็นวาระแห่งชาติ… เราพร้อมให้ความร่วมมือกับWhoscall ในการจัดกิจกรรมเสริมสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน… ทาง บช.สอท. จะรับเรื่องและข้อมูลลิงก์อันตรายที่Whoscall ตรวจพบ เพื่อนำไปสู่การเร่งปราบปรามปัญหาการหลอกลวงผ่านลิงก์ออนไลน์”

ความร่วมมือเชิงรุก สู่สังคมดิจิทัลที่ปลอดภัย

การเดินสายพบหน่วยงานภาครัฐของWhoscall ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาภัยคุกคามจากมิจฉาชีพออนไลน์ โดยได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่:

  • สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.): เพื่อหารือแนวทางการกำกับดูแลและป้องกันปัญหาการหลอกลวงผ่านโทรศัพท์และ SMS
  • สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.): เพื่อร่วมกันพัฒนากลไกเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยไซเบอร์
  • กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.): เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและร่วมมือในการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์
  • กองบัญชาการการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ: เพื่อร่วมมือในการสืบสวนสอบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางไซเบอร์
  • สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย: ส่งเสริมให้ตระหนักรู้และเตือนภัยประชาชน

Whoscall เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อคนไทย

นอกเหนือจากการร่วมมือกับภาครัฐWhoscall ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยป้องกันและเตือนภัยมิจฉาชีพออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้เพิ่มฟีเจอร์ตรวจสอบข้อมูลรั่วไหล เพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบได้ว่าข้อมูลส่วนตัวของตนเองรั่วไหลหรือไม่

การผนึกกำลังระหว่างWhoscall และหน่วยงานภาครัฐ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยในประเทศไทย การร่วมมือกันในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และปราบปรามมิจฉาชีพออนไลน์ จะช่วยลดความเสี่ยงและสร้างความเชื่อมั่นในการใช้เทคโนโลยีให้กับประชาชน

#Whoscall #มิจฉาชีพออนไลน์ #ภัยไซเบอร์ #โกโกลุก #สกมช #บชสอท #กสทช #เตือนภัยออนไลน์ #ข่าวเศรษฐกิจ #เทคโนโลยี #ความปลอดภัย

Related Posts