เซเว่นคลีนซีส์ ผนึก 6 อบต. สมุทรปราการ ลุยสกัดขยะพลาสติกเจ้าพระยา 1.4 ล้านโล

เซเว่นคลีนซีส์ ผนึก 6 อบต. สมุทรปราการ ลุยสกัดขยะพลาสติกเจ้าพระยา 1.4 ล้านโล

เซเว่นคลีนซีส์ (Seven Clean Seas) ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ 6 องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ในจังหวัดสมุทรปราการ ผ่านการลงนาม MOU เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ตั้งเป้าสกัดกั้นขยะพลาสติกกว่า 1.4 ล้านกิโลกรัมไม่ให้ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ต่อยอดโครงการ HIPPO ยกระดับสู่ “Bangkok Impact Project” สร้างโมเดลจัดการขยะยั่งยืนด้วยเครดิตพลาสติกและพลังชุมชน

สมุทรปราการ, ประเทศไทย – แม่น้ำเจ้าพระยา เปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ทว่า ปัจจุบันกลับเผชิญกับวิกฤตการณ์มลพิษขยะพลาสติกที่ทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ สุขภาพของประชาชน และภาพลักษณ์ของประเทศในระดับสากล ข้อมูลจากโครงการสำรวจก่อนหน้านี้ของ เซเว่นคลีนซีส์ บ่งชี้ถึงปริมาณขยะพลาสติกจำนวนมหาศาลที่ไหลผ่านแม่น้ำสายนี้ โดยมีส่วนสำคัญมาจากกิจกรรมในชุมชนริมน้ำและพื้นที่เชื่อมต่อ ก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเลอ่าวไทย สร้างปัญหาระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเล

ท่ามกลางความท้าทายดังกล่าว บริษัท เซเว่นคลีนซีส์ องค์กรที่มุ่งมั่นแก้ไขปัญหามลพิษพลาสติกในมหาสมุทรและแหล่งน้ำสำคัญทั่วโลก ได้เข้ามามีบทบาทเชิงรุกในการดำเนินโครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเล็งเห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการจัดการขยะพลาสติกตั้งแต่ต้นทางและกลางทาง เพื่อลดปริมาณขยะที่จะหลุดรอดไปสร้างผลกระทบในวงกว้าง

ก้าวสำคัญ: การลงนาม MOU สานพลัง อบต. สมุทรปราการ ฟื้นฟูเจ้าพระยา

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา บริษัท Seven Clean Seas ได้สร้างหมุดหมายสำคัญอีกครั้ง ด้วยการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) อย่างเป็นทางการกับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 6 แห่งในจังหวัดสมุทรปราการ ความร่วมมือนี้ถือเป็นก้าวกระโดดในการเร่งรัดและขยายผลการดำเนินงานเพื่อสกัดกั้นขยะพลาสติกจำนวนมหาศาล โดยตั้งเป้าหมายว่าจะสามารถดักจับขยะพลาสติกได้มากกว่า 1.4 ล้านกิโลกรัมต่อปี ป้องกันไม่ให้ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาและท้ายที่สุดคือท้องทะเลไทย

การลงนาม MOU ครั้งประวัติศาสตร์นี้ มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อขยายขอบเขตและยกระดับโครงการ “Bangkok Impact Project” ของ Seven Clean Seas ซึ่งเป็นการเปลี่ยนผ่านนโยบายความร่วมมือไปสู่การปฏิบัติการจริงในพื้นที่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์และเผชิญกับปัญหามลพิษพลาสติกในระดับวิกฤตของแม่น้ำเจ้าพระยาโดยตรง

อบต. ทั้ง 6 แห่งที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ประกอบด้วย อบต.บางกะเจ้า, อบต.บางกระบือ, อบต.บางกระสอบ, อบต.บางน้ำผึ้ง, อบต.บางยอ และ อบต.ทรงคนอง ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในฐานะ “แนวหน้า” ของการสกัดกั้นขยะในลำน้ำสาขาต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่ขยะเหล่านี้จะมีโอกาสไหลลงสู่แม่น้ำสายหลัก นับเป็นการผสานกำลังครั้งสำคัญระหว่างภาคเอกชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

ต่อยอดความสำเร็จ: จาก HIPPO สู่ Bangkok Impact Project ข้อมูลขับเคลื่อนการทำงาน

ความร่วมมือครั้งใหม่นี้เป็นการต่อยอดและขยายผลความสำเร็จจากโครงการนำร่องอย่าง “HIPPO” (High Impact Plastic Pollution Remover) ซึ่งเป็นเรือเก็บขยะที่ Seven Clean Seas ได้เริ่มปฏิบัติการในแม่น้ำเจ้าพระยามาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 โครงการ HIPPO ได้ดำเนินการโดยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเก็บขยะจำนวนมากออกจากแม่น้ำ แต่ยังเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลอันล้ำค่าเกี่ยวกับประเภทและปริมาณขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

ข้อมูลจากการปฏิบัติการของเรือ HIPPO พบว่า ขยะประเภทขวดพลาสติก PET (Polyethylene terephthalate) มีสัดส่วนสูงถึงเกือบ 50% ของขยะที่เก็บได้ทั้งหมด ตามมาด้วยกล่องโฟมซึ่งมีปริมาณมากกว่า 25% นอกจากนี้ ข้อมูลยังชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของปริมาณขยะที่สัมพันธ์กับปัจจัยต่างๆ เช่น ฤดูกาล และพฤติกรรมของชุมชนริมน้ำ ความเข้าใจเชิงลึกจากข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง

ช่วยให้ Seven Clean Seas สามารถวางแผนการดำเนินงานเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณขยะสูงเป็นพิเศษ ทำให้การจัดสรรทรัพยากรและการดำเนินกิจกรรมสกัดกั้นขยะเป็นไปอย่างตรงจุดและทันท่วงที โครงการ Bangkok Impact Project จึงนำองค์ความรู้และบทเรียนที่ได้จาก HIPPO มาปรับใช้และขยายผลให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น

ยุทธศาสตร์หลายมิติในการจัดการขยะพลาสติก: เทคโนโลยี ชุมชน และนวัตกรรมการเงิน

เพื่อให้การแก้ไขปัญหามลพิษพลาสติกเป็นไปอย่างยั่งยืนและครอบคลุม โครงการ Bangkok Impact Project ภายใต้ความร่วมมือนี้ได้กำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินงานในหลายมิติ ดังนี้:

  1. การสกัดกั้นทางกายภาพด้วยเทคโนโลยี: หนึ่งในหัวใจหลักของโครงการคือการติดตั้งแนวกั้นขยะ (River Barriers) ในลำน้ำสายย่อยต่างๆ ที่ไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา แนวกั้นเหล่านี้จะทำหน้าที่ดักจับขยะพลาสติกและขยะมูลฝอยอื่นๆ ไม่ให้เล็ดลอดออกไปสู่แม่น้ำสายหลักและทะเล การออกแบบและติดตั้งแนวกั้นจะพิจารณาถึงสภาพทางภูมิศาสตร์และการไหลของน้ำในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการสกัดกั้นขยะ ควบคู่ไปกับการดูแลไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการสัญจรทางน้ำของชุมชน

  2. การมีส่วนร่วมของชุมชนคือหัวใจหลัก: Seven Clean Seas ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในการจัดการปัญหาขยะ โครงการจะดำเนินการจัดจ้างและฝึกอบรมชาวบ้านในพื้นที่ให้มีบทบาทสำคัญในการดูแลรักษาแนวกั้นขยะ การเก็บรวบรวมขยะที่ดักจับได้ และการคัดแยกขยะเบื้องต้น แนวทางนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการขยะ แต่ยังเป็นการเปลี่ยนภารกิจการทำความสะอาดสิ่งแวดล้อมให้กลายเป็น “อาชีพ” ที่สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นธรรมและมีคุณค่าให้กับคนในชุมชน เป็นการสร้างความเป็นเจ้าของร่วมกันในโครงการและส่งเสริมให้เกิดความยั่งยืนในระยะยาว

  3. นวัตกรรมทางการเงิน: ระบบเครดิตพลาสติก (Plastic Credits) เพื่อความโปร่งใสและยั่งยืน: เพื่อสร้างกลไกสนับสนุนทางการเงินที่ยั่งยืนและโปร่งใส โครงการนี้ได้นำระบบ “เครดิตพลาสติก” (Plastic Credits) มาปรับใช้ ขยะพลาสติกทั้งหมดที่เก็บรวบรวมได้จากโครงการจะผ่านกระบวนการตรวจสอบและรับรองตามมาตรฐานสากล Ocean-Bound Plastic Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติสำหรับการจัดการขยะพลาสติกที่มีโอกาสหลุดรอดลงสู่ทะเล การรับรองนี้จะช่วยสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับโครงการ ทำให้องค์กรภาคธุรกิจหรือหน่วยงานที่ต้องการสนับสนุนการแก้ไขปัญหามลพิษพลาสติกและแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สามารถให้การสนับสนุนทางการเงินแก่โครงการโดยมั่นใจได้ว่ากำลังลงทุนในผลลัพธ์ที่สามารถวัดผลและตรวจสอบได้จริง โมเดลเครดิตพลาสติกนี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการระดมทุนเพื่อขยายผลการดำเนินงานและสร้างผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง

เซเว่นคลีนซีส์

วิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

นายทอม พีค็อก-นาเซิล ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Seven Clean Seas ได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของบริษัทและความสำคัญของความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “ทุกบาทที่ทางบริษัทฯพร้อมกับพันธมิตรได้จับมือกัน เพื่อกำจัดขยะ พร้อมทำงานเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจนทั้งบนบก ในน้ำ โดยร่วมกับพื้นที่ส่วนตำบล ชุมชน ชาวบ้าน ในการกำจัดขยะและนำขยะไปต่อยอดกลับคืนมาใช้ประโยชน์ได้จริง ไม่เพียงแต่การกำจัดขยะ เรายังมีการจ้างแรงงานที่ไม่มีงานทำ เพื่อช่วยให้มีรายได้ให้กับครอบครัว ทำให้เกิดความยั่งยืนให้กับทางสังคม”

คำกล่าวของนายทอมสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของ Seven Clean Seas ที่ไม่ได้มองเพียงแค่การเก็บขยะออกจากสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบเชิงบวกที่ครอบคลุมทั้งมิติสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม การลงทุนในโครงการนี้คือการลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืน โดยการทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงระดับปฏิบัติการในชุมชน เป็นการสร้างกลไกที่ขยะซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้สร้างมลพิษ จะถูกเปลี่ยนให้เป็นทรัพยากรที่สามารถนำกลับมาสร้างมูลค่าเพิ่มได้ผ่านกระบวนการรีไซเคิลหรือแปรรูปอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกัน การสร้างงานสร้างอาชีพให้กับคนในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่อาจจะขาดโอกาสทางเศรษฐกิจ ถือเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับฐานรากของสังคม และส่งเสริมให้เกิดการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจากภายในชุมชนเอง

ผลกระทบและความสำคัญในวงกว้าง: จากเจ้าพระยาสู่เวทีโลก

โครงการความร่วมมือระหว่าง Seven Clean Seas และ 6 อบต. ในจังหวัดสมุทรปราการนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลดีต่อการฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยาโดยตรงเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญในเชิงนโยบายและภาพลักษณ์ของประเทศในระดับที่กว้างขึ้นอีกด้วย

  • การสอดรับกับนโยบายชาติและเป้าหมายระดับโลก: โครงการนี้สอดคล้องอย่างยิ่งกับนโยบายด้านความยั่งยืนของประเทศไทย รวมถึงเป้าหมายในการลดปริมาณขยะทะเลที่รัฐบาลได้ให้คำมั่นไว้ในเวทีระหว่างประเทศ การดำเนินการที่เป็นรูปธรรมเช่นนี้จะช่วยสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

  • การยกระดับบทบาทของประเทศในฐานะผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม: ความสำเร็จของโครงการ Bangkok Impact Project จะช่วยยกระดับบทบาทของประเทศไทยทั้งในระดับท้องถิ่นและในเวทีโลก ในฐานะประเทศผู้นำที่มีความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบในการจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหามลพิษพลาสติกซึ่งเป็นวาระสำคัญของโลก

  • การสร้างรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในระยะยาว: บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้เป็นมากกว่าเพียงข้อตกลงในการดำเนินโครงการ แต่เป็นเครื่องยืนยันว่าความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างภาคส่วนต่างๆ และการแบ่งปันความรับผิดชอบอย่างจริงจัง สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ขยายผลได้จริง และเป็นรากฐานที่สำคัญสำหรับการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบในการจัดการขยะและทรัพยากรในระยะยาว

  • กรุงเทพมหานคร ต้นแบบการฟื้นฟูลำน้ำด้วยระบบเครดิตพลาสติกในภูมิภาค: ด้วยยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน นวัตกรรมที่นำมาปรับใช้ และความร่วมมือที่แข็งแกร่ง มีความคาดหวังว่าโครงการนี้จะทำให้กรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบกลายเป็นต้นแบบของการฟื้นฟูลำน้ำที่ประสบความสำเร็จ โดยใช้ระบบเครดิตพลาสติกเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน ซึ่งสามารถเป็นแบบอย่างให้กับเมืองอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังเผชิญกับปัญหาท้าทายคล้ายคลึงกันได้

อนาคตที่สดใสของแม่น้ำเจ้าพระยา เริ่มต้นจากความร่วมมือในวันนี้

การลงนาม MOU ระหว่าง Seven Clean Seas และ 6 องค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดสมุทรปราการ นับเป็นอีกหนึ่งย่างก้าวที่เปี่ยมด้วยความหวังในการต่อสู้กับวิกฤตขยะพลาสติกในแม่น้ำเจ้าพระยา ความสำเร็จของโครงการนี้จะไม่ได้วัดกันเพียงแค่ปริมาณขยะที่เก็บได้ แต่ยังรวมถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชุมชนริมน้ำ ระบบนิเวศที่ได้รับการฟื้นฟู และการสร้างจิตสำนึกร่วมกันในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ การมีส่วนร่วมของชุมชน และการนำนวัตกรรมมาปรับใช้อย่างเหมาะสม คือกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงและยั่งยืน เพื่อคืนความสะอาดสดใสให้กับแม่น้ำเจ้าพระยา และสร้างอนาคตสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าสำหรับคนไทยทุกคน

#SevenCleanSeas #MOU #อบตสมุทรปราการ #ฟื้นฟูแม่น้ำเจ้าพระยา #BangkokImpactProject #สกัดขยะพลาสติก #ลดขยะทะเล #เครดิตพลาสติก #ความร่วมมือเพื่อความยั่งยืน #สิ่งแวดล้อมไทย #แม่น้ำเจ้าพระยา #เก็บขยะทางทะเล #เก็บขยะแม่น้ำ #CSR #ESG #plasticcredit #sustainability #กิจกรรมเก็บขยะ #recycle #แปรรูปขยะ

Related Posts