ดีอี เตือนภัย! มิจฉาชีพปลอมไลน์ “กฟภ.” หลอกดูดเงิน-ข้อมูล

ดีอี เตือนภัย! มิจฉาชีพปลอมไลน์ “กฟภ.” หลอกดูดเงิน-ข้อมูล

กระทรวงดีอีเปิดสถิติภัยออนไลน์รายสัปดาห์น่าตกใจ พบ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” และ “โจรออนไลน์” พุ่งเป้าปลอมแปลงเป็นหน่วยงานรัฐและสถาบันการเงิน โดยเฉพาะ “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” ถูกแอบอ้างสร้างบัญชี LINE ปลอมระบาดหนัก ติดอันดับ 1 ข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจสูงสุด จี้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ-แอดเพื่อน หวั่นสูญเสียทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคล ตกเป็นเหยื่อในวงกว้าง

สถานการณ์อาชญากรรมทางเทคโนโลยีในประเทศไทยยังคงน่าเป็นห่วง ล่าสุด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ออกมาส่งสัญญาณเตือนภัยครั้งสำคัญ หลังจากศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center) ตรวจพบการแพร่ระบาดของข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางออนไลน์ โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างความเข้าใจผิดและฉกฉวยผลประโยชน์จากประชาชน ซึ่งกรณีที่น่ากังวลและได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุดคือ การแอบอ้างชื่อ “การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค” หรือ กฟภ. (PEA) เพื่อสร้างบัญชีแอปพลิเคชัน LINE ปลอมขึ้นมาหลอกลวงประชาชนโดยเฉพาะ

เปิดสถิติภัยไซเบอร์รายสัปดาห์: “กฟภ. ปลอม” ครองแชมป์ข่าวลวง

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะโฆษกกระทรวงดีอี ได้เปิดเผยผลการรวบรวมและตรวจสอบข้อมูลของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ในช่วงระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 5 มิถุนายน 2568 ว่า จากการตรวจสอบข้อความที่ได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจจับจากระบบ Social Listening ทั้งสิ้น 831,971 ข้อความ พบว่ามีถึง 419 ข้อความที่ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยช่องทางที่พบเบาะแสมากที่สุดคือ Social Listening จำนวน 399 ข้อความ และผ่าน Line Official ของศูนย์ฯ อีก 20 ข้อความ

จากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าข่าวปลอมที่เกี่ยวกับการหลอกลวงออนไลน์ยังคงเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจและมีแนวโน้มจะตกเป็นเหยื่อได้ง่ายที่สุด โดย 10 อันดับข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจสูงสุด มีดังนี้

  1. เรื่อง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดบัญชีไลน์ให้ติดต่อพนักงานได้โดยตรง
  2. เรื่อง กฟภ. เปิดบัญชีไลน์ใหม่ เพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ID PEA11262
  3. เรื่อง ธนาคารออมสิน ปล่อยสินเชื่อเพื่อคุณ ผ่าน TikTok ชื่อ tartafcduzs
  4. เรื่อง ใบขับขี่หมดอายุหลายปี หรือทำหาย ทำใหม่ได้ทันที ผ่านเพจ DLT.News Oline 1
  5. เรื่อง ออมสินปล่อยสินเชื่อเงินกู้ ผ่านเพจ สินเชื่อ ออมสินออนไลน์
  6. เรื่อง ปตท. เปิดเว็บไซต์ใหม่ให้ลงทุนหุ้น
  7. เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดคอร์สเรียนฟรี 7 หลักสูตร 46 คอร์ส ผ่านเพจ Investment teaching
  8. เรื่อง สลากกินแบ่งรัฐบาลเปิดจำหน่ายสลากผ่านเว็บไซต์ใหม่
  9. เรื่อง ลงทุนหุ้น ซีพี ออลล์ ระยะสั้น เริ่มต้น 1,850 บาท ปันผล 7% ต่อวัน ก.ล.ต. รับรอง
  10. เรื่อง ปปง. เปิดให้ส่งหลักฐานยื่นคำร้องขอรับเงินคืน ผ่านเพจ Office of the Anti-Corruption.

เจาะลึกกลลวง “ไลน์ กฟภ. ปลอม” ภัยใกล้ตัวกว่าที่คิด

จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ติดอันดับสูงสุดถึง 2 อันดับแรก สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของมิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปยังหน่วยงานบริการสาธารณูปโภคพื้นฐานซึ่งเข้าถึงประชาชนทุกครัวเรือน กลยุทธ์ของมิจฉาชีพคือการสร้างบัญชี LINE ปลอม โดยใช้ชื่อและโลโก้ที่ใกล้เคียงกับของจริง พร้อมกับสร้างเรื่องราวหลอกลวงว่าเป็นการเปิดช่องทางใหม่เพื่อให้ประชาชนสามารถ “ติดต่อพนักงานได้โดยตรง” หรือ อ้างว่าเป็นบัญชีใหม่ที่ต้องเพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ID เฉพาะ เช่น “PEA11262”

ทางกระทรวงดีอีได้ทำการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า “ข้อมูลดังกล่าวเป็นเท็จทั้งสิ้น”

โดย กฟภ. ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่า ช่องทางการสื่อสารอย่างเป็นทางการผ่านแอปพลิเคชัน LINE ของ กฟภ. มีเพียงบัญชีเดียวเท่านั้น คือ “@PEAThailand” ซึ่งเป็นบัญชีทางการ (LINE Official Account) ที่ผ่านการรับรองและมีสัญลักษณ์ “โล่สีเขียว” ปรากฏอยู่หน้าชื่อ ส่วนบัญชีไลน์อื่นๆ ที่มีการแอบอ้าง โดยเฉพาะไอดี “PEA11262” นั้น เป็นบัญชีปลอมที่มิจฉาชีพสร้างขึ้นเพื่อหลอกลวงประชาชนโดยเฉพาะ กฟภ. ไม่มีนโยบายให้พนักงานติดต่อหรือให้บริการลูกค้ารายบุคคลผ่านบัญชีไลน์ส่วนตัวหรือไอดีอื่นใดนอกเหนือจากบัญชีทางการที่ประกาศไว้

พฤติกรรมของมิจฉาชีพเมื่อมีผู้หลงเชื่อแอดไลน์ปลอมเข้าไป คือการใช้จิตวิทยาหลอกล่อ อาจจะอ้างว่าจะให้ส่วนลดค่าไฟ, แจ้งว่ามีการใช้ไฟผิดปกติ, เสนอบริการพิเศษ หรือแม้กระทั่งข่มขู่ว่ามีค่าไฟค้างชำระและต้องรีบดำเนินการ ก่อนจะส่งลิงก์อันตรายมาให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ เช่น ชื่อ-นามสกุล, เลขบัตรประชาชน, ข้อมูลทางการเงิน, รหัสผ่านต่างๆ หรือหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันควบคุมทางไกล (Remote Access) เพื่อเข้ามายึดโทรศัพท์และดูดเงินออกจากบัญชีธนาคารในที่สุด

เสียงสะท้อนจาก “ดีอี” ชี้มิจฉาชีพมุ่งเป้าบริการสาธารณะ

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงดีอี ได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยกล่าวว่า “เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวการให้บริการประชาชนของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และบริการสินเชื่อของธนาคารออมสิน รวมทั้งการบริการให้ความช่วยเหลือประชาชนของหน่วยงานต่างๆ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนที่สนใจเกิดความเข้าใจผิด มีผลกระทบต่อทั้งตัวบุคคลที่เชื่อและแชร์ข้อมูลส่งต่อกันไปเป็นวงกว้าง เกิดความสับสน โดยประชาชนอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายทั้งทรัพย์สินและข้อมูลส่วนบุคคลได้”

คำกล่าวของโฆษกดีอีชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการโจมตีที่แยบยลของอาชญากรไซเบอร์ ซึ่งมุ่งเป้าไปยัง “ความไว้วางใจ” และ “ความจำเป็น” ของประชาชนที่มีต่อหน่วยงานของรัฐและสถาบันการเงิน การแอบอ้างชื่อหน่วยงานเหล่านี้จึงเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการทะลายกำแพงการป้องกันตัวของเหยื่อ

เกราะป้องกันตนเอง: ตรวจสอบก่อนเชื่อ แชร์ และแอด

กระทรวงดีอีเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “การตระหนักรู้เท่าทันสื่อ” (Media Literacy) ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นอย่างยิ่งในยุคดิจิทัล การหลงเชื่อและส่งต่อข้อมูลโดยขาดการไตร่ตรอง ไม่เพียงแต่จะสร้างความเสียหายให้กับตนเอง แต่ยังอาจเป็นการซ้ำเติมและขยายผลกระทบในสังคมให้กว้างขึ้น

เพื่อป้องกันตนเองจากภัยคุกคามออนไลน์ ประชาชนควรยึดหลักปฏิบัติ ดังนี้

  1. ตรวจสอบบัญชีทางการ: ก่อนจะเพิ่มเพื่อนหรือให้ข้อมูลใดๆ กับบัญชีที่อ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐหรือบริษัทเอกชน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นบัญชีทางการจริงหรือไม่ โดยสังเกตสัญลักษณ์โล่สีเขียวหรือสีน้ำเงินที่ผ่านการรับรองจาก LINE และควรนำชื่อบัญชีไปค้นหาในเว็บไซต์หลักของหน่วยงานนั้นๆ เพื่อยืนยันอีกครั้ง
  2. ไม่คลิกลิงก์แปลกปลอม: ห้ามคลิกลิงก์ที่แนบมากับข้อความที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือลิงก์ที่ร้องขอให้กรอกข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสผ่านโดยเด็ดขาด
  3. อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว: หน่วยงานรัฐและธนาคารไม่มีนโยบายขอข้อมูลส่วนตัวที่ละเอียดอ่อน เช่น เลขบัตรประชาชนเต็ม, รหัสหลังบัตร, รหัสผ่าน, หรือรหัส OTP ผ่านทาง LINE หรือ SMS
  4. ตั้งสติและเอะใจ: หากได้รับการติดต่อที่ดูเร่งรัด ผิดปกติ หรือเสนอผลประโยชน์ที่ดีเกินจริง ให้ตั้งสติและสันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ
  5. แจ้งเบาะแส: หากพบเห็นบัญชีต้องสงสัยหรือข่าวปลอม สามารถช่วยกันเป็นส่วนหนึ่งในการหยุดยั้งภัยคุกคามเหล่านี้ได้โดยการแจ้งเบาะแสไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง

กระทรวงดีอีขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคน หากพบเบาะแสข่าวปลอมและอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ สามารถแจ้งได้ทันทีผ่านช่องทางต่างๆ ของภาครัฐ ตลอด 24 ชั่วโมง ได้แก่

การรู้เท่าทันและร่วมมือกันตรวจสอบ จะเป็นกำแพงที่แข็งแกร่งที่สุดในการปกป้องสังคมไทยให้ปลอดภัยจากเงื้อมมือของเหล่ามิจฉาชีพออนไลน์ที่จ้องจะทำลายความมั่นคงทางเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน

#เตือนภัยออนไลน์ #มิจฉาชีพออนไลน์ #หลอกดูดเงิน #ดีอี #การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค #กฟภ #ข่าวปลอม #บัญชีไลน์ปลอม #PEA #AntiFakeNewsCenter #ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม #เศรษฐกิจดิจิทัล

Related Posts