บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NT) เดินหน้าครั้งสำคัญ ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Shanghai Spacesail Technologies Co., Ltd. (SPACESAIL) ผู้พัฒนากลุ่มดาวเทียมวงโคจรต่ำ (Low Earth Orbit – LEO) ชั้นนำจากจีน การลงนามข้อตกลงซึ่งมีขึ้น ณ งาน China Space Conference 2025 นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2568 นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศไทย เสริมศักยภาพการแข่งขัน และขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอาเซียน (ASEAN Digital Hub) อย่างเต็มรูปแบบ
ท่ามกลางภูมิทัศน์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสื่อสารผ่านดาวเทียมกำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีดาวเทียมวงโคจรต่ำ หรือ LEO ซึ่งมีศักยภาพในการปฏิวัติการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทั่วโลก ด้วยการโคจรใกล้พื้นโลกมากกว่าดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้า (Geostationary Orbit – GEO) แบบดั้งเดิม ทำให้ดาวเทียม LEO สามารถให้บริการอินเทอร์เน็ตที่มีค่าความหน่วงต่ำ (Low Latency) และความเร็วสูง เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการการตอบสนองแบบเรียลไทม์ เช่น การประชุมทางวิดีโอ เกมออนไลน์ หรือการควบคุมทางไกล เทคโนโลยีนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล (Digital Divide) โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ที่โครงข่ายภาคพื้นดินเข้าถึงได้ยาก
บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT รัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลของไทย ซึ่งเกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) (CAT) และ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT) เมื่อปี 2564 ได้ตระหนักถึงความสำคัญและศักยภาพของเทคโนโลยี LEO ในการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติด้านเศรษฐกิจดิจิทัล NT มีบทบาทสำคัญในการบริหารจัดการและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมหลักของประเทศ ทั้งเครือข่ายเคเบิลภาคพื้นดินและเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ รวมถึงบริการดิจิทัลอื่น ๆ เช่น Cloud Computing, Cybersecurity และ Big Data โดยมีเป้าหมายหลักในการสนับสนุนนโยบาย Digital Thailand และ Thailand 4.0 ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Digital Hub)
การลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Shanghai Spacesail Technologies Co., Ltd. (SPACESAIL) จึงเป็นก้าวสำคัญที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ดังกล่าว SPACESAIL เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอวกาศของจีน ที่กำลังพัฒนาและทะยานขึ้นมาเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาด LEO ระดับโลก ซึ่งปัจจุบันมี SpaceX ของ อีลอน มัสก์ เป็นผู้นำตลาดด้วยโครงการ Starlink SPACESAIL มีแผนทะเยอทะยานในการส่งดาวเทียม LEO ขึ้นสู่วงโคจรกว่า 14,000 – 15,000 ดวง โดยมีเป้าหมายให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ปลอดภัย และเชื่อถือได้ทั่วโลก บริษัทฯ ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว โดยมีการส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรอย่างต่อเนื่อง และเริ่มสร้างเครือข่ายในระดับภูมิภาค ก่อนหน้านี้ SPACESAIL ได้ลงนามความร่วมมือกับหน่วยงานโทรคมนาคมในบราซิลและมาเลเซียแล้ว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการขยายบริการสู่ตลาดนานาชาติ
พันเอก สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า “ในฐานะรัฐวิสาหกิจด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและดิจิทัลของประเทศ NT ตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจอวกาศที่มีบทบาทสำคัญในยุคดิจิทัล พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการสื่อสารผ่านดาวเทียมในภูมิภาค โดยสนับสนุนการประยุกต์ใช้โซลูชั่นดิจิทัล และเปิดโอกาสให้ภาคธุรกิจ ภาครัฐ และสตาร์ตอัปด้านอวกาศเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายที่ทันสมัย”
ภายใต้ข้อตกลงนี้ NT และ SPACESAIL จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด โดยจะใช้ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญของทั้งสองฝ่ายในการพัฒนาและให้บริการเครือข่ายบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียม LEO ของ SPACESAIL ในประเทศไทย เป้าหมายหลักคือการเพิ่มศักยภาพการสื่อสารผ่านดาวเทียม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกลที่โครงข่ายไฟเบอร์ออปติกหรือสัญญาณมือถือภาคพื้นดินยังเข้าไม่ถึง หรือเข้าถึงได้อย่างจำกัด แม้ว่าประเทศไทยจะมีความก้าวหน้าอย่างมากในการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทั้งโครงการเน็ตประชารัฐที่เข้าถึงกว่า 75,000 หมู่บ้าน และการขยายเครือข่าย 5G ที่ครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ แต่ก็ยังคงมีช่องว่างในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตคุณภาพสูงในบางพื้นที่ ซึ่งเทคโนโลยี LEO จะเข้ามาตอบโจทย์ในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี
พันเอก สรรพชัยย์ กล่าวเสริมว่า “NT และ SPACESAIL จะใช้ทรัพยากรร่วมกันในการให้บริการเครือข่าย บรอดแบนด์ผ่านดาวเทียมในวงโคจรต่ำ SPACESAIL เพื่อเพิ่มศักยภาพการสื่อสารผ่านดาวเทียมในพื้นที่ที่ห่างไกลของประเทศไทย รวมถึงการใช้งานบรอดแบนด์ผ่านดาวเทียม การพัฒนาโซลูชั่นดิจิทัลและร่วมกันพัฒนาโมเดลธุรกิจใหม่สำหรับดาวเทียมวงโคจรต่ำ ซึ่งไม่เพียงยกระดับศักยภาพด้านการสื่อสารผ่านดาวเทียม แต่ยังเพิ่มโอกาสในการพัฒนาโซลูชั่นดิจิทัลใหม่ ๆ ที่สร้างประโยชน์ร่วมกันทั้งในระดับองค์กรและระดับประเทศ”
ความร่วมมือนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการร่วมกันพัฒนาโซลูชั่นดิจิทัลและโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี LEO ซึ่งจะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับภาคเอกชน ผู้ประกอบการ และสตาร์ทอัปไทยในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอวกาศและการสื่อสาร สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม นอกจากนี้ การมีโครงข่ายสื่อสารที่ครอบคลุมและมีเสถียรภาพมากขึ้น ยังช่วยสนับสนุนการทำงานของภาครัฐในการให้บริการประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังที่เคยมีการทดลองใช้ดาวเทียม LEO เพื่อสนับสนุนการศึกษาทางไกลและการแพทย์ทางไกลในพื้นที่ห่างไกลของไทยมาแล้ว
การลงนามข้อตกลง ณ งาน China Space Conference 2025 ซึ่งเป็นงานประชุมด้านอวกาศที่สำคัญของจีน ยังสะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างไทยและจีนในด้านเทคโนโลยีอวกาศและดิจิทัล ภายใต้กรอบความร่วมมือระดับภูมิภาคและระดับโลก
โดยสรุป ความร่วมมือระหว่างNT และ SPACESAIL ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทย เป็นการนำเทคโนโลยีสื่อสารผ่านดาวเทียม LEO ที่ล้ำสมัยเข้ามาเสริมทัพโครงข่ายภาคพื้นดินที่มีอยู่เดิม เพื่อลดช่องว่างทางดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายการเป็นสังคมดิจิทัลที่ยั่งยืนและศูนย์กลางดิจิทัลแห่งอาเซียนได้อย่างแท้จริง ความร่วมมือนี้ไม่เพียงแต่จะนำมาซึ่งโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ แต่ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร บริการ และโอกาสต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียมมากยิ่งขึ้นในยุคดิจิทัล
#NT #SPACESAIL #ดาวเทียมวงโคจรต่ำ #LEO #บรอดแบนด์ #อินเทอร์เน็ตดาวเทียม #เศรษฐกิจดิจิทัล #โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล #โทรคมนาคม #ไทยแลนด์4.0 #ASEANDigitalHub #เทคโนโลยีอวกาศ #ความร่วมมือไทยจีน #DigitalDivide #NetPracharat
