บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC) ประกาศศักดาผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง กวาดรายได้รวม 440.4 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 55.9 ล้านบาท พุ่งทะยาน 35.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สร้างสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ บริษัทฯ เดินหน้าเต็มกำลังด้วยกลยุทธ์สร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) อย่างต่อเนื่อง หลังผลิตภัณฑ์เรือธง “Clena ex” ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยยอดขายเติบโตกว่า 305% พร้อมรุกสร้างการรับรู้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพรและยาแผนปัจจุบัน ตอกย้ำเป้าหมายรายได้รวม 2,000 ล้านบาทภายในปี 2569 และยืนหยัดความเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของประเทศไทย
บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ทั้งประเภทยาสามัญและยาสามัญใหม่ รวมถึงผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจรที่ครอบคลุมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2568 (มกราคม – มีนาคม) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่นและต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ สามารถสร้างรายได้จากการขายและให้บริการรวมทั้งสิ้น 440.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) และเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 20.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ในส่วนของกำไรสุทธิ บริษัทฯ ทำได้ 55.9 ล้านบาท ขยายตัว 2% (QoQ) และเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 35.7% (YoY)
ความสำเร็จดังกล่าวเป็นผลพวงมาจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลยุทธ์การตลาดเชิงรุกแบบ 360 องศา ที่ผสมผสานทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์อย่างลงตัว ควบคู่ไปกับการทุ่มเทสร้าง Brand Awareness อย่างจริงจัง ผ่านการเลือกใช้พรีเซนเตอร์และอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงในการโฆษณาผลิตภัณฑ์ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและโปรโมชันที่น่าสนใจ รวมถึงการเข้าร่วมออกบูธแสดงสินค้าในงานประชุมวิชาการต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรง นอกจากนี้ ปัจจัยบวกอีกประการหนึ่งคือต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ที่ลดลงอันเนื่องมาจากการทยอยชำระคืนเงินกู้ยืมระหว่างปี ซึ่งส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
เมื่อพิจารณารายได้ตามกลุ่มผลิตภัณฑ์ จะเห็นการเติบโตที่น่าสนใจในหลายกลุ่ม โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบันประเภทยาสามัญและยาสามัญใหม่ (Generic Drugs and New Generic Drugs) ซึ่งเป็นหัวใจหลักในการสร้างรายได้ของ BLC ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยยอดขาย 317.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 15.7% และคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 72.2% ของรายได้รวมจากการขายและบริการทั้งหมด ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง (Cosmetics) แสดงการเติบโตที่โดดเด่นที่สุดถึง 55.7% สร้างรายได้ 66.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.0% ของรายได้รวม
ทางด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพร (Herbal Medicines) และกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร (Dietary Supplements) ก็มีการเติบโตที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน โดยเติบโต 18.0% และ 24.1% ตามลำดับ สร้างรายได้ 33.5 ล้านบาท และ 13.9 ล้านบาทตามลำดับ แม้ว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์ (Animal Product) จะมีรายได้ลดลงอยู่ที่ 1.9 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.4% ของรายได้รวม แต่บริษัทฯ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและกำลังอยู่ในระหว่างการขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Care) เพื่อตอบสนองต่อแนวโน้ม Pet Humanization หรือการดูแลสัตว์เลี้ยงเสมือนสมาชิกในครอบครัวที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยได้มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และเดินหน้าขยายตลาดควบคู่ไปกับการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายอย่างต่อเนื่อง ส่วนรายได้อื่น ๆ ของบริษัทฯ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 49% เป็น 7.3 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของกลยุทธ์การเติบโตโดยรวมที่บริษัทฯ ได้วางไว้
สำหรับแผนธุรกิจในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 BLC ยังคงมุ่งเน้นการสร้าง Brand Awareness อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยต่อยอดจากการเปิดตัวพรีเซนเตอร์สำหรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรและยาแผนปัจจุบันที่ได้ดำเนินการไปแล้วในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นผลลัพธ์และรับรู้รายได้จากการลงทุนดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะรีแพคเกจจิ้งผลิตภัณฑ์โพรไบโอติก Prozeus 15 และเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Fiber Bomb ภายใต้แบรนด์ BKD VIVA ซึ่งจะเน้นทำการตลาดและจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มยอดนิยมอย่าง Shopee และ TikTok
นอกจากนี้ บริษัทย่อยอย่าง BKD VIVA ยังมีแผนที่จะเปิดบูธจำหน่ายสินค้าในโรงพยาบาลให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน เพื่อขยายช่องทางการเข้าถึงลูกค้า และเดินหน้าทำการตลาดสำหรับสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง (High-Margin Products) รวมถึงสินค้ายอดนิยมอื่น ๆ ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์อย่างต่อเนื่อง BLC ยังเตรียมที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ยาสามัญใหม่อีก 2 รายการ เพื่อบุกตลาดโรงพยาบาลโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศาที่วางไว้
ความสำเร็จที่โดดเด่นและถือเป็นไฮไลต์สำคัญในไตรมาส 1/2568 คือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของผลิตภัณฑ์ Clena ex ที่มียอดขายเติบโตสูงถึง 13,000% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และสร้างรายได้ในไตรมาสแรกของปี 2568 ที่ 28.41 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 305% เมื่อเทียบกับรายได้ของผลิตภัณฑ์นี้ทั้งปี 2567 ความสำเร็จอันน่าทึ่งนี้เป็นผลมาจากกลยุทธ์การใช้ Mega Influencer หรือผู้ทรงอิทธิพลระดับแถวหน้าในการสร้างกระแสความนิยมในช่องทางออนไลน์ สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวและก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของกลุ่มบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญกับการตลาดยุคดิจิทัล (Digital Marketing) มากยิ่งขึ้น
ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมยาในประเทศไทยช่วงไตรมาส 2/2568 ว่าคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องที่ระดับ 6-7% โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ป่วยอันเนื่องมาจากการขยายตัวของชุมชนเมืองและสังคมผู้สูงอายุ การขยายสิทธิการรักษาพยาบาลผ่านโครงการ “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” ตลอดจนกระแสความตื่นตัวในการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Preventive Healthcare) ที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลการใช้ยาที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มโรคตามฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งยารักษาโรคไข้หวัดใหญ่ที่มียอดใช้เพิ่มขึ้นถึง 59.7% และยารักษาโรคจมูกอักเสบเรื้อรังที่เพิ่มขึ้น 14.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ขณะเดียวกัน รูปแบบการบริโภคยาในประเทศก็มีการเติบโตที่ชัดเจนในกลุ่มยาเม็ดและยาผง ซึ่งเพิ่มขึ้น 11.8% และ 14.9% ตามลำดับ นอกจากนี้ การเข้าถึงยาที่สะดวกสบายมากขึ้นผ่านโครงการรับยาที่ร้านขายยาใกล้บ้านและการส่งยาทางไปรษณีย์ การเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยในระบบสาธารณสุขเป็น 7.9 ล้านคน รวมถึงการกลับมาของนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourism) และความต้องการใช้ยาที่สูงขึ้นในกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) เช่น โรคความดันโลหิตสูงและโรคเบาหวาน ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมยาในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“BLC มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผลการดำเนินงานไตรมาสแรกที่เติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถือเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าเรากำลังเดินมาถูกทาง โดยเฉพาะความสำเร็จของ Clena ex ที่เติบโตถึง 305% จากกลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำ เรามุ่งมั่นสร้าง Brand Awareness ให้กับผลิตภัณฑ์สมุนไพรและยาแผนปัจจุบันด้วยแนวทางเดียวกัน เพื่อผลักดันบริษัทสู่เป้าหมายรายได้ 2,000 ล้านบาทภายในปี 2569 ตอกย้ำการเป็นผู้นำธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพชั้นนำของไทย” ภก.สุวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย
#BLC #บางกอกแล็ปแอนด์คอสเมติค #ผลประกอบการ #Q1ปี2568 #กำไรสุทธิ #ยาแผนปัจจุบัน #ผลิตภัณฑ์สมุนไพร #ClenaEx #BrandAwareness #ข่าวเศรษฐกิจ #หุ้น #การลงทุน