กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ท่ามกลางการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดสมาร์ทโฟน อินฟินิกซ์ (Infinix) แบรนด์ที่สร้างชื่อเสียงด้านความคุ้มค่าและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ได้สร้างความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญอีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนตระกูลโน้ตรุ่นล่าสุด Infinix NOTE 50 Series อย่างเป็นทางการในประเทศไทย การเปิดตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมทัพผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลาง แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงทิศทางของแบรนด์ที่มุ่งเน้นการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างลงตัว
พร้อมด้วยดีไซน์ที่หรูหราแข็งแกร่ง และเทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่พัฒนาไปอีกขั้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภคยุคดิจิทัล ตั้งแต่กลุ่มเกมเมอร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปที่มองหาความคุ้มค่าและฟังก์ชันครบครัน ไปจนถึงผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ 5G ในราคาที่เข้าถึงได้
การมาถึงของ Infinix NOTE 50 Series ถือเป็นการตอกย้ำจุดยืนของอินฟินิกซ์ในฐานะแบรนด์ที่เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย โดยเฉพาะกลุ่มคน Gen Z ที่มองหาอุปกรณ์ที่ไม่เพียงแต่มีสเปกที่แรง แต่ยังต้องมีดีไซน์ที่โดดเด่นและฟีเจอร์ที่ทันสมัย อินฟินิกซ์ได้นำเสนอเทคโนโลยีที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะอย่าง One-Tap Infinix AI ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ AI เป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่พร้อมตอบทุกคำถามและอำนวยความสะดวกในการใช้งานต่างๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส
นอกจากนี้ เทคโนโลยี All-Round FastCharge 3.0 ยังเข้ามาแก้ปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ ด้วยการรองรับระบบการชาร์จที่หลากหลายและรวดเร็ว ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี การออกแบบตัวเครื่องด้วย Metal Frame ไม่เพียงแต่เพิ่มความพรีเมียม แต่ยังเสริมความแข็งแรงทนทาน ทำให้ NOTE 50 Series เป็นสมาร์ทโฟนที่ครบเครื่องทั้งรูปลักษณ์และประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
เจาะลึก 3 รุ่นเด่น ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
Infinix NOTE 50 Series เปิดตัวพร้อมกันถึง 3 รุ่น เพื่อให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ รุ่นเรือธง NOTE 50 Pro+ 5G, รุ่นกลาง NOTE 50 Pro และรุ่นเริ่มต้นสำหรับ 5G อย่าง NOTE 50s 5G
1. Infinix NOTE 50 Pro+ 5G: เรือธงตัวจริง อัดแน่นเทคโนโลยีขั้นสุด
สำหรับผู้ที่ต้องการที่สุดของประสบการณ์ อินฟินิกซ์นำเสนอ NOTE 50 Pro+ 5G สมาร์ทโฟนเรือธงที่รวมทุกความสุดยอดไว้ในเครื่องเดียว ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังชิปเซ็ต MediaTek Dimensity D8350 Ultimate 5.5G Processor ที่รองรับเทคโนโลยี 5.5G ใหม่ล่าสุด การันตีความเร็วแรงในการประมวลผล ไม่ว่าจะเล่นเกมกราฟิกสูง สตรีมมิงคอนเทนต์ความละเอียดสูง หรือทำงานแบบ Multitasking ก็ลื่นไหลไม่มีสะดุด เสริมทัพด้วยหน่วยความจำ RAM 12GB ที่สามารถขยายเพิ่มได้สูงสุดถึง 24GB ผ่านเทคโนโลยี Memory Fusion และ ROM 256GB ให้พื้นที่จัดเก็บข้อมูลอย่างจุใจ
จุดเด่นสำคัญที่ทำให้ NOTE 50 Pro+ 5G แตกต่าง คือเทคโนโลยี All-Round Fast Charge 3.0 ที่รองรับการชาร์จไวแบบมีสายสูงถึง 100W และการชาร์จแบบไร้สาย 50W ตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบได้อย่างสมบูรณ์แบบ ควบคู่ไปกับแบตเตอรี่ความจุ 5200 mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน ไม่เพียงเท่านั้น อินฟินิกซ์ยังให้ความสำคัญกับความทนทาน ด้วยโครงสร้าง ArmorAlloy™ และดีไซน์ Metal Frame ที่ผ่านการทดสอบการตกกระแทกอย่างเข้มข้นถึง 99,999 ครั้ง มั่นใจได้ในทุกสถานการณ์การใช้งาน
ด้านการถ่ายภาพ NOTE 50 Pro+ 5G ก้าวไปอีกขั้นด้วยการใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX896 เป็นเลนส์หลัก พร้อมด้วยกล้อง Periscope ที่สามารถซูมแบบ Hybrid Zoom ได้ไกลถึง 100 เท่า ทำให้การถ่ายภาพระยะไกลกลายเป็นเรื่องง่าย กล้องหลังความละเอียด 50MP มาพร้อมระบบกันสั่น OIS ช่วยให้ภาพถ่ายคมชัดแม้ในที่แสงน้อยหรือในเวลากลางคืน และเป็นครั้งแรกของ NOTE Series ที่มาพร้อมเลนส์ Ultra-Wide 112° FOV (0.6X) เก็บภาพมุมกว้างและภาพหมู่ได้อย่างครบถ้วน
นอกเหนือจากฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง NOTE 50 Pro+ 5G ยังยกระดับประสบการณ์ด้วยฟีเจอร์ AI อัจฉริยะ One-Tap Infinix AI ผู้ช่วยส่วนตัวที่พร้อมตอบทุกคำถาม และฟีเจอร์ใหม่ Bio Active Halo ที่สามารถแสดงข้อมูลสุขภาพเบื้องต้นได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม แสดงผลผ่านหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz ให้ภาพที่ลื่นไหล สวยงามสมจริง พร้อมระบบความปลอดภัย In-display Fingerprint สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
Infinix NOTE 50 Pro+ 5G วางจำหน่ายในราคา 13,999 บาท มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Racing Edition, Titanium Grey (เทา), และ Enchanted Purple (ม่วง) พิเศษสุดสำหรับผู้ซื้อในช่วงเปิดตัว รับฟรีอุปกรณ์ชาร์จไร้สาย MagPad และ MagCase พร้อมชุดของขวัญ NOTE 50 Series Gift รวมมูลค่าสูงสุด 3,198 บาท นับเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มองหาสมาร์ทโฟนเรือธงที่ครบเครื่องในราคาที่คุ้มค่า
2. Infinix NOTE 50 Pro: สเปกครบ ดีไซน์เฉียบ ในราคาสบายกระเป๋า
สำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพดีในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น Infinix NOTE 50 Pro คือตัวเลือกที่น่าสนใจ แม้จะเป็นรุ่นรอง แต่ยังคงอัดแน่นด้วยสเปกและเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างดีเยี่ยม ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Helio G100 ที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.78 นิ้ว ให้ภาพสวยงาม คมชัด
ด้านการถ่ายภาพ ให้กล้องหลังมา 3 ตัว ความละเอียด 50MP และ 8MP พร้อมกล้องหน้าความละเอียด 32MP สำหรับการเซลฟี่ที่สวยงาม หน่วยความจำให้มาอย่างจุใจด้วย RAM 12GB (ขยายได้สูงสุด 24GB) และ ROM 256GB แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5200 mAh ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน
Infinix NOTE 50 Pro มีให้เลือก 2 สี คือ Racing Edition และ Titanium Grey (เทา) วางจำหน่ายในราคา 8,499 บาท โดยมีจำหน่ายเฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่า ดีไซน์สวยงาม และสเปกครบครัน
3. Infinix NOTE 50s 5G: ก้าวสู่ประสบการณ์ 5G สุดคุ้ม
ปิดท้ายด้วย Infinix NOTE 50s 5G สมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาเพื่อผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ 5G ในราคาที่เข้าถึงง่ายที่สุด ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity D7300 Ultimate ที่รองรับเครือข่าย 5G เต็มรูปแบบ พร้อมประสิทธิภาพที่ตอบสนองการใช้งานและความบันเทิงได้อย่างครบครัน โดดเด่นด้วยหน้าจอ AMOLED โค้ง 3D ขนาด 6.78 นิ้ว ที่มีอัตรารีเฟรชสูงถึง 144Hz มอบประสบการณ์การรับชมและการสัมผัสที่ลื่นไหลเหนือระดับ
แบตเตอรี่ให้มาจุใจ 5200 mAh พร้อมรองรับเทคโนโลยีชาร์จไว 45W หน่วยความจำ RAM 8GB สามารถขยายเพิ่มได้อีก 8GB รวมเป็น 16GB และ ROM 256GB เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป ดีไซน์ตัวเครื่องยังคงความพรีเมียมด้วย True Metal Frame ที่แข็งแรงทนทาน และไม่ลืมที่จะใส่ฟีเจอร์ One-Tap AI ผู้ช่วยอัจฉริยะมาให้เช่นกัน
สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษสำหรับ NOTE 50s 5G คือการเป็นสมาร์ทโฟนพาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการของการแข่งขัน PUBG MOBILE National Championship (PMNC) Thailand 2025 ตอกย้ำถึงประสิทธิภาพและความแรงที่พร้อมตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์ได้อย่างแน่นอน
Infinix NOTE 50s 5G มีให้เลือก 2 สี คือ Marine Drift Blue (ฟ้า) และ Titanium Grey (เทา) วางจำหน่ายในราคาเพียง 7,999 บาท ถือเป็นสมาร์ทโฟน 5G ที่คุ้มค่าที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดขณะนี้
การวางจำหน่ายและช่องทาง
Infinix NOTE 50 Series ทั้ง 3 รุ่น จะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน 2568 เป็นต้นไป ผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ชั้นนำ ได้แก่ Shopee Mall, LazMall และ TikTok Shop รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายชั้นนำอย่าง BaNANA, Jaymart, IT City และ TG FONE ในสาขาที่ร่วมรายการ
การเปิดตัว Infinix NOTE 50 Series ครั้งนี้ นับเป็นการรุกตลาดสมาร์ทโฟนครั้งสำคัญของอินฟินิกซ์ ที่ไม่เพียงแต่นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายครอบคลุมทุกความต้องการ แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยี AI และนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่ผู้บริโภคในราคาที่เข้าถึงได้ ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคชาวไทย และสร้างความคึกคักให้กับตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงระดับเริ่มต้นได้อย่างแน่นอน
เกี่ยวกับ Infinix: Infinix Mobility เป็นแบรนด์เทคโนโลยีที่เติบโตอย่างรวดเร็ว มุ่งเน้นการออกแบบ ผลิต และจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทั่วโลกภายใต้แบรนด์ Infinix ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยมีเป้าหมายที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ นำเสนอเทคโนโลยีชั้นนำผ่านอุปกรณ์ที่ทันสมัย ทรงพลัง ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อนำเทคโนโลยีล่าสุดสู่ตลาดผู้ใช้ทั่วโลกในเวลาและราคาที่เหมาะสม
#InfinixThailand #InfinixNOTE50Series #เร็วแรงในทุกการใช้งาน #Note50SeriesxPUBG #สมาร์ทโฟน #มือถือใหม่ #มือถือ5G #Infinix #AI #FastCharge
