ทรู คอร์ปอเรชั่น ออกโรงขออภัยลูกค้าอย่างสูง กรณีระบบเครือข่ายล่มกระทบบางส่วนช่วงเช้าวันนี้ (22 พ.ค. 68) สร้างความเดือดร้อนในการติดต่อสื่อสารและใช้งานอินเทอร์เน็ต แจงสาเหตุจากปัญหา ไฟฟ้าขัดข้อง ที่ศูนย์โครงข่ายหลัก (Core Network) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการ ขณะนี้ทีมวิศวกรเร่งแก้ไขจนระบบกลับมาใช้งานได้ตามปกติแล้ว พร้อมออกมาตรการเยียวยาเร่งด่วน มอบดาต้าฟรี 10GB และโทรฟรี 100 นาทีแก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ ย้ำได้ชี้แจง กสทช. ถึงสถานการณ์และมาตรการดูแลแล้ว
ประเทศไทย – เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 เวลาประมาณ 10.00 น. ผู้ใช้บริการเครือข่ายทรูบางส่วนประสบปัญหาไม่สามารถใช้งานทั้งบริการเสียง (Voice) และข้อมูล (Data) ได้ ทำให้เกิดผลกระทบต่อการติดต่อสื่อสาร การทำธุรกรรม และการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องพึ่งพาสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตเป็นวงกว้าง ปัญหาดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนและกังวลใจแก่ผู้ใช้บริการจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบันที่การเชื่อมต่อออนไลน์มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อชีวิตประจำวันและการประกอบธุรกิจ
ล่าสุด บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ขออภัยและแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ระบบเครือข่ายขัดข้องที่เกิดขึ้น โดยชี้แจงว่า ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการใช้งานของลูกค้าบางส่วน และทีมงานได้เร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มความสามารถ จนกระทั่งบริการต่างๆ เริ่มทยอยกลับมาใช้งานได้ตั้งแต่เวลา 11.30 น. ของวันเดียวกัน และในขณะนี้ ทั้งบริการวอยซ์และดาต้าสามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจาะลึกสาเหตุ “ไฟฟ้าขัดข้อง” ที่ Core Network ต้นตอวิกฤตสื่อสาร
จากการตรวจสอบเบื้องต้นโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญของทรู พบว่า สาเหตุหลักของปัญหาในครั้งนี้เกิดจากระบบ ไฟฟ้าขัดข้อง ณ ที่ตั้งของศูนย์โครงข่ายหลัก (Core Network) แห่งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นหัวใจสำคัญ (Backbone) ของการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตทั้งหมด การขัดข้องของระบบไฟฟ้าในส่วนนี้จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่ายในวงกว้าง
ทีมวิศวกรของทรูได้ระบุว่า ด้วยความสำคัญและความซับซ้อนของ Core Network ทำให้การตรวจสอบและแก้ไขปัญหาจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบและระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบจะกลับมาทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพและปลอดภัยในระยะยาว ทันทีที่ตรวจพบปัญหา ทีมงานได้ดำเนินการอย่างเร่งด่วนในหลายมิติ ทั้งการค้นหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อวางแผนการแก้ไขอย่างตรงจุด และในขณะเดียวกันก็ได้ดำเนินการทยอยโอนย้ายลูกค้าที่ได้รับผลกระทบไปยังศูนย์โครงข่ายหลักอีกแห่งหนึ่ง (Redundant Core Network) เพื่อบรรเทาผลกระทบและช่วยให้ลูกค้าสามารถกลับมาใช้งานบริการได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ความสำคัญของ Core Network นั้นเปรียบเสมือนศูนย์บัญชาการกลางของเครือข่ายโทรคมนาคม ทำหน้าที่ควบคุมการเชื่อมต่อ การจัดการทราฟฟิกข้อมูล การยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน และการบริหารจัดการทรัพยากรเครือข่ายทั้งหมด หาก Core Network ประสบปัญหา ย่อมส่งผลให้การบริการในภาพรวมหยุดชะงักหรือด้อยประสิทธิภาพลง ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน แม้ผู้ให้บริการจะมีระบบสำรองเตรียมพร้อมไว้แล้วก็ตาม
มาตรการเยียวยาเร่งด่วน ชดเชยลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ
เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบและบรรเทาความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นกับลูกค้าจากเหตุการณ์ระบบเครือข่ายขัดข้องในครั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้ประกาศมาตรการเยียวยาสำหรับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ โดยลูกค้ากลุ่มดังกล่าวจะได้รับสิทธิ์ใช้งานอินเทอร์เน็ต (ดาต้า) ฟรี จำนวน 10GB และสิทธิ์โทรฟรีทุกเครือข่าย 100 นาที ทั้งดาต้าและนาทีโทรฟรีนี้สามารถใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมงนับจากเวลาที่ได้รับ SMS ยืนยันสิทธิ์
บริษัทฯ จะดำเนินการส่งข้อความสั้น (SMS) เพื่อแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการชดเชยดังกล่าว พร้อมทั้งวิธีการรับสิทธิ์ให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบโดยตรงต่อไป มาตรการนี้ถือเป็นหนึ่งในความพยายามของทรูที่จะดูแลและรักษาฐานลูกค้า ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโทรคมนาคม ซึ่งความเชื่อมั่นและความพึงพอใจของลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จของธุรกิจ
การชดเชยในลักษณะนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นในเชิงรูปธรรม แต่ยังเป็นการแสดงออกถึงความใส่ใจและความรับผิดชอบของผู้ให้บริการ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในเชิงเศรษฐกิจและภาพลักษณ์ขององค์กร การที่ลูกค้าไม่สามารถใช้งานระบบสื่อสารได้ ย่อมส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่การติดต่อธุรกิจ การซื้อขายออนไลน์ ไปจนถึงการทำงานจากระยะไกล (Remote Working) การเยียวยาที่รวดเร็วและเหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่น
ชี้แจง กสทช. พร้อมรายงานสถานการณ์และมาตรการดูแล
นอกเหนือจากการสื่อสารโดยตรงไปยังลูกค้าและการออกมาตรการเยียวยาแล้ว ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังได้ดำเนินการชี้แจงต่อสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทย เกี่ยวกับสถานการณ์ระบบเครือข่ายขัดข้องที่เกิดขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในการชี้แจงดังกล่าว บริษัทฯ ได้ให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สาเหตุของปัญหา รวมถึงมาตรการเยียวยาเบื้องต้นที่ได้ประกาศให้แก่ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ การรายงานต่อ กสทช. ถือเป็นขั้นตอนสำคัญตามกฎระเบียบและแนวปฏิบัติ เพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลได้รับทราบข้อมูลและสามารถตรวจสอบการดำเนินการของผู้ให้บริการว่ามีความเหมาะสมและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการคุ้มครองผู้บริโภค
เหตุการณ์ระบบเครือข่ายล่มในครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งบททดสอบสำคัญสำหรับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในประเทศไทย ถึงความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน (Crisis Management) ความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหา (Resolution Time) และประสิทธิภาพของแผนสำรองฉุกเฉิน (Contingency Plan) รวมถึงความโปร่งใสในการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย ทั้งลูกค้าและหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลต่อความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ขององค์กรในระยะยาว
ในภาวะที่เศรษฐกิจพึ่งพาระบบดิจิทัลมากขึ้น เสถียรภาพของโครงข่ายโทรคมนาคมจึงไม่ใช่เพียงเรื่องของความสะดวกสบายส่วนบุคคล แต่เป็นปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อผลิตภาพ (Productivity) และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอ และการมีแผนรับมือเหตุฉุกเฉินที่มีประสิทธิภาพ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ให้บริการทุกรายต้องให้ความสำคัญอย่างสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจว่าบริการดิจิทัลของประเทศไทยจะสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไปข้างหน้าได้อย่างไม่สะดุด
ทางทรู คอร์ปอเรชั่น ย้ำว่าจะนำเหตุการณ์ครั้งนี้ไปปรับปรุงและพัฒนาระบบเครือข่ายให้มีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาในลักษณะเดียวกันนี้ซ้ำอีกในอนาคต พร้อมทั้งจะมุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพการบริการเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าต่อไป
#ทรู #ระบบล่ม #เครือข่ายทรู #TrueMoveH #ขออภัยลูกค้า #ชดเชยเยียวยา #เน็ตล่ม #โทรศัพท์ล่ม #กสทช #ข่าวเศรษฐกิจ #TrueCorporation #DigitalEconomy #CoreNetworkOutage