AIS หัวเว่ย เปิดตัว AI Calling ครั้งแรกในโลก แปลภาษาเรียลไทม์ผ่าน 5G

AIS หัวเว่ย เปิดตัว AI Calling ครั้งแรกในโลก แปลภาษาเรียลไทม์ผ่าน 5G

เอไอเอส ประกาศความร่วมมือ หัวเว่ย เทคโนโลยี เปิดตัว “AI Calling” นวัตกรรมการสื่อสารสุดล้ำบนเครือข่าย 5G แปลภาษาแบบเรียลไทม์ระหว่างการโทรครั้งแรกของโลก ยกระดับประสบการณ์การสื่อสารไร้พรมแดน ตอบโจทย์ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ เริ่มมิถุนายนนี้บนสมาร์ทโฟนหัวเว่ยรุ่นเรือธง

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและเครือข่ายอัจฉริยะของไทย สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอีกครั้ง ด้วยการจับมือกับ หัวเว่ย เทคโนโลยี ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศความสำเร็จในการร่วมทดสอบและเตรียมเปิดให้บริการ “AI Calling” ซึ่งเป็นฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ระหว่างการโทรศัพท์ครั้งแรกของโลก

บริการนี้จะทำงานบนเครือข่าย AIS 5G เท่านั้น โดยไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มเติม นับเป็นการปฏิวัติวิธีการสื่อสารข้ามภาษา ยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานสู่ความเป็นเลิศ และตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นองค์กรเทคโนโลยีโทรคมนาคมอัจฉริยะ (Cognitive Tech-Co) ที่มุ่งมั่นนำนวัตกรรมแห่งอนาคตมาสู่ผู้บริโภคชาวไทยก่อนใคร

พลิกโฉมการสื่อสารด้วย AI อัจฉริยะบนเครือข่าย 5G

การเปิดตัวบริการ “AI Calling” ถือเป็นก้าวสำคัญของ AIS ในการเสริมสร้างศักยภาพโครงข่ายอัจฉริยะ (Autonomous Network) ให้มีความสามารถที่เหนือกว่าเดิม โดยนวัตกรรมนี้เป็นการผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ากับความเร็วและความเสถียรของเครือข่าย 5G เพื่อทลายกำแพงภาษาที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการสื่อสารระหว่างประเทศ บริการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถพูดคุยด้วยภาษาของตนเอง ในขณะที่คู่สนทนาปลายทางจะได้ยินเสียงเป็นภาษาที่ตนเองเข้าใจได้ทันที ซึ่งเป็นการแปลภาษาแบบเสียงต่อเสียง (Voice-to-Voice) แบบเรียลไทม์อย่างแท้จริง

นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวถึงความร่วมมือและนวัตกรรมครั้งนี้ว่า “AIS AI Calling เป็นบริการที่เราพัฒนาร่วมกับ Huawei พันธมิตรเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อยกระดับการสื่อสารให้ล้ำสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถพูดในภาษาของตนเอง ขณะที่ปลายสายจะได้ยินเป็นอีกภาษาหนึ่งทันที ช่วยลดข้อจำกัดด้านภาษาในการสื่อสารในชีวิตประจำวัน ทั้งด้านการท่องเที่ยว ธุรกิจ และงานบริการ ถือเป็นรายแรกของโลกที่ให้บริการแปลภาษาแบบ Voice-to-Voice Real-Time บนเครือข่ายโทรศัพท์ นับเป็นก้าวสำคัญในการนำนวัตกรรม AI ผสานกับโครงข่าย 5G เพื่อยกระดับการใช้งานของผู้ใช้ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในโลกที่การเชื่อมต่อไร้พรมแดนเป็นสิ่งจำเป็น”

คำกล่าวของนายศรัณย์สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ AIS ที่จะนำเทคโนโลยีเข้ามาแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในยุคปัจจุบัน ซึ่งการสื่อสารที่ไร้ขีดจำกัดทางภาษาจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในหลากหลายมิติ

AI Calling

ฟีเจอร์เด่นของ AI Calling และการใช้งานจริง

บริการ AI Calling ไม่ได้เป็นเพียงแนวคิด แต่เป็นนวัตกรรมที่พร้อมใช้งานจริงและตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ด้วยคุณสมบัติเด่นหลายประการ:

  1. การแปลภาษาแบบ Voice-to-Voice Real-Time: ผู้ใช้งานสามารถสนทนาโต้ตอบกันได้ทันทีด้วยภาษาของตนเอง โดยระบบ AI จะทำการแปลและส่งเสียงที่แปลแล้วไปยังปลายสายแบบเรียลไทม์ ทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ
  2. ใช้งานง่ายผ่านเครือข่าย AIS 5G: จุดเด่นสำคัญคือความสะดวกสบาย ผู้ใช้บริการเครือข่าย AIS 5G สามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องดาวน์โหลดหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใดๆ เพิ่มเติม ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากและทำให้เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น
  3. รองรับหลากหลายสถานการณ์: ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อธุรกิจระหว่างประเทศ การเดินทางท่องเที่ยวในต่างแดน หรือแม้แต่การให้บริการลูกค้าชาวต่างชาติ AI Calling จะช่วยให้การสื่อสารเป็นเรื่องง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  4. การแปลภาษาแบบ Voice-to-Text พร้อมซับไตเติ้ล: นอกจากการแปลเสียงพูดแล้ว AI Calling ยังมีความสามารถในการแปลเสียงเป็นข้อความ (Voice-to-Text) โดยจะแสดงคำแปลเป็นซับไตเติ้ลบนหน้าจอสมาร์ทโฟนแบบคำต่อคำอย่างแม่นยำและต่อเนื่อง ฟีเจอร์นี้ช่วยเสริมความเข้าใจและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์ที่อาจมีเสียงรบกวน หรือต้องการบันทึกรายละเอียดการสนทนา

ในระยะแรก ฟีเจอร์ Voice-to-Voice จะรองรับ 3 ภาษาหลัก ได้แก่ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ส่วนฟีเจอร์ Voice-to-Text จะรองรับภาษาอังกฤษและภาษาจีน โดยบริการนี้จะพร้อมใช้งานบนสมาร์ทโฟนรุ่น HUAWEI Mate XT | ULTIMATE DESIGN และ HUAWEI Mate X6 ภายในเดือนมิถุนายน 2568 และ AIS มีแผนที่จะขยายการรองรับไปยังสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ รวมถึงเพิ่มจำนวนภาษาที่รองรับในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและนัยสำคัญต่อประเทศไทย

การเปิดตัวบริการ AI Callingไม่เพียงแต่เป็นการยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้งาน AIS เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง ดังนี้:

  • ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและบริการ: ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก การสื่อสารที่คล่องตัวขึ้นด้วย AI Callingจะช่วยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ลดปัญหาความเข้าใจผิด และสร้างความประทับใจในการเดินทาง ขณะเดียวกัน ธุรกิจบริการ โรงแรม ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ จะสามารถให้บริการลูกค้าชาวต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สร้างโอกาสในการเพิ่มรายได้และยกระดับมาตรฐานการบริการสู่สากล
  • ขับเคลื่อนธุรกิจระหว่างประเทศ: ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันสูง การสื่อสารที่รวดเร็วและแม่นยำเป็นหัวใจสำคัญ AI Callingจะช่วยให้นักธุรกิจไทยสามารถเจรจาการค้า ติดต่อประสานงาน และสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรต่างชาติได้อย่างราบรื่น ลดอุปสรรคทางภาษาที่อาจนำไปสู่ความล่าช้าหรือความผิดพลาดในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทยในตลาดโลก
  • กระตุ้นการใช้เทคโนโลยี 5G และ AI: การมีบริการที่เป็นรูปธรรมและตอบโจทย์ความต้องการเช่น AI Callingจะกระตุ้นให้ผู้บริโภคและภาคธุรกิจหันมาใช้งานเทคโนโลยี 5G และ AI มากขึ้น เป็นการสร้าง Use Case ที่ชัดเจน แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของโครงข่าย 5G ที่ AIS ได้ลงทุนไปมหาศาลด้วยคลื่นความถี่มากที่สุดรวม 1460 MHz และสนับสนุนการพัฒนา Ecosystem ของ AI ในประเทศไทย
  • ยกระดับภาพลักษณ์ประเทศไทยสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยี: ความสำเร็จในการเปิดตัวบริการ AI Callingเป็นครั้งแรกของโลก สะท้อนถึงศักยภาพของประเทศไทยและ AIS ในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล สิ่งนี้จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ดึงดูดการลงทุนด้านเทคโนโลยีจากต่างชาติ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) ด้านดิจิทัลในภูมิภาค
  • สร้างโอกาสใหม่ๆ ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล: เทคโนโลยีการแปลภาษาแบบเรียลไทม์นี้สามารถต่อยอดไปสู่การพัฒนาบริการและโซลูชันอื่นๆ อีกมากมายในอนาคต เช่น การประยุกต์ใช้ในระบบการศึกษาทางไกล การแพทย์ทางไกล (Telemedicine) หรือแม้แต่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่เข้าถึงผู้ชมได้หลากหลายภาษามากขึ้น เป็นการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล
  • สนับสนุนการทำงานขององค์กรระหว่างประเทศและแรงงานข้ามชาติ: ในประเทศไทยมีองค์กรระหว่างประเทศและแรงงานจากหลากหลายเชื้อชาติเข้ามาทำงานและอาศัยอยู่จำนวนมาก AI Callingจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันและการใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปอย่างราบรื่นยิ่งขึ้น ลดความขัดแย้งที่อาจเกิดจากความไม่เข้าใจทางภาษา และส่งเสริมความสามัคคีในสังคม

AIS กับบทบาทผู้นำในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล

การเปิดตัว AI Callingสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ AIS ที่มุ่งสู่การเป็น “องค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ” หรือ Cognitive Tech-Co โดย AIS ไม่ได้เป็นเพียงผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่ครอบคลุมใน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่:

  1. ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่: บนโครงข่ายอัจฉริยะ 5G ที่มีคลื่นความถี่มากที่สุดในประเทศ รวม 1460 MHz และมีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 45.7 ล้านเลขหมาย
  2. ธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง: ภายใต้แบรนด์ AIS 3BB FIBRE3 ที่มีจำนวนผู้ใช้งานกว่า 5.1 ล้านราย
  3. ธุรกิจบริการลูกค้าองค์กร: ให้บริการโซลูชันดิจิทัลครบวงจรแก่ภาคธุรกิจและองค์กรต่างๆ
  4. ธุรกิจบริการดิจิทัล: พัฒนาบริการดิจิทัลที่หลากหลายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนในยุคปัจจุบัน

ด้วยฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งรวมกว่า 50.8 ล้านราย (ข้อมูล ณ มีนาคม 2568) AIS จึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ การลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น AI Callingนี้ ไม่เพียงแต่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจดิจิทัลโดยรวมของประเทศ

บทสรุปและอนาคตของการสื่อสาร

การมาถึงของบริการ AI Callingโดย AIS และหัวเว่ย เทคโนโลยี นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงอนาคตของการสื่อสารที่เทคโนโลยี AI และเครือข่าย 5G จะเข้ามามีบทบาทในการทลายกำแพงภาษา สร้างความเชื่อมโยงที่ไร้พรมแดนอย่างแท้จริง บริการนี้ไม่เพียงแต่จะมอบความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการสื่อสารส่วนบุคคล แต่ยังเป็นการเปิดโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมอีกมากมายให้กับประเทศไทย

การเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายอัจฉริยะและนำเสนอนวัตกรรมที่ล้ำสมัยอย่างต่อเนื่องของ AIS จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ประเทศไทยก้าวทันโลกและสามารถแข่งขันได้ในเวทีสากล พร้อมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้นในยุคดิจิทัล

#AIS #Huawei #AICalling #5G #RealTimeTranslation #Innovation #CognitiveTechCo #DigitalCommunication #TechNews #EconomicImpact #Thailand #เอไอเอส #หัวเว่ย #แปลภาษาสด #นวัตกรรม #เครือข่ายอัจฉริยะ #สื่อสารไร้พรมแดน #เศรษฐกิจดิจิทัล

Related Posts