พม. ผนึก มูลนิธิโอสถสภา ปั้นอาชีพคนพิการปี 3 สร้างชีวิตยั่งยืน 4 จังหวัด

พม. ผนึก มูลนิธิโอสถสภา ปั้นอาชีพคนพิการปี 3 สร้างชีวิตยั่งยืน 4 จังหวัด

กระทรวง พม. จับมือ มูลนิธิโอสถสภา ลงนาม MOU “โครงการมูลนิธิโอสถสภามอบโอกาส สร้างอาชีพคนพิการ ปี 3” มอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพแก่คนพิการ 150 ราย ใน 4 จังหวัดภาคกลาง ตั้งเป้าลดความเหลื่อมล้ำ สร้างรายได้และความมั่นคงในชีวิต สอดรับนโยบายรัฐบาลและยุทธศาสตร์ พก. ยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน

กรุงเทพ, ประเทศไทย – กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) ร่วมกับ มูลนิธิโอสถสภา ในเครือ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ใน “โครงการมูลนิธิโอสถสภามอบโอกาส สร้างอาชีพคนพิการ ปี 3” อย่างเป็นทางการ ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการผนึกกำลังระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการให้สามารถก้าวข้ามข้อจำกัดทางร่างกาย สร้างอาชีพ มีรายได้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน

โดยตั้งเป้าหมายมอบอุปกรณ์เพื่อการประกอบอาชีพให้แก่คนพิการจำนวน 150 คน ใน 10 กลุ่มอาชีพตามความสนใจและความถนัด ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท และอุทัยธานี

พม. ชู “5×5 แก้ปัญหาวิกฤตประชากร” มุ่งเสริมคุณค่าคนพิการ

นายโชคชัย วิเชียรชัยยะ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เปิดเผยถึงความสำคัญของความร่วมมือครั้งนี้ว่า กระทรวง พม. มีภารกิจหลักในการสร้างความมั่นคงในชีวิตและจัดสวัสดิการที่เหมาะสมให้กับประชาชนทุกกลุ่ม โดยได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องผ่าน “นโยบาย 5×5 แก้ปัญหาวิกฤตประชากร” ซึ่งหนึ่งในห้ายุทธศาสตร์หลักมุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสและเสริมสร้างคุณค่าของคนพิการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนพิการที่มีศักยภาพ ให้สามารถเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนสังคมภายใต้แนวคิด “สร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยความพิการไม่เป็นข้อจำกัด”

นายโชคชัย กล่าวว่า “การลงนาม MOU ในวันนี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของ พม. ในการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ สถาบันการศึกษา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคเอกชน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงคนพิการที่ปัจจุบันมีการจดทะเบียนกว่า 2.2 ล้านคนทั่วประเทศ ให้พวกเขามีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคง สามารถพึ่งพาตนเองและเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาสังคม”

พก. เดินหน้า “เรือธง” ยกระดับ-ปรับระบบ-ครบเครื่องพัฒนาคนพิการ

อธิบดี พก. ยังได้กล่าวถึงนโยบาย “เรือธง พก. เดินหน้างานคนพิการ ยกระบบ ปรับระบบ ครบเครื่องเรื่องพัฒนาคนและงาน” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านคนพิการให้บรรลุเป้าหมาย คือ คนพิการสามารถก้าวข้ามความพิการ มีอาชีพ มีรายได้ พึ่งตนเองได้ และมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม โดยดำเนินการผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ได้แก่:

  1. ยกระดับ: เพิ่มขีดความสามารถของคนพิการผ่านการ Upskill และ Reskill ทักษะที่จำเป็นต่อการประกอบอาชีพในยุคปัจจุบัน พร้อมทั้งสร้าง “Productive welfare” หรือสวัสดิการเชิงผลิตภาพ โดยการเฟ้นหาและพัฒนาคนพิการต้นแบบเพื่อสังคม (TOP 10) ที่มีความคิดริเริ่ม สร้างสรรค์ สามารถทำโครงการใหญ่และเห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นแรงบันดาลใจและแบบอย่างให้กับคนพิการอื่นๆ
  2. ปรับระบบ: ปรับปรุงนโยบายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องให้เอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ปรับโครงสร้างการทำงานของหน่วยงานในสังกัด รวมถึงพลิกโฉมศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการและสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ โดยมุ่งพัฒนาศูนย์ส่งเสริมอาชีพคนพิการต้นแบบให้มีมาตรฐานระดับสากล และยกระดับศูนย์บริการคนพิการระดับจังหวัดให้สามารถให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง
  3. ครบเครื่องเรื่องพัฒนา: พัฒนาศักยภาพบุคลากรที่ทำงานด้านคนพิการให้เป็น “Smart Gen Dep” หรือบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถและทัศนคติที่ทันสมัย ควบคู่ไปกับการพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสำหรับคนพิการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงข้อมูล บริการ และโอกาสต่างๆ ได้อย่างเท่าเทียม รวมถึงการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้สำหรับทุกคน (Learning Center for All) เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต

“โครงการมูลนิธิโอสถสภามอบโอกาส สร้างอาชีพคนพิการ ปี 3 นี้ จะเป็นโครงการต้นแบบ (Role Model) ที่สำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางอาชีพและรายได้ของคนพิการ เราเน้นการทำงานแบบบูรณาการและประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรคนพิการทั่วประเทศ เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและสร้างสังคมที่ไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง” นายโชคชัย กล่าวเสริม พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณไปยังบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ที่เล็งเห็นความสำคัญและให้การสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการมาอย่างต่อเนื่อง

มูลนิธิโอสถสภา

มูลนิธิโอสถสภา ตอกย้ำพันธกิจเพื่อสังคม สานต่อโครงการปีที่ 3

ด้าน นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานคณะกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และตัวแทนมูลนิธิโอสถสภา กล่าวถึงเจตนารมณ์ของมูลนิธิฯ ว่า “มูลนิธิโอสถสภาได้ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 30 ปี ควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจของ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) เราเชื่อมั่นในการสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนร่วมกับสังคม โครงการมูลนิธิโอสถสภา มอบโอกาสสร้างอาชีพ ปีที่ 3 นี้ เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของเราที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องคนพิการให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความมั่นคงผ่านการมีอาชีพและรายได้ที่ยั่งยืน”

นายธนา ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการว่า “ในปีนี้ เราได้ร่วมมือกับกระทรวง พม. อย่างใกล้ชิด ผ่านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ใน 4 จังหวัดเป้าหมาย คือ นนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ชัยนาท และอุทัยธานี เพื่อมอบอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้กับคนพิการจำนวน 150 คน ใน 10 กลุ่มอาชีพที่หลากหลาย ซึ่งคัดเลือกตามความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคล เพื่อให้พวกเขาสามารถเริ่มต้นประกอบอาชีพได้จริงและประสบความสำเร็จ”

นับตั้งแต่เริ่มโครงการฯ จนถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 3 มูลนิธิโอสถสภาได้มอบโอกาสในการสร้างอาชีพให้แก่คนพิการไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 315 คน ในพื้นที่ 7 จังหวัดทั่วประเทศ สิ่งที่น่าภาคภูมิใจคือ จากการติดตามผลการดำเนินงาน พบว่าคนพิการที่ได้รับโอกาสในการประกอบอาชีพจากโครงการในปีที่ 1 และปีที่ 2 นั้น มากกว่าร้อยละ 85 ยังคงประกอบอาชีพเดิมได้อย่างต่อเนื่องและมีรายได้ที่มั่นคง ซึ่งทางมูลนิธิฯ ยังคงมีการติดตามและให้การสนับสนุนผู้เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเองอย่างแท้จริง

สร้างผลกระทบเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและสังคม

ความร่วมมือระหว่าง พม. และมูลนิธิโอสถสภาในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นการมอบโอกาสให้แก่คนพิการเป็นรายบุคคลเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบเชิงบวกในวงกว้าง ทั้งในมิติทางเศรษฐกิจและสังคม การที่คนพิการสามารถประกอบอาชีพและมีรายได้ จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของภาครัฐในด้านสวัสดิการสงเคราะห์ และเปลี่ยนคนพิการจากผู้รับเป็นผู้ให้ เป็นผู้มีส่วนร่วมในการสร้างผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความภาคภูมิใจและคุณค่าในตนเองให้กับคนพิการ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ยั่งยืน

โครงการนี้ยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 8 ว่าด้วยการส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่อง ครอบคลุม และยั่งยืน การจ้างงานเต็มที่ มีผลิตภาพ และการมีงานที่เหมาะสมสำหรับทุกคน และเป้าหมายที่ 10 ว่าด้วยการลดความเหลื่อมล้ำทั้งภายในและระหว่างประเทศ

การส่งเสริมอาชีพคนพิการยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก เมื่อคนพิการมีรายได้ ก็จะเกิดการจับจ่ายใช้สอยในชุมชน ก่อให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ นอกจากนี้ การที่ภาคเอกชนขนาดใหญ่อย่างโอสถสภาเข้ามามีบทบาทอย่างแข็งขันในการดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ในลักษณะนี้ ยังเป็นตัวอย่างที่ดีและสร้างแรงบันดาลใจให้องค์กรอื่นๆ หันมาให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพของกลุ่มเปราะบางในสังคมมากยิ่งขึ้น

การลงนาม MOU ในวันนี้ จึงเป็นมากกว่าเพียงพิธีการ แต่เป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความร่วมมืออันแข็งแกร่งที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการในประเทศไทยให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น สร้างสังคมแห่งโอกาสที่เท่าเทียม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอย่างแท้จริง.

#พม #มูลนิธิโอสถสภา #สร้างอาชีพคนพิการ #ลดความเหลื่อมล้ำ #พัฒนาสังคม #CSR #เศรษฐกิจไทย #คนพิการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง #โอสถสภา #MOU #คุณภาพชีวิตคนพิการ #4จังหวัดภาคกลาง

Related Posts