เอไอเอส เดินเกมรุก! OTT ดัน AIS PLAY ชูพรีเมียร์ลีก-ไทยลีกฟรี

เอไอเอส (AIS) ประกาศกลยุทธ์ครั้งสำคัญ เขย่าวงการสตรีมมิงเมืองไทย เดินหน้าเต็มกำลังผลักดัน “AIS PLAY” สู่การเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและกีฬาครบวงจรอันดับ 1 ของประเทศอย่างแท้จริง ชูธงด้วยคอนเทนต์แม่เหล็กอย่างฟุตบอล “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ครบทุกแมตช์ พร้อมสร้างปรากฏการณ์ “ดูฟรีไทยลีก” ทุกลีก หวังเชื่อมต่อทุกไลฟ์สไตล์ดิจิทัลและขยายฐานลูกค้าทั้งมือถือและเน็ตบ้าน ผ่านแพ็กเกจสุดคุ้มค่าที่ออกแบบมาเพื่อคนไทยโดยเฉพาะ

ในยุคที่การแข่งขันของตลาดวิดีโอแพลตฟอร์ม หรือ Over-the-Top (OTT) ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการเป็นผู้นำตลาด ด้วยการยกระดับ “AIS PLAY” จากแพลตฟอร์มรับชมคอนเทนต์สู่ “The Largest Entertainment Hub” หรือศูนย์กลางความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย การเคลื่อนไหวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจบริการดิจิทัล แต่ยังเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างมูลค่าเพิ่มและรักษาฐานลูกค้าหลักทั้งในส่วนของโทรศัพท์เคลื่อนที่และอินเทอร์เน็ตบ้านความเร็วสูง

นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS ได้ฉายภาพความสำเร็จและวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ว่า “ที่ผ่านมา เอไอเอสมุ่งพัฒนา AIS PLAY ให้เป็น The Largest Entertainment Hub หรือศูนย์กลางความบันเทิงครบวงจรและใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนเครือข่ายที่ดีที่สุด ด้วยการมอบประสบการณ์รับชมคอนเทนต์ทั้งด้านความบันเทิงและกีฬาอย่างครบถ้วน”

ตัวเลขที่น่าสนใจคือ ปัจจุบันมีลูกค้าที่เข้าถึงคอนเทนต์ความบันเทิงผ่านเครือข่าย AIS รวมกว่า 16.4 ล้านคน และใช้เวลาในการรับชมเฉลี่ยสูงถึง 5 ชั่วโมงต่อวัน ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และชี้ชัดว่า AIS PLAY ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและเป็นศูนย์กลางความบันเทิงที่ครองใจคนไทยไปแล้ว

ทัพคอนเทนต์ระดับโลก หัวใจหลักในการขับเคลื่อน

กลยุทธ์หลักในการก้าวสู่เบอร์ 1 คือการเสริมทัพคอนเทนต์ระดับโลกที่หลากหลายและครอบคลุมทุกความสนใจ โดยมีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ “คอนเทนต์กีฬา” ซึ่งถือเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้ชมกลุ่มใหญ่

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ: AIS PLAY ตอกย้ำความเป็นที่ 1 ด้านคอนเทนต์กีฬา ด้วยการประกาศถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ครบทั้ง 380 แมตช์ตลอดฤดูกาล ไม่เพียงเท่านั้น ยังเสริมทัพด้วยฟุตบอลถ้วยยอดนิยมอย่าง เอฟเอ คัพ 63 แมตช์, การแข่งขัน FIFA Club World Cup 2025 ที่จะมาในรูปแบบใหม่ รวม 51 แมตช์, ฟุตบอลปรีซีซั่น SUMMER SERIES 6 แมตช์ และ The FA Community Shield

เพื่อเอาใจแฟนบอลพันธุ์แท้ ยังมีการนำเสนอคอนเทนต์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจาก 3 สโมสรยักษ์ใหญ่ ได้แก่ LFCTV จากลิเวอร์พูล, MUTV จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ Real Madrid TV จากเรอัล มาดริด พร้อมด้วยการถ่ายทอดสดฟุตบอลถ้วยยุโรปอย่าง ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก และ ยูโรปาลีก ผ่านช่อง beIN SPORTS ทำให้ AIS PLAY เป็นแพลตฟอร์มที่รวมทุกแมตช์เดือดไว้อย่างครบครัน

ปรากฏการณ์ใหม่ “ไทยลีกดูฟรี” ทั่วประเทศ: จุดเปลี่ยนสำคัญที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้วงการฟุตบอลไทย คือการที่ AIS จับมือกับพันธมิตรอย่าง GULF และ JAS คว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกแบบครบวงจร ซึ่งประกอบด้วย ไทยลีก 1, ไทยลีก 2, ไทยลีก 3, ฟุตบอลถ้วย เอฟเอ คัพ และลีก คัพ รวมถึงฟุตบอลลีกเยาวชน U-21 และฟุตบอลหญิงลีก 1 และ 2 โดยประกาศให้ “คนไทยทุกคนสามารถรับชมฟรี! ผ่าน AIS PLAY โดยไม่ต้องสมัครสมาชิก” กลยุทธ์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการคืนกำไรให้สังคมและสนับสนุนวงการกีฬาไทย แต่ยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ทรงพลังในการดึงดูดผู้ใช้งานใหม่ๆ ให้เข้ามาสัมผัสประสบการณ์บนแพลตฟอร์ม AIS PLAY

คอนเทนต์บันเทิงและกีฬาอื่นๆ: นอกเหนือจากฟุตบอล AIS PLAY ยังได้รวบรวมคอนเทนต์บันเทิงจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น ShortMax แอปพลิเคชันละครสั้นรูปแบบใหม่, ช่องข่าวธุรกิจชั้นนำอย่าง Bloomberg Television, Fox Business และ Fox News Channel ส่วนคอกีฬาประเภทอื่นก็มีให้รับชมอย่างจุใจ อาทิ Eurosport, บาสเกตบอล NBA (ผ่าน Prime Video), กอล์ฟหญิง LPGA และยังเตรียมถ่ายทอดสดทัวร์นาเมนต์ระดับโลกที่คนไทยรอคอยอย่าง วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก, ซีเกมส์ และอาเซียนพาราเกมส์อีกด้วย

จากการเดินหน้าสรรหาคอนเทนต์อย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้ปัจจุบัน AIS PLAY มีช่องทีวีรวมถึง 132 ช่อง และแอปพลิเคชันสตรีมมิงชั้นนำ 12 แอปฯ รวมไว้ในที่เดียว

แพ็กเกจสุดคุ้ม กลไกสำคัญในการเจาะตลาดทุกเซกเมนต์

เพื่อทำให้คอนเทนต์คุณภาพเหล่านี้เข้าถึงคนไทยได้ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด เอไอเอส ได้ออกแบบแพ็กเกจใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างชัดเจน

1. PLAY MONOMAX Standard (แพ็กเกจพรีเมียร์ลีก): สำหรับลูกค้า AIS ทั้งมือถือและเน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE3 ที่ต้องการรับชมพรีเมียร์ลีกโดยเฉพาะ มาพร้อมโปรโมชัน Early Bird ถึงวันที่ 9 สิงหาคม 2568

   • รายเดือน: ราคาพิเศษ 199 บาท (จากปกติ 299 บาท)
   • รายปี: ราคาพิเศษ 1,999 บาท (จากปกติ 2,999 บาท)

2. PLAY ULTIMATE (แพ็กเกจรวมทุกความบันเทิง): ตอบโจทย์คอความบันเทิงและกีฬาทุกรูปแบบ ครบจบในแพ็กเดียว ด้วยการรวมสุดยอดสตรีมมิงแพลตฟอร์ม (NETFLIX, Max, Disney+ Hotstar, Prime Video, iQIYI, VIU, WeTV) พร้อมด้วยพรีเมียร์ลีก, ฟุตบอลยุโรป และเทนนิสจาก beIN SPORTS ในราคาเพียง 1,499 บาท/เดือน (เริ่มสมัคร 1 ก.ค. 68)

3. 5G Max PLAY PREMIER (แพ็กเกจมือถือ): ออกแบบมาเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่, ย้ายค่ายเบอร์เดิม และเปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือนโดยเฉพาะ เริ่มต้นเพียง 699 บาท/เดือน ได้ทั้งเน็ต 5G ความเร็วสูง, สิทธิ์รับชมพรีเมียร์ลีกตลอดฤดูกาล และคอนเทนต์จาก AIS PLAY และ MONOMAX พร้อมจุดเด่นคือ ลูกค้าย้ายค่ายจะได้รับซิมพร้อมใช้ดูบอลได้ทันที 7 วัน ระหว่างรอดำเนินการ

4. แพ็กเกจเน็ตบ้าน AIS 3BB FIBRE3: สำหรับลูกค้าใหม่ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 500/500 Mbps พร้อมรับชมพรีเมียร์ลีกและคอนเทนต์บันเทิงครบครัน ในราคาเริ่มต้น 699 บาท/เดือน

5. แพ็กเกจ Pub, Bar & Restaurant: เจาะตลาดผู้ประกอบการและธุรกิจร้านอาหาร ผับ บาร์ ด้วยแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสุด 1Gbps/1Gbps พร้อมลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีกเพื่อลูกค้าในร้าน ในราคา 2,800 บาท/เดือน

การเดินเกมครั้งนี้ของ AIS จึงเป็นการใช้ “คอนเทนต์” เป็นหัวหอกในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืน ไม่เพียงแต่จะสร้างความบันเทิงให้กับผู้บริโภค แต่ยังเป็นการผนวกรวมบริการทั้งหมดของ AIS ทั้งมือถือ, เน็ตบ้าน และบริการดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกันอย่างแข็งแกร่ง เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการเป็น “องค์กรโทรคมนาคมเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Cognitive Tech-Co)” ที่พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศให้เติบโตต่อไปในอนาคต

#AISPLAY #AIS #พรีเมียร์ลีก #ไทยลีก #ไทยลีกดูฟรี #ดูบอล #ข่าวเศรษฐกิจ #AIS5G #AIS3BBFIBRE3 #แพ็กเกจดูบอล #สตรีมมิง #OTT #ฟุตบอล #บันเทิง #กีฬา