สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ประกาศผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศโครงการ “ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID” โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners”. ท่ามกลางบรรยากาศการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและไอเดียสร้างสรรค์ ทีม AINU ได้สร้างปรากฏการณ์คว้าชัยชนะด้วยโซลูชัน “TH Welcome ID”
โซลูชัน “TH Welcome ID” เป็นแพลตฟอร์ม Digital ID สำหรับชาวต่างชาติในประเทศไทย ที่มุ่งเน้นให้ชาวต่างชาติสามารถเข้าถึงบริการและยืนยันตัวตนกับทั้งภาครัฐและเอกชนได้อย่างสะดวกและน่าเชื่อถือ. โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความสามารถในการตรวจสอบ. แนวคิดหลักของโซลูชันนี้คือ “สสส” ซึ่งหมายถึง “สะดวก สบายใจ และสอดรับความมั่นคง” เพื่อสร้างตัวตนดิจิทัลที่ทุกฝ่ายวางใจได้
ความสำเร็จของทีม AINU ในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ได้รับเงินรางวัล 100,000 บาทเท่านั้น. แต่ยังได้รับโอกาสอันล้ำค่าในการต่อยอดโซลูชัน Digital ID สำหรับคนต่างด้าวสู่การใช้งานจริง. นับเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับระบบ Digital ID ของประเทศไทยให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและสร้างความเชื่อมั่นในการทำธุรกรรมออนไลน์สำหรับทุกคน
นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข รองผู้อำนวยการ ETDA ได้กล่าวถึงความสำคัญของเวที ETDA Hackathon ว่าเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้นักพัฒนา ผู้เชี่ยวชาญ และผู้มีใจรักในนวัตกรรม ได้มาผนึกกำลังออกแบบโซลูชันที่จะพลิกโฉมหน้าของการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล. โดยมีเป้าหมายหลักในการเชื่อมโยงกับระบบที่มีอยู่เดิมให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตลอดจนต่อยอดไปสู่การใช้งานจริงและขยายผลในอนาคต
ETDA เชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า พลังแห่งความร่วมมือและความคิดสร้างสรรค์ที่หลั่งไหลออกมาจากเวทีนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการผลักดันให้ประเทศไทยมีระบบ Digital ID ที่แข็งแกร่ง สามารถรองรับความหลากหลายของกลุ่มผู้ใช้งาน รวมถึงคนต่างด้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ. การมีระบบ Digital ID ที่ดีจะนำไปสู่การสร้างความเชื่อมั่นในการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้ก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง
การแข่งขัน ETDA Hackathon ภายใต้โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” ในครั้งนี้ ได้เปิดกว้างสำหรับผู้เข้าแข่งขันในการออกแบบและพัฒนาโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของคนต่างด้าว. ตั้งแต่กระบวนการลงทะเบียนเพื่อยืนยันตัวตน การเข้าถึงข้อมูลและบริการที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน การทำธุรกรรมทางการเงินที่สะดวกและปลอดภัย การใช้บริการด้านสุขภาพที่เข้าถึงง่าย ไปจนถึงการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ. ETDA ได้ตั้งเกณฑ์การพิจารณาที่ครอบคลุมและเข้มงวด โดยมองหาโซลูชันที่ไม่เพียงแต่ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเท่านั้น หากแต่ยังต้องคำนึงถึงประสบการณ์ของผู้ใช้งาน (UX/UI) เป็นสำคัญ. นอกจากนี้ ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy & Security) การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง (Compliance) และที่สำคัญที่สุดคือ ศักยภาพในการนำไปพัฒนาต่อยอดและใช้งานได้จริง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่เอื้ออำนวยและเป็นมิตรกับทุกคน ก็เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสิน
เส้นทางการแข่งขันสำหรับโจทย์ที่ 2 นี้ ได้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการเปิดรับสมัครสำหรับโจทย์แรก และได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากทีมผู้พัฒนาและนักออกแบบ. หลังจากผ่านกระบวนการคัดเลือกที่เข้มข้นและมีการแข่งขันสูง ในที่สุดก็ได้ 10 ทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ได้แก่ ทีม AINU, ทีม BCI : Human Right คนนี้แหละใช่จริงจริง, ทีม Davoy, ทีม Global Helpcare Solutions, ทีม InDistinct, ทีม keroro, ทีม Lorem Dimsum, ทีม Onochayama, ทีม Zimplexity และทีมแพวบุ้คต๊ะฟ้า
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับทั้ง 10 ทีม ETDA ได้จัดกิจกรรม Pre-Hack Workshop ขึ้น โดยเฉพาะ Workshop ครั้งที่ 3 ได้เน้นเนื้อหาที่สำคัญและ Use Cases ที่เกี่ยวข้องกับ Digital ID for Foreigners โดยตรง. ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก ETDA, สำนักงาน กสทช. และสำนักสุขภาพดิจิทัล กระทรวงสาธารณสุข ได้มาร่วมแบ่งปันความรู้และประสบการณ์. นอกจากนี้ ยังมีการให้คำปรึกษาแบบ One-on-One เพื่อช่วยลับคมไอเดียของแต่ละทีมและเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ก่อนเข้าสู่การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ
ในวันชิงชนะเลิศ (17 พฤษภาคม 2568) ทุกทีมได้ขึ้นเวทีนำเสนอผลงาน (Pitching) ต่อหน้าคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งประกอบด้วยผู้บริหารจากหน่วยงานชั้นนำทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง. อาทิ ผู้บริหารจาก ETDA, สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา, สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง, สำนักสุขภาพดิจิทัล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และพันธมิตรภาคเอกชน. การมีคณะกรรมการจากหลากหลายภาคส่วนเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ETDA ในการบูรณาการมุมมองที่หลากหลาย เพื่อเฟ้นหาสุดยอดนวัตกรรมที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุม
หลังจากกระบวนการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนและรอบคอบ โดยคำนึงถึงแนวคิดของโซลูชันที่หลากหลายและศักยภาพในการตอบโจทย์ความต้องการของคนต่างด้าว ตั้งแต่การลดขั้นตอนที่ยุ่งยากในการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัล การเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่พึงได้รับ ไปจนถึงการสร้างความมั่นใจในการทำธุรกรรมออนไลน์ ในที่สุดผลการแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID โจทย์ที่ 2 “Digital ID for Foreigners” รอบไฟนอล ก็ได้ถูกประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
โดยทีมที่คว้ารางวัลชนะเลิศไปครองคือ ทีม AINU กับผลงาน “TH Welcome ID” ซึ่งได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท. ตามมาด้วยรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ซึ่งได้แก่ ทีม ZIMPLEXITY กับผลงาน “FDID (Foreign Digital ID)” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยืนยันตัวตนดิจิทัลสำหรับคนต่างด้าว ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ ที่มีความปลอดภัยสูง และสามารถเชื่อมต่อกับภาครัฐและเอกชน เพื่อลดการใช้เอกสาร และต่อยอดบริการต่าง ๆ เช่น การเปิดบัญชี, การลงทะเบียนซิมมือถือ และบริการด้านสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ทีม ZIMPLEXITY ได้รับเงินรางวัล 50,000 บาท. และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีม ONOCHAYAMA จากผลงาน “ระบบ Onochayama Identity” ซึ่งเป็นโซลูชันเพื่อการกระจายศูนย์การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าและลายนิ้วมือสำหรับ Digital ID โดยเชื่อมต่อข้อมูลสำหรับเจ้าหน้าที่และผู้ใช้แรงงานต่างด้าว พร้อมจัดเก็บข้อมูลในฐานข้อมูลเข้ารหัส เพื่อความปลอดภัย. ทีม ONOCHAYAMA ได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท
นอกจากเงินรางวัลแล้ว ทุกทีมที่ได้รับรางวัลยังได้รับประกาศนียบัตร (e-Certificate) จาก ETDA เพื่อเป็นเกียรติและเป็นกำลังใจในการพัฒนาผลงานต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น ETDA ยังได้เตรียมโอกาสพิเศษในการต่อยอดนวัตกรรมสู่การใช้งานจริง โดยจะมีการจัดกิจกรรม “Partnership Meeting” เพื่อให้ทีมผู้ชนะจากทั้งสองโจทย์การแข่งขัน ได้มีโอกาสร่วมหารือแนวทางการพัฒนาและต่อยอดผลงานกับเหล่าพันธมิตรโครงการทั้งภาครัฐและเอกชน. และกิจกรรม “Business Matching” เพื่อสร้างเครือข่ายและโอกาสทางธุรกิจให้กับทีมผู้ชนะ. รวมถึงโอกาสในการนำเสนอผลงานบนเวที Tech Showcase Stage ในงาน Techsauce Global Summit 2025 ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพของเทคโนโลยีและนวัตกรรม
นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของ ETDA ในการผลักดัน Digital ID ว่า “ในฐานะที่ ETDA เป็นหน่วยงานที่มุ่งมั่นส่งเสริมและพัฒนาระบบนิเวศดิจิทัลของไทย โดยเน้นการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน (Co-Creation Regulator) เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า พลังแห่งความร่วมมือและสุดยอดไอเดียที่เกิดขึ้นจากเวที ETDA Hackathon ทั้งสองโจทย์ในปีนี้ จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานด้าน Digital ID ที่แข็งแกร่ง ทันสมัย น่าเชื่อถือ และครอบคลุมผู้ใช้งานทุกกลุ่ม รวมถึงคนต่างด้าว”
“ผลลัพธ์ที่ได้จากการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซลูชันสำหรับ Digital ID for Foreigners จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างอนาคตที่ชัดเจนของการประยุกต์ใช้ Digital ID เพื่ออำนวยความสะดวก สร้างความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ ETDA พร้อมสนับสนุนและทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้นวัตกรรมเหล่านี้สามารถนำไปใช้งานได้จริง สร้างประโยชน์ให้กับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างยั่งยืน” นางสาวจิตสถา ศรีประเสริฐสุข กล่าวทิ้งท้าย
การแข่งขัน ETDA Hackathon: Unlocking the Future of Digital ID ทั้งสองโจทย์ ได้ปิดฉากลงด้วยความสำเร็จอย่างงงาม. ETDA ได้แสดงความขอบคุณต่อผู้เข้าแข่งขันทุกทีม พันธมิตรทุกองค์กร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ร่วมกันจุดประกายความคิดและปลดล็อกอนาคต Digital ID ของประเทศไทย. และได้เชิญชวนให้ติดตามกิจกรรมและโครงการดี ๆ จาก ETDA ที่จะช่วยยกระดับชีวิตดิจิทัลของคนไทยให้มั่นคงและปลอดภัยได้ทางเฟซบุ๊ก ETDA Thailand (www.facebook.com/ETDA.Thailand)
#ETDAHackathon #DigitalID #คนต่างด้าว #เทคโนโลยีดิจิทัล #นวัตกรรม #เศรษฐกิจดิจิทัล #TechsauceGlobalSummit #Thailand #Tech