หอการค้านานาชาติดูไบ (Dubai International Chamber) เดินหน้ากระชับสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ เปิดสำนักงานผู้แทนแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ตั้งเป้าเป็นหัวหอกสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจไทยขยายตลาดสู่ดูไบและภูมิภาค พร้อมส่งเสริมการค้าและการลงทุนทวิภาคีให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง สะท้อนด้วยมูลค่าการค้า (ไม่รวมน้ำมัน) ระหว่างไทยและดูไบในปี 2567 ที่ทะยานเกิน 2.38 หมื่นล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (AED) เติบโตถึง 23.3% เมื่อเทียบรายปี ตอกย้ำศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้างสำหรับทั้งสองฝ่าย
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – การเปิดสำนักงานแห่งใหม่นี้ถือเป็นก้าวสำคัญของหอการค้านานาชาติดูไบ หนึ่งในสามหอการค้าภายใต้เครือข่ายหอการค้าดูไบ (Dubai Chambers) โดยมีบทบาทหลักในการอำนวยความสะดวกและส่งเสริมการขยายตัวของธุรกิจจากประเทศไทยไปยังดูไบ รวมถึงการกระตุ้นการลงทุนระหว่างสองตลาดที่มีชีวิตชีวา สำนักงานกรุงเทพฯ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่สำคัญของไทย พร้อมมอบการสนับสนุนอย่างครบวงจรแก่บริษัทไทยที่สนใจบุกตลาดดูไบ ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตลาด การสร้างเครือข่ายทางธุรกิจที่จำเป็น ตลอดจนการให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์เพื่อการเข้าสู่ตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ
พิธีเปิดสำนักงานจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างการประชุม ‘Doing Business with Thailand’ ซึ่งได้รับเกียรติจากบุคคลสำคัญหลายท่าน อาทิ ฯพณฯ ชุตินทร คงศักดิ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานและกล่าวสุนทรพจน์พิเศษ
ฯพณฯ มูฮัมหมัด อาลี รอชีด ลูตาห์ (H.E. Mohammad Ali Rashed Lootah) ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หอการค้าดูไบ (Dubai Chambers) กล่าวถึงความสำคัญของก้าวใหม่นี้ว่า “การเปิดสำนักงานแห่งใหม่ของเราในกรุงเทพฯ จะช่วยปลดล็อกโอกาสใหม่ๆ ให้กับบริษัทไทยที่ต้องการเข้าสู่ดูไบ และใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ของเมืองในฐานะประตูสู่การเติบโตระดับโลก” ท่านยังเน้นย้ำว่า “ประเทศไทยยังคงเป็นพันธมิตรที่สำคัญในการผลักดันให้ดูไบเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนระดับโลก และเรามั่นใจว่าก้าวนี้จะสร้างโอกาสที่สำคัญให้กับธุรกิจในทั้งสองตลาด” ก่อนหน้านี้ ท่านได้กล่าวไว้ว่า “สำนักงานแห่งใหม่ของหอการค้าดูไบจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจไทยที่ต้องการเจาะตลาดดูไบ และใช้ประโยชน์จากจุดแข็งเชิงยุทธศาสตร์ของเมือง ในการเป็นประตูสู่การเติบโตในระดับโลก”
ความสัมพันธ์เศรษฐกิจไทย-ดูไบ ขยายตัวต่อเนื่อง
การประชุมทางธุรกิจ ‘Doing Business with Thailand’ ซึ่งจัดโดยหอการค้าดูไบ (Dubai Chamber of Commerce) มีเป้าหมายเพื่อต่อยอดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วระหว่างประเทศไทยและดูไบ ตัวเลขทางสถิติเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จนี้ได้อย่างชัดเจน โดยมูลค่าการค้าระหว่างสองฝ่ายที่ไม่รวมน้ำมัน (non-oil trade) ในปี 2567 สูงเกินกว่า 2.38 หมื่นล้านเดอร์แฮมสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ประมาณ 2.38 แสนล้านบาท) ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญถึง 23.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนบริษัทไทยที่จดทะเบียนเป็นสมาชิกของหอการค้าดูไบยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 มีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 28.4% ทำให้ยอดรวมบริษัทไทยที่ขึ้นทะเบียน ณ สิ้นปีดังกล่าว แตะระดับ 190 แห่ง ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและโอกาสที่เพิ่มมากขึ้นสำหรับบริษัทและนักลงทุนจากประเทศไทยในตลาดดูไบ
งานประชุมดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรสำคัญหลายหน่วยงานในประเทศไทย ได้แก่ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย (TCC and BoT), กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (DITP), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI), และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (FTI) นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำประเทศไทย และสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองดูไบ การรวมตัวขององค์กรชั้นนำเหล่านี้ได้ดึงดูดเจ้าหน้าที่ระดับสูง ผู้นำทางธุรกิจ และบริษัทไทยจำนวนมากที่สนใจสำรวจโอกาสในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับคณะผู้แทนหอการค้าจากดูไบ
ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ (Bilateral Meetings) ระหว่างบริษัทไทยและกลุ่มบริษัทจากเมืองดูไบจำนวน 20 บริษัท ซึ่งดำเนินธุรกิจในหลากหลายภาคส่วน อาทิ อาหารและเครื่องดื่ม, การเกษตร, ยานยนต์, การก่อสร้าง, อิเล็กทรอนิกส์, ธุรกิจบริการ, ทรัพยากรบุคคล, สารหล่อลื่นอุตสาหกรรม, การลงทุน, และการค้าปลีกน้ำหอม สร้างโอกาสในการเจรจาและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจโดยตรง
เวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึกและโอกาสการลงทุน
ในงานประชุม ‘Doing Business with Thailand’ ยังได้รับเกียรติจาก ฯพณฯ อูเบด ซะอีด อูเบดบินฏอริช อัลฎอฮิรี เอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประจำประเทศไทย และ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ซึ่งเป็นการเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ
ทางหอการค้าดูไบได้นำเสนอภาพรวมเศรษฐกิจเชิงลึกของดูไบ โดยเน้นย้ำถึงความได้เปรียบในการแข่งขันที่เป็นเอกลักษณ์ของเอมิเรตส์ ซึ่งน่าดึงดูดสำหรับธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ ขณะเดียวกัน การประชุมยังมีการอภิปรายพิเศษร่วมกับผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ของไทย ซึ่งได้นำเสนอข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับภาพรวมทางธุรกิจของประเทศไทย รวมถึงโอกาสการลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนจากดูไบ นับเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจลงทุนของทั้งสองฝ่าย
นอกจากนี้ หอการค้าดูไบยังได้ให้คำแนะนำแก่บริษัทจากดูไบที่กำลังดำเนินกิจการหรือสนใจลงทุนในประเทศไทย เกี่ยวกับโอกาสการลงทุนที่มีศักยภาพสูงในหลากหลายภาคส่วน เช่น ภาคการบริการให้เช่า, พลังงานหมุนเวียน, บริการด้านการโฆษณาและประชาสัมพันธ์, บริการขนส่งและกระจายสินค้า รวมถึงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ที่กำลังเติบโต
บทบาทของ Dubai International Chamber และเป้าหมาย D33
หอการค้านานาชาติแห่งดูไบ (Dubai International Chamber) เป็นหนึ่งในสามหน่วยงานสำคัญภายใต้เครือข่ายหอการค้าดูไบ (Dubai Chambers) ซึ่งก่อตั้งขึ้นด้วยภารกิจหลักในการส่งเสริมให้เมืองดูไบเป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก กลยุทธ์สำคัญคือการดึงดูดบริษัทข้ามชาติให้เข้ามาลงทุนและดำเนินธุรกิจในดูไบ ควบคู่ไปกับการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเมืองดูไบกับประเทศคู่ค้าที่มีศักยภาพทั่วโลก
การดำเนินงานทั้งหมดของหอการค้านานาชาติแห่งดูไบ มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายของ Dubai Economic Agenda (D33) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวของรัฐบาลดูไบ โดยมีเป้าหมายอันท้าทายในการเพิ่มขนาดเศรษฐกิจของเมืองดูไบเป็นสองเท่า รวมไปถึงการยกระดับให้เมืองดูไบก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในสามเมืองที่ดีที่สุดของโลกสำหรับการลงทุน การอยู่อาศัย และการทำงาน ภายในปี พ.ศ. 2576 (ค.ศ. 2033) การเปิดสำนักงานในกรุงเทพฯ จึงเป็นอีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายดังกล่าวให้เป็นจริง
การปักธงของหอการค้านานาชาติดูไบในประเทศไทยครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้ประกอบการไทยที่มองหาลู่ทางขยายธุรกิจไปยังตลาดตะวันออกกลาง แอฟริกา และยุโรปโดยมีดูไบเป็นศูนย์กลาง แต่ยังเป็นการกระตุ้นการลงทุนจากดูไบเข้ามาในประเทศไทย สร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในระยะยาว
ทั้งนี้ หอการค้านานาชาติแห่งดูไบ (Dubai International Chamber) เป็นหนึ่งในสามหน่วยงานที่อยู่ภายใต้เครือข่ายหอการค้าดูไบ (Dubai Chambers) ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ในการส่งเสริมเมืองดูไบให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจระดับโลก ผ่านการดึงดูดบริษัทข้ามชาติ และการขยายความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างเมืองดูไบกับคู่ค้าที่มีศักยภาพ โดยหอการค้านานาชาติแห่งดูไบมุ่งมั่นในการบรรลุ Dubai Economic Agenda (D33) ซึ่งมีเป้าหมายในการขยายเศรษฐกิจของเมืองดูไบเป็นสองเท่า รวมไปถึงยกระดับเมืองดูไบให้เป็นหนึ่งในสามเมืองที่ดีที่สุดของโลกสำหรับการลงทุน อยู่อาศัย และทำงาน ภายในปี พ.ศ. 2576
#หอการค้าดูไบ #DubaiInternationalChamber #การค้าไทยUAE #ลงทุนดูไบ #เศรษฐกิจดูไบ #กรุงเทพธุรกิจ #D33 #ส่งออกไปดูไบ #ธุรกิจไทยสู่สากล #ความสัมพันธ์ไทยUAE #BOI #DITP #TCC