หัวเว่ย ปักธง 5G-A ผสาน AI ขับเคลื่อนสู่โลกอัจฉริยะ

หัวเว่ย โชว์วิสัยทัศน์ครั้งสำคัญในงาน MWC Shanghai 2025 ภายใต้แนวคิด “Accelerating the Intelligent World” ประกาศความสำเร็จในการสร้างรายได้จากเทคโนโลยี 5G-Advanced และศักยภาพของ AI เชิงสถานการณ์ ชู 3 นวัตกรรมหลักด้านบริการ โครงสร้างพื้นฐาน และการดำเนินงาน พร้อมเปิด 4 แนวทางขับเคลื่อนการเติบโตครั้งใหม่ให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมโลก ท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคอัจฉริยะเต็มรูปแบบ

เซี่ยงไฮ้, จีน – ท่ามกลางบรรยากาศคึกคักของงาน Mobile World Congress (MWC) Shanghai 2025 หัวเว่ย (Huawei) ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ได้ขึ้นเวทีประกาศความสำเร็จและความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการผลักดันเทคโนโลยี 5G-Advanced (5G-A) เข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ และการสร้างมูลค่าจากบริการที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เชิงสถานการณ์ นิทรรศการของหัวเว่ยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้ธีมที่ชัดเจนคือ “Accelerating the Intelligent World” หรือ “เร่งการเปลี่ยนผ่านสู่โลกอัจฉริยะ” ซึ่งเป็นการตอกย้ำถึงภารกิจในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกครัวเรือน และทุกองค์กร

เวทีของหัวเว่ยได้กลายเป็นศูนย์กลางการหารือที่สำคัญระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือระดับโลก, พันธมิตรอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด เพื่อร่วมกันกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าที่ยั่งยืนผ่านเทคโนโลยี AI ซึ่งกำลังจะกลายเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตในยุคต่อไป

5G-A และ AI: สองเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนการเติบโตยุคใหม่

การเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5G-A กำลังจะเกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยคาดการณ์ว่าการใช้งานเชิงพาณิชย์จะเร่งตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายในปี 2568 โดยมีภูมิภาคจีน, ตะวันออกกลาง และเอเชียแปซิฟิกเป็นหัวหอก ปัจจุบัน ประเทศจีนได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในการประยุกต์ใช้ 5G-A อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีการเปิดให้บริการแล้วในกว่า 300 เมืองทั่วประเทศ มีผู้ใช้งานทะลุ 10 ล้านราย และผู้ให้บริการเครือข่ายในกว่า 30 มณฑลได้เสนอแพ็กเกจ 5G-A อย่างเป็นทางการแล้ว

ความสำเร็จดังกล่าวไม่ได้หยุดอยู่แค่ในประเทศจีน ผู้ให้บริการในตะวันออกกลางและภูมิภาคอื่นๆ ก็กำลังเร่งสำรวจโมเดลธุรกิจและแนวทางการสร้างมูลค่ารูปแบบใหม่จากประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า ผ่านการนำเสนอบริการอัปเกรดระดับพรีเมียม

5G-A ไม่ได้เป็นเพียงการอัปเกรดความเร็วอินเทอร์เน็ตบนมือถือเท่านั้น แต่ยังเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่ความอัจฉริยะในหลากหลายภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living), การคมนาคมอัจฉริยะ (Smart Transportation) และการผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนต้องการเครือข่ายที่มีความเร็วสูงเป็นพิเศษ, ความหน่วงต่ำ และความน่าเชื่อถือสูงสุด

ขณะเดียวกัน นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วย AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอย่างสิ้นเชิง ผู้ให้บริการเครือข่ายต่างตระหนักถึงศักยภาพมหาศาลนี้ และเริ่มปรับเปลี่ยนตำแหน่งของตนเอง จากเดิมที่เป็นเพียงผู้ให้บริการการเชื่อมต่อ สู่การเป็น “ผู้ให้บริการเอเจนต์ AI” (AI Agent Provider) ที่นำเสนอโซลูชันคุณภาพสูง, บูรณาการ และสามารถปรับให้เหมาะกับความต้องการของแต่ละบุคคลได้อย่างแท้จริง

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือตลาดสมาร์ทโฮม ที่ผู้ให้บริการได้ยกระดับบริการดั้งเดิมให้สามารถประสานการทำงานของอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างไร้รอยต่อ สร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตที่สะดวกสบายและเป็นหนึ่งเดียวกับเทคโนโลยี ในภาคบริการภายในยานยนต์ ผู้ให้บริการกำลังรุกเข้าสู่ตลาดนี้ด้วยการผสานเอเจนต์ AI เข้ากับเทคโนโลยี V2X (Vehicle-to-Everything) เพื่อสร้าง “พื้นที่ที่สาม” (The Third Space) บนยานพาหนะที่ชาญฉลาดและพร้อมสร้างรายได้ในรูปแบบใหม่ๆ

วิสัยทัศน์ผู้บริหาร: 4 แนวรุกขับเคลื่อนการเติบโต

นายเอริค สวี (Eric Xu) รองประธานและประธานกรรมการบริหารแบบหมุนเวียนตามวาระของหัวเว่ย ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ “แนวทางการขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม” โดยให้ภาพรวมว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมได้ก้าวผ่านช่วงเวลาแห่งการเติบโตอย่างรวดเร็วมานานเกือบ 4 ทศวรรษ และกำลังเข้าสู่ช่วงของการพัฒนาที่มั่นคง ซึ่งมาพร้อมกับความท้าทายในการแสวงหาแหล่งรายได้และการเติบโตในรูปแบบใหม่

เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าว นายสวีได้เสนอแนวทางการเติบโต 4 ประการที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยผลักดันอุตสาหกรรมให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ได้แก่:

1. ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไป: ทำความเข้าใจและตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้ใช้งานที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พร้อมทั้งมองหาและรองรับความต้องการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในการสร้างมูลค่าสูง
2. เจาะตลาดวิดีโอความคมชัดสูง (HD): เพิ่มปริมาณและการบริโภคคอนเทนต์วิดีโอ HD ผ่านการสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่งในระบบนิเวศของผู้ผลิตคอนเทนต์และผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม
3. ขยาย 5G สู่ทุกยานยนต์: ผลักดันบริการ 5G ให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของยานยนต์ทุกคัน เพื่อสร้างการเติบโตระลอกใหม่ในตลาดยานยนต์อัจฉริยะที่เชื่อมต่อถึงกัน (Smart Connected Vehicle)
4. นำ FTTR สู่ธุรกิจ SME: นำเสนอเทคโนโลยี Fiber to the Room (FTTR) หรือการเดินสายไฟเบอร์ออปติกถึงทุกห้อง ให้กับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดย่อม (SME) เพื่อปลดล็อกโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ AI

“แน่นอนว่า ผู้ให้บริการแต่ละรายมีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นตลาด สภาพแวดล้อมทางธุรกิจ หรือภูมิทัศน์ในการแข่งขัน ดังนั้นแนวทางการเติบโตก็ต้องแตกต่างกันด้วย” นายสวี กล่าวสรุป “เราพร้อมร่วมมือเพื่อช่วยผู้ให้บริการ ค้นหาโอกาสเฉพาะของตนและพัฒนาเส้นทางการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว”

3 เสาหลักนวัตกรรม: พลิกโฉมบริการ โครงสร้างพื้นฐาน และการดำเนินงาน

ภายในงาน MWC Shanghai 2025 หัวเว่ยได้จัดแสดงนวัตกรรมล่าสุดที่ครอบคลุม 3 ด้านหลัก ซึ่งเปรียบเสมือนเสาหลักในการขับเคลื่อนโลกอัจฉริยะ

1. ด้านบริการ (Services): หัวเว่ยได้ประกาศความสำเร็จของโครงการสร้างรายได้จากประสบการณ์การใช้งาน 5G-A และโครงการประยุกต์ใช้ AI ในสถานการณ์ต่างๆ (AItoX) ที่ได้ดำเนินงานร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายรายใหญ่สามรายของประเทศจีน ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ถึงความสำเร็จในทางปฏิบัติ
2. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure): หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน “AI Ultra-Broadband (AI UBB)” แบบครบวงจรเป็นครั้งแรก โซลูชันนี้ครอบคลุมตั้งแต่ระดับบรอดแบนด์ภายในบ้านไปจนถึงเครือข่ายส่งสัญญาณ (Transport Network) โดยมาพร้อมกับพลังการประมวลผลในตัวแบบ End-to-End และการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างสมบูรณ์ เพื่อเร่งวิวัฒนาการของเครือข่ายไปสู่ระดับที่มีความเป็นอัตโนมัติสูง (High-level Autonomy) ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งาน AI และสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจได้อย่างเต็มศักยภาพ
3. ด้านการดำเนินงาน (Operations): หัวเว่ยและพันธมิตรผู้ให้บริการเครือข่ายในจีน ได้ร่วมกันแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดและความสำเร็จล่าสุดในการดำเนินงานเครือข่ายไร้สายอัจฉริยะ, การให้บริการบรอดแบนด์ภายในบ้านแบบอัจฉริยะ รวมถึงการให้บริการประมวลผล AI สำหรับการฝึกฝนโมเดล (Model Training) และการนำไปใช้งานจริง (Inference) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ให้บริการสามารถสร้าง, บริหารจัดการ และใช้งานศักยภาพด้านการประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

บทสรุปและก้าวต่อไป

การจัดแสดงของหัวเว่ยในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า อุตสาหกรรมโทรคมนาคมกำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ การบรรจบกันของ 5G-A และ AI ไม่ใช่เพียงแนวคิดในอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงและสร้างผลกระทบในวงกว้าง โดยมีประเทศจีนเป็นต้นแบบความสำเร็จที่ชัดเจน

การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้กำลังเปิดประตูสู่โอกาสทางธุรกิจและโมเดลการสร้างรายได้รูปแบบใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนสื่อสารและมีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบตัว หัวเว่ย ซึ่งมีพนักงานกว่า 207,000 คน และดำเนินธุรกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก ยืนยันความพร้อมในการร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสำรวจศักยภาพของนวัตกรรม AI ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และร่วมกันเร่งการเดินทางสู่โลกอัจฉริยะให้เป็นจริงเร็วขึ้น

#Huawei #5GA #5GAdvanced #AI #MWCS2025 #IntelligentWorld #DigitalTransformation #EconomicNews #Telecom #หัวเว่ย #เอไอ #โลกอัจฉริยะ #เทคโนโลยี #ข่าวเศรษฐกิจ